สัญญาณการท่องเที่ยวเริ่มมา หลังทั่วโลกฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับประเทศไทยชูเกาะภูเก็ตนำร่อง เปิดรับต่างชาติที่ฉีดครบ 2 โดส ขณะที่กระแสเหยียดเอเชียลามทั้งสหรัฐฯ และยุโรป กระทบคนเอเชียผวาถูกทำร้ายเที่ยวหรูอย่างไรก็ไม่สนุก ส่งผลเกิดกระแส “เอเชียเที่ยวเอเชีย” โดยจีนเลือกเที่ยวไทยเบอร์ 1 ส่วนไทยเลือกเที่ยวญี่ปุ่น-เกาหลี-จีน ตามลำดับ
การท่องเที่ยวถือเป็นอีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่สร้างรายได้เข้าประเทศมาก แต่ภาครัฐและเอกชนก็ต้องใส่ใจดูแล สภาพพื้นที่ทางธรรมชาติ จุดขายด้านศิลปะวัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทย มีนักท่องเที่ยวก็มีรายไดัทั้งผู้ประกอบการ ธุรกิจเกี่ยวข้องและคนในพื้นที่
ในห้วงเวลาที่ทุกประเทศต่างเร่งควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนภายในประเทศ จำนวนผู้ฉีดวัคซีนทั่วโลกมีมากกว่า 2 พันล้านโดส ในเมืองไทยฉีดไปแล้วกว่า 5 ล้านโดส วัคซีนจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้แก่ทุกประเทศ ด้วยความเชื่อมั่นว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วจะมีภูมิคุ้มกัน
กรณีของจังหวัดภูเก็ตที่จะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 ก.ค. 2564 ตามโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติเห็นชอบในหลักการให้จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม และมีผลตรวจโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงภูเก็ต มีเที่ยวบินบินตรงเข้าภูเก็ต และตรวจเชื้อเมื่อเดินทางมาถึงโดยไม่ต้องกักตัว และต้องอยู่ในพื้นที่ภูเก็ตหรือพื้นที่นำร่องอย่างน้อย 7 คืน ก่อนเดินทางไปยังพื้นที่อื่น
กลุ่มเป้าหมายการทำการตลาดจะต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว เช่น อังกฤษ เยอรมนี รัสเซีย อิสราเอล กลุ่มประเทศ GCC นอร์ดิก โดยในช่วงไตรมาสตั้งแต่เดือน ก.ค.-ต.ค. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตทั้งระยะใกล้และระยะไกล 129,000 คน คาดมีรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว จำนวน 11,492.2 ล้านบาท
โดยหลายสายการบินประกาศแผนบินเข้าภูเก็ตในเดือนก.ค.นี้แน่นอน ทั้งสายการบินที่เคยบินเข้าภูเก็ต และไม่เคยบินมาก่อน เช่น สายการบินจากอิสราเอล ฝรั่งเศส สายการบินบริติชแอร์เวย์ คาร์เธย์แปซิฟิก เอทิฮัด การ์ตาแอร์เวย์ เอมิเรตส์ สำหรับการบินไทยเปิดเส้นทางบินตรงยุโรป และฮ่องกงสู่ภูเก็ตด้วย
ภูเก็ตถือเป็นโครงการนำร่อง ส่วนการขยายไปยังจังหวัดอื่นตามแผนงานเปิดรับนักท่องเที่ยวเฉพาะพื้นที่จะเริ่มได้ในไตรมาส 4/64 ได้แก่ เชียงใหม่ พังงา กระบี่ เกาะสมุย พัทยา กทม. ชะอำ หัวหิน บุรีรัมย์ โดยต้องติดตามสถานการณ์จากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ก่อนสักระยะว่าประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน และต้องปรับแนวทางดำเนินการอย่างไร
ขณะที่การเหยียดชาวเอเชียระบาดหนักมาก ในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นประชาธิปไตย และการโฆษณาเรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างสหรัฐอเมริกา แต่มีการก่อเหตุทำร้ายบ่อยครั้งกับชาวเอเชีย และคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียรวมถึงคนไทย พุ่งเป้าที่คนแก่และผู้หญิง มีทั้งข่มขู่บูลลี่ ทำลายข้าวของ ทำร้ายร่างกาย จนถึงขั้นปล้นและเอาชีวิต กระแสเกลียดชังและเหยียดชาวเอเชียยังลามระบาดในดินแดนยุโรป ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส มีคดีทำร้ายชาวเอเชียหลายคดีผิดปกติ
การแพร่ระบาดของโควิด-19 กลายเป็นชนวนปลุกให้คนอเมริกันและยุโรปหันมามองชาวเอเชียในด้านลบ มองว่าเป็นต้นตอของการเผยแพร่เชื้อไวรัสดังกล่าว เพราะการโฆษณาชวนเชื่อใส่ร้ายป้ายสีจีนของรัฐบาลสหรัฐ ตั้งแต่สมัยอดีตปธน.ทรัมป์มาจนถึงยุคของปธน.โจ ไบเดน ซึ่งเลวร้ายหนักกว่าเดิม
ผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายหนึ่ง กล่าวว่า กรณีการเหยียดชาวเอเชียในสหรัฐฯ และบางประเทศในยุโรปนั้นมีผลต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวคนไทยอย่างแน่นอน เพียงแต่ปลายทางอย่างสหรัฐฯ ส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่เป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวชาวไทย ส่วนยุโรปอย่างที่อังกฤษและฝรั่งเศสที่มีเรื่องการเหยียดชาวเอเชียเช่นกัน ตรงนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลของแต่ละประเทศต้องหาทางควบคุมสถานการณ์ เพราะจะส่งผลเสียต่อด้านการท่องเที่ยว ส่งผลต่อรายได้มหาศาลที่อาจสูญเสียไป
การเหยียดชาวเอเชียถือเป็นการตีความรวมทั้งกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกแทบทั้งหมด ซึ่งมีนักท่องเที่ยวหลายล้านคน โดยเฉพาะจีน ที่มีกำลังซื้อมาก นักท่องเที่ยวจีนจะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลจีน หากไม่ส่งเสริมให้ไปประเทศใด ประเทศนั้นก็จะขาดนักท่องเที่ยวจีนไปแทบทั้งหมด ดังนั้น ประเทศใดที่มีการเหยียดเอเชียจะไม่ส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศนั้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้คนในทุกประเทศอยากเดินทางท่องเที่ยว เพราะโควิด-19 ทำให้ผู้คนว่างเว้นจากการท่องเที่ยวมามากกว่า 1 ปี แต่ยังยากต่อการประเมินว่าการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบจะเกิดขึ้นได้เมื่อใด แต่เริ่มมีสัญญาณที่จะเปิดรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วให้เข้ามาท่องเที่ยวได้ในบางประเทศ
ส่วนเส้นทางยุโรปความกังวลเรื่องเหยียดเอเชีย อาจจะเป็นตัวเร่งให้คนตัดสินใจไม่เลือกเส้นทางดังกล่าว เพราะมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน
สำหรับนักท่องเที่ยวรายใหญ่อย่างจีน ตอนนี้เป้าหมายลำดับแรกในการเดินทางยังเป็นไทย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เป็นหลัก เส้นทางยุโรปคงเป็นพื้นที่เสี่ยงสำหรับเขา ดังนั้นประเทศในแถบเอเชียจึงได้รับผลบวกจากสถานการณ์นี้เรียกว่าเอเชียเที่ยวเอเชียก็ว่าได้
ที่ผ่านมานั้นนักท่องเที่ยวเอเชียที่ไปยุโรปหรือสหรัฐฯ มักจะถูกเหยียดในระดับคำพูด แต่การทำร้ายนั้นเพิ่งมาเกิดหลังสถานการณ์โควิด-19 และการปลุกกระแสจากผู้นำสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกที่มุ่งต่อต้านจีนอย่างโจ่งแจ้ง
นักท่องเที่ยวจากจีนถือว่ามีความสำคัญกับการท่องเที่ยวในหลายประเทศ หากนักท่องเที่ยวจีนไม่เดินทางไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ประเทศปลายทางนั้นจะขาดรายได้ไปอย่างมาก ความกังวลในความปลอดภัยของการเดินทางไปเส้นทางยุโรป ย่อมทำให้โอกาสที่คนเอเชียเดินทางไปยุโรปน้อยลง จะส่งผลกระทบต่อสายการบินที่ให้บริการด้วยเช่นกัน ทั้งประเภทบินตรงและบินแบบต่อเครื่อง
ปัญหาเรื่องเหยียดเอเชียได้ลามสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง!!