อวดเก่งแต่ไม่ฉลาดพอ!! เรืองไกร จี้เอาผิด “พิธา” ตัดงบตามใจชอบ มีสิทธิ์ผิดม.144 โดนถอดนั่งแท่น กมธ.งบฯ 65

1770

จากกรณีที่กลุ่มเครือข่าย We Fair นำโดยนายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ เข้ายื่นหนังสือต่อตัวแทนพรรคฝ่ายค้าน ได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 (กมธ.งบฯ)

ขอให้พิจารณาจัดลำดับความสำคัญในนโยบายสวัสดิการสังคม ได้แก่ สุขภาพ การศึกษา ประกันสังคม ที่อยู่อาศัย เงินอุดหนุนเด็ก บำนาญประชาชน มากกว่านโยบายที่ไม่ใช่ลำดับความสำคัญ คืองบฯจัดซื้ออาวุธ ขอให้ทบทวนการจัดสรรงบประมาณใหม่

โดยต่อมา นายพิธา ยืนยันว่างบประมาณปีนี้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง และไร้สามัญ สำนึก มีการจัดงบระหว่างอภิสิทธิ์ชนกับประชาชนในยามที่ประเทศดิ่งเหว สะท้อนให้เห็นถึงสังคมไทยว่ายังเป็นแบบไหน เรามีหน้าที่ปกป้องสวัสดิการของประชาชนตามที่ให้สัญญาไว้ คือการรีดไขมันเพื่อนำงบของอภิสิทธิ์ชนและงบทหารมาเป็นกองกลางให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปจัดซื้อวัคซีนมากกว่าจัดซื้ออาวุธ และกระจายงบประมาณคืนกลับหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโควิด-19 จะไปพูดคุยใน กมธ.ฯและรัฐบาล

ล่าสุดทางด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 (กมธ.งปม. 65) เปิดเผยว่า ตนเองนั้นเห็นข่าวเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. และ 6 มิ.ย. ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เกี่ยวกับการจะปรับลดงบประมาณปี 2565 แล้วรู้สึกไม่สบายใจ และคงจะต้องเตือนด้วยความหวังดี ตามเนื้อข่าว นายพิธา ตั้งใจทำงานดี โดยจะใช้ฐานะ กมธ.งปม. คนหนึ่ง ปรับลดงบประมาณออกจำนวนหนึ่ง และกล่าวด้วยว่า จะนำงบประมาณที่ปรับลดไปใช้อย่างนั้นอย่างนี้ รายละเอียดปรากฏทั้งในข่าวและในเฟซบุ๊กไปแล้วนั้น

การกระทำดังกล่าวของนายพิธา มีสองส่วน ส่วนหนึ่งทำได้ แต่อีกส่วนหนึ่งทำไม่ได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ส่วนที่ทำได้คือ ส.ส. หรือกรรมาธิการ ทำการปรับลดงบประมาณได้ ยกเว้นเฉพาะบางรายการที่ห้ามไว้ ส่วนที่ทำไม่ได้คือ การปรับลดงบประมาณที่มีผลทำให้ ส.ส. หรือ กมธ.มีส่วนในการใช้งบประมาณ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม จะกระทำมิได้ สิ่งที่นายพิธา คิดและจะทำในส่วนที่สอง คือ อ้างว่าจะนำงบประมาณที่ปรับลดไปใช้อย่างนั้นอย่างนี้ จึงทำไม่ได้ กรณีนายพิธา ถือเป็นความผิดที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่เกิดการกระทำตามมา ประกอบกับ กรรรมาธิการฯ มีทั้ง ส.ส. และคนที่ไม่ใช่ ส.ส. ดังนั้น เพื่อให้เกิดความระมัดระวังมิให้มีการฝ่าฝืนมาตรา144 จึงเห็นว่า ควรนำเรื่องนี้แจ้งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเตือน ส.ส. ในสภา และอีกทางหนึ่ง ก็แจ้งให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง แจ้งเตือนในที่ประชุม กมธ.งบฯ ในช่วงบ่ายวันนี้จะยื่นหนังสือให้ประธานสภาฯ เพื่อดำเนินการแจ้งเตือน ส.ส. ต่อไป