เปิดใจ “ม้า อรนภา” เหยื่อทัวร์สามกีบ ทำอะไรก็ผิด? ในวันชีวิตตกผลึก เทียบ “แขก คำผกา” หยาบคาย แต่ไม่โดนอะไรจากอีกฝ่าย?

2517

เปิดใจ “ม้า อรนภา” เหยื่อทัวร์สามกีบ ทำอะไรก็ผิด? ในวันชีวิตตกผลึก เทียบ “แขก คำผกา” หยาบคาย แต่ไม่โดนอะไรจากอีกฝ่าย?

จากกรณีที่ ม้า อรนภา กฤษฎี ที่ได้เดินทางไปฉีดวัคซีนเข็มแรกที่ โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง โดยได้โพสต์ภาพขณะกำลังเข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมกับระบุข้อความเอ่ยชมโรงพยาบาล และรัฐบาลที่ดูแลประชาชน เป็นอย่างดี “ฉีดวัคซีนโควิด19 เรียบร้อย ขอบคุณ รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง ที่บริการเป็นอย่างดี สะดวกสบาย จัดระบบดีมาก และขอบคุณรัฐบาลนี้เป็นอย่างสูง ที่ดูแลประชาชน หลังจากพัก 30 นาที อาการปกติ”

ก็ทำให้เกิดกระแสดราม่า เมื่อกลุ่มแนวร่วมสามกีบเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ว่า ได้รับเงินค่าจ้างจากรัฐบาล ทั้งที่ความจริงแล้ว ม้า อรนภา ได้รับวัคซีนจากการลงทะเบียนหมอพร้อม ที่ต้องลงทะเบียนถึง 4 ครั้ง แต่กลุ่มแนวร่วมสามกีบก็เอามาโจมตีอย่างหนัก

ล่าสุดทางด้าน ม้า อรนภา ได้ออกมารายการ แฉ ซึ่งก็ได้เปิดใจเกี่ยวชีวิตหลังจากออกจากวงการบันเทิงว่า เขาได้ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนประชาชนทั่วไป ไม่ได้มีชื่อเสียง ไม่ได้เป็นบุคคลสาธารณะเหมือนแต่ก่อน แต่ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิด และก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น แต่กลุ่มฝ่ายตรงข้าม กลับวิพากษ์วิจารณ์เขาอย่างหนัก รวมไปถึงด่าทอด้วยคำหยาบคาย แม่ของม้า อรนภา ที่มีอายุ 96 ปีแล้ว ไม่เคยทำอะไรผิด แต่กลับถูกวิจารณ์อย่างหนัก แม้ว่าจะออกจากวงการแล้ว 8 เดือน ก็ทำไมยังตามด่าไม่เลิก

ทุกวันนี้ม้า อรนภา ใช้ชีวิตเหมือนกับประชาชนทั่วไป จากรายได้ที่ได้เป็นจำนวนมาก กลับกลายเป็นศูนย์ ต้องไปขายห่อหมกที่ตลาด เสื้อผ้าที่แต่งตัวนั้น ก็เป็นเสื้อผ้าที่เคยมี และทำตัวเองให้ผอมเพื่อที่จะได้ไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าไซส์ใหม่ ของทุกอย่างเป็นของที่เขาเคยมี ใช้ชีวิตไม่ประมาณในตัวเอง พยายามควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างให้อยู่ด้วยความพอประมาณในชีวิต ซึ่งเรียกได้ว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ถูกด่าทอด้วยคำหยาบคายตลอด ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ยืนอยู่ได้ก็เพราะสัจธรรมทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น หลังจากที่ถูกออกจากงานหมดทุกอย่าง ไม่เคยร้องไห้เลย นั่งอยู่กับแม่วันนั้น ก็นั่งนิ่งเฉยด้วยจิตที่เคยปฏิบัติธรรมมา อยู่กับปัจจุบันเสมอ ดังนั้น อะไรมักจะเกิด ก็ให้มันเกิด

ชมคลิป

https://www.facebook.com/onebunterng/posts/2908263769435062?__cft__[0]=AZW2mYM_YpAeoYAbS2skWnyABlcIYZ1Gg4JA0OMbcHyaWxn9d2VT0DmlV9Mh0E8tHh4WVMmAItjx5R4QjEZWUfrL09iGiW1K5wn5QC7cYS5_UmIh-tSWvn507yf5brUDoDVVawWlH_PNjFofQd9PX8eyoWZrwNe5KJO-WoXYJbHe9Q&__tn__=%2CO%2CP-y-R

ในขณะเดียวกันทางด้าน ของนายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า

กลุ่มคน ที่ประกาศตัวว่า เป็นคนรุ่นใหม่ เรียกร้องประชาชน เรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ เรียกร้องความเสมอภาค
แต่พฤติกรรมตรงกันข้าม คือ คุกคามสิทธิ เสรีภาพ ของผู้อื่น ประกาศว่าตนเป็นประชาธิปไตย แต่ใครเห็นต่างจากตนก็ตามไปถล่ม
ประชาธิปไตยที่พ่อแม่ ที่หนีคดีอยู่เมืองนอก สอนมาใช่มั้ย
ประชาธิปไตยที่พี่ตี๋หนึ่งบูดช่อ สอนมาใช่มั้ย
ประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ที่ต้องคุกคาม ระรานคนอื่นไปทั่ว
มดดำร้องไห้สงสารพี่ม้า แต่..คนที่ไปถล่มพี่ม้า ก็คือกลุ่มคนที่มดดำสนับสนุน หรืออยู่ฝ่ายที่มดดำนิยม
ต่อมาทางด้าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถึงกรณีม้า อรนภา ก็ได้มาให้สัมภาษณ์ในรายการ แฉ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับชีวิตในช่วงนี้  ว่า “เธอพูดดี ลองฟังดูครับ ไม่ต้องฟังทั้งหมดมันยาว สัก 5 นาที 10 นาทีก็พอ เธอมีหลักในการใช้ชีวิต”
หากย้อนไปเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564  ม้า อรนภา ก็ได้โพสต์ข้อความพร้อมกับภาพ ขณะออกมาตั้งเต็นท์ขายห่อหมกอยู่ที่หมู่บ้านสัมมากร ตลาด NAKA Market และแม้ว่าจะฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่เธอนั้นก็ไม่ท้อ ยืนรอลูกค้าเพื่อว่าฝนหยุด แล้วคงจะมาซื้อกัน พร้อมแคปชั่นว่า “ชีวิตต้องสู้ เดี๋ยวฝนหยุดลูกค้าก็มา เชิญนะคะ”
ในขณะที่ พิธีกรฝีปากกล้า ที่หนุนสามกีบ อย่างลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา หรือ แขก ที่มักจะวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หยาบคาย ยกตัวอย่างเช่นกรณีของพิมรี่พาย ยูทูบเบอร์ชื่อดังว่า ขนาดทำบุญ ทำความดียังถูกบอยคอตเพียงเพราะทักษิณ mentioned ถึงนี่มันควรคิดได้นะว่าสังคมวิปริต มึงอ่ะควรด่าความวิปริตนี้ ไม่ใช่ไปบอกทักษิณให้หยุดพูดถึงมึง ถ้าเรื่องวิปริตแค่นี้มองไม่ออก ก็เป็นทาสให้มาเฟียบูลลี่และทำฟาร์มบุญปลอมๆ หลอกคนในสังคมจอมปลอมนี้ต่อไปเถอะ
นอกจากนี้ คำ ผกา ได้จัดรายการ IN HER EYES ทางโซเชียลมีเดียของวอยซ์ทีวี ระบุว่า มีคนถามโทนี่ (นายทักษิณ) ถึงการแก้ไขปัญหาโควิดในโรงพยาบาลสนาม แล้วมีมุกในโลกออนไลน์ว่าพิมรี่พายมีประสิทธิภาพดีกว่ารัฐบาลนั้น เป็นการ exaggerated (พูดเกินจริง) เพื่อความบันเทิงและให้ภาพบางภาพชัดเจนขึ้นว่ารัฐบาลทำไม่ได้ สงสัยพิมรี่พายทำได้ทุกอย่างเลยไหม เป็นเครื่องด่าที่ทำให้เข้าใจง่ายและเห็นภาพชัด ในการพูดคุยของกลุ่มแคร์ คิดว่านายทักษิณพูดทีเล่นทีจริงว่า ถ้ารัฐบาลทำไม่ได้ก็ไปขอพิมรี่พาย คนก็รู้สึกว้าว เพราะนายทักษิณไม่ตกเทรนด์ ติดตามกระแสโซเชียลตลอดเวลา และชอบที่นายทักษิณมาเล่นมุกที่แชร์ด้วย
สันดานสลิ่มไง ก็กลัวจะถูกแปดเปื้อนจากทักษิณ กลัวจะถูกแปดเปื้อนจากโทนี่ กูก็ว่าแล้ว กูดูคนไม่ผิดว่ากูด่าอีพิมรี่พายมาตั้งแต่ต้น เรียกอีดอx อีสลิ่ม นึกออกป่ะ คือ แบบตอนไปทำโซลาร์เซลล์อะไรก็เนี่ย เด็กดอยไม่รู้จักไข่ทอด ไข่เจียว อะไรอย่างเนี้ย ก็คือความสันดานสลิ่ม ก็ชอบทำงานฮือฮา มนุษยธรรม ได้บริจาคไปเรื่อยๆ แล้วก็ขายของ ได้ทำซีเอสอาร์ของตัวเอง เราก็ไม่ว่ากัน และในยุคนี้ความคาดหวังทุกอย่างบนโลกของเรามันก็ต่ำลงเรื่อยๆ ถ้าอยู่ในประเทศที่ทุกอย่างมันปกติ คนอย่างพิมรี่พายมันก็จะเป็นแค่ติ่งเล็กๆ ของสังคม ก็คือ แม่ค้าออนไลน์คนหนึ่งชอบทำบุญ มันก็จะไม่มีหน้ามีตาขนาดนี้ แต่เราอยู่ในโลกที่แตะไปตรงไหนก็พัง มีแม่ค้าออนไลน์คนหนึ่งมาทำอะไรแบบนี้ มันก็เลยกลายเป็นดาวเด่นขึ้น มันก็เหมือนสมัยก่อนที่เราบ้าอีพี่เช็ค คนค้นฅน (นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ พิธีกรรายการคนค้นฅน) มันก็อิหรอบเดียวกัน ถ้ายุคหนึ่งคุณมีคุณเช็ค คนค้นฅน เป็นฮีโร่ หรือยุคนี้คุณเปลี่ยนจากคนทุกคนมาเป็นพิมรี่พาย มันก็อิหรอบสันดานเดียวกัน ก็สมน้ำหน้าแล้ว พิมรี่พายสุดท้ายก็คือแบบ (เสียงสูง) ว๊าย อย่าเอาฉันไปเกลือกกลั้วกับอีโทนี่ อีคนโกงชาติ โกงแผ่นดินอย่างนี้เหรอ นางก็เลยบอกว่าอย่าเอาตัวนางไปเกี่ยว เกี่ยวอะไร เขาไม่ได้เอามือไปเกี่ยว คนอยู่นอกประเทศแล้วเป็นยังไงคะ