หลังจากที่มีการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประจำประมาณ พ.ศ. 2565 ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้มีส.ส.พรรคฝ่ายค้านหลายคนที่ทำหน้าที่อภิปราย และได้พาดพิงถึงเรื่องงบสถาบันฯ
จนล่าสุดทางด้านผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ระบุถึงประเด็นดังกล่าวด้วยว่า
มีท่านผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือกัน ดูอภิปรายงบประมาณในรัฐสภา แล้วเห็นการโจมตีใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ไม่มี ส.ส. คนไหน ออกมาตอบโต้ หรือแย้ง หรือประท้วง ท่านเดินมาหาผม แล้วบอกว่า ผมควรไปเป็น ส.ส. ในสภา เชื่อว่าผมจะสามารถตอบโต้ ส.ส. ล้มเจ้าพวกนี้ได้ ด้วยข้อมูลที่แม่นกว่า ลึกกว่า และด้วยปฏิภาณไหวพริบที่ดีกว่า ให้ไปสมัครเป็น ส.ส เถิด ไปทำหน้าที่ปกป้องสถาบันในสภา
ผมเองไม่เคยคิดอยากเป็นนักการเมือง ไม่ต้องการมีชื่อเสียง ไม่ต้องการตำแหน่งใด ๆ แต่ถ้าการมีตำแหน่งจะทำให้สามารถทำหน้าที่ได้ดีขึ้น ผมก็อาจจะคิดดูอีกที แต่เวลานี้รู้สึกว่ายังไม่อยากสูญเสียความเป็นส่วนตัว อยากให้ชีวิตสบาย ๆ ไม่อยากวุ่นวายกับนักการเมืองที่ผมแสนจะรังเกียจ แต่ถ้าถึงเวลาต้องทำเพื่อบ้านเมืองก็อาจจะต้องทำ แต่ยังไม่ใช่เวลานี้
ขณะที่ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าไปแสดงความเห็นทำนองเดียวกันว่า “ไม่เข้าใจว่าทำไม ส.ส. ถึงไม่ทำหน้าที่อธิบาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในประเทศอื่น คนเหล่านี้เขาทำหน้าที่กัน ไม่เข้าใจจริง ๆ”
โดยเมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา เบญจา แสงจันทร์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 โดยระบุว่าต้องปฏิรูปงบที่เกี่ยวกับสถาบันฯ เพื่อไม่ถูกนำไปแอบอ้าง กระทบพระเกียรติยศ และเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. นายสุทิน คลังแสง ได้รื้อฟื้นคดีจำนำข้าว ชี้ว่านายกฯกลบเกลื่อนความผิดตัวเอง ไม่เป็นผู้ใหญ่ พร้อมแจงว่าโครงการจำนำข้าวเป็นนโยบายสาธารณะ กระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่คำนึงถึงกำไร ขาดทุน และยังดำพระราชดำรัสในหลวง ร.9 มาเทียบกับโครงการจำนำข้าวด้วย