“หมอเหรียญฯ” เชือด “ผอ.เขตหลักสี่” แอบโทรหา ถูกนักการเมืองกดดัน สั่งปิด รพ.สนาม

2146

โง่ดักดาน!? “หมอเหรียญฯ” เชือด “ผอ.เขตหลักสี่” แอบโทรหา ถูกนักการเมืองกดดัน สั่งปิด รพ.สนามพลังแผ่นดิน!!

สืบเนื่องจากกรณีที่ทางด้านของ สำนักงานเขตหลักสี่ออกคำสั่งห้ามใช้หรือเข้าไปในอาคาร รพ.สนามพลังแผ่นดิน และออกคำสั่งระงับการก่อสร้าง จนกลายเป็นประเด็นสุดร้อนแรงเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา

หมอเหรียญฯ แฉยับ เขตหลักสี่ สั่งห้ามสร้าง “รพ.สนาม” แต่กลับปล่อย ร้านค้าผิดกฎหมาย

โดยในช่วงค่ำของวันที่ 3 มิ.ย.64 ทางด้านของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ข้อความ โดยเป็นการแฉเบื้อลึกว่า

พรุ่งนี้เช้า 4 มิ.ย.64 เวลาประมาณ 8.00 น. ผมจะตอบคำถามรายการเจาะลึกทั่วไทยฯ โดยคุณ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และคุณ อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ เกี่ยวกับประเด็นสำนักงานเขตหลักสี่ปิดประกาศคำสั่งห้ามใช้หรือเข้าไปในอาคาร รพ.สนามพลังแผ่นดิน และออกคำสั่งระงับการก่อสร้าง รพ.สนามพลังแผ่นดิน
เพื่อให้ประชาชนทราบข้อมูลเบื้องต้นก่อนฟังรายการดังนี้

1. ประกาศคำสั่งฯดังกล่าวถูกติดไว้ที่ประตูทางเข้า รพ.สนามพลังแผ่นดิน พร้อมติดเทปล้อมห้ามเข้า รพ.สนามพลังแผ่นดินโดย จนท.เขตหลักสี่ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 พ.ค.64 เวลา 11.45 น.ซึ่งขณะนั้น รพ.สนามพลังแผ่นดินได้รับการส่งต่อผู้ป่วยอาการหนักจำนวนมากกว่า 100 รายมาได้ 3 วันแล้ว (รพ.สนามพลังแผ่นดินเริ่มรับผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักตั้งแต่คืนวันที่ 18 พ.ค.64)…หลังจากที่ผมทราบว่ามีการติดประกาศ ผมได้สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของผมไปรื้อออกเพื่อไม่ให้เกิดประเด็นทางสังคม

2. ทำไมตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.64 จนถึง 3 มิ.ย.64 ที่ สนง.เขตหลักสี่ได้ปิดประกาศคำสั่งห้ามฯ แล้ว แต่ผมกลับเงียบ ไม่โวยวาย…เหตุผลคือ รพ.สนามพลังแผ่นดินเพิ่งเปิดทำการเมื่อ 18 พ.ค.64 ดังนั้นผมจึงวุ่นวายอยู่กับผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักจำนวนมากใน รพ.สนามพลังแผ่นดิน ผมจึงไม่มีเวลามาโวยวายเรื่องนี้หรอกครับ อีกทั้งผมต้องการดูว่า สนง.เขตหลักสี่ จะดำเนินการอย่างไรกับร้านค้า 4-5 ร้านที่รุกล้ำประชิดแนวรั้ว รพ.สนามพลังแผ่นดินที่ทำให้เกิดพื้นที่ ‘อับอากาศ’ อันเป็นความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 ตามแนวประชิดรั้วเสียก่อน…

แต่ผมกลับได้เห็นโพสต์จากสำนักงานเขตหลักสี่ว่าการออกคำสั่งระงับ รพ.สนามพลังแผ่นดินเป็นเรื่องไม่จริง กลับกลายเป็นผมเป็นคนสร้างเรื่องเท็จไปเสียนี่…เมื่อเป็นเช่นนี้และสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักใน รพ.สนามพลังแผ่นดินอยู่ในการควบคุมได้อย่างเป็นระบบราบรื่นดีแล้ว ผมจึงมีเวลาว่างพอที่จะโต้ตอบเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียที

3. เมื่อวันศุกร์ที่ 7 พ.ค.64 นาย สิระ เจนจาคะ ได้ประกาศต่อสื่อมวลชนว่าจะให้สำนักงานเขตหลักสี่ดำเนินคดีกับผม…ต่อมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เสาร์ที่ 8 พ.ค.64 ผอ.เขตหลักสี่ ได้โทรศัพท์มาหาผมมีสาระว่า ผอ.เขตหลักสี่จะออกคำสั่งระงับเนื่องจากถูก นาย สิระ เจนจาคะ กดดัน ซึ่งผมก็ตอบกลับไปว่าคำสั่งระงับอะไรก็แล้วแต่ แต่ผมจะไม่สน หาก ผอ.เขตหลักสี่ กลัวนักการเมือง…ผมจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างว่าคนอย่างผมไม่กลัวทั้งนักการเมืองและข้าราชการรับใช้นักการเมืองอย่างคุณ
พรุ่งนี้เช้า 4 มิ.ย.64 เวลาประมาณ 8.00 น. ฟังผมตอบรายการเจาะลึกทั่วไทยฯ กันนะครับ

ต่อมาล่าสุด ในวันที่ 4 มิ.ย.64 ทางด้านของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง ก็ได้โพสต์รายละเอียด ซักกลับ หลังที่ทางด้านของ สำนักงานเขตหลักสี่ออกมาชี้แจงเบี่ยงประเด็น โดยมีรายละเอียดว่า

อย่าหลงประเด็นกับการชี้แจงของสำนักเขตหลักสี่ต่อนักข่าวว่า คำสั่งห้ามใช้อาคาร รพ.สนามพลังแผ่นดิน ห้ามเข้าสู่ภายในอาคาร รพ.สนามพลังแผ่นดิน ห้ามก่อสร้างอาคาร รพ.สนามพลังแผ่นดินที่เขตหลักสี่ออกถึงผมในกรณี รพ.สนามพลังแผ่นดินโดยกล่าวอ้างว่า การประกาศ พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯก็ดี และการประกาศยกเว้น รพ.สนาม ให้เป็นสถานพยาบาลที่ไม่ต้องขออนุญาตก็ดี

แต่ พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ไม่มีการยกเว้นเรื่องนี้ ถ้าจะก่อสร้าง รพ.สนาม ยังคงต้องขออนุญาตก่อสร้างอาคารตาม พรบ.ควบคุมอาคารฯอยู่ดี และที่เขตหลักสี่กล่าวอ้างอีกว่านี่เป็นการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่ รพ.สนามที่ใช้อาคารที่มีอยู่แล้ว ดังนั้นจึงต้องขออนุญาตในการก่อสร้างก่อนตาม พรบ.ควบคุมอาคาร ซึ่งสามารถยื่นเรื่องขออนุญาตที่สำนักงานโยธา

ผมขอเรียนให้ทราบทั่วกันว่า สถานการณฺฉุกเฉินจากภัยพิบัติจากโรคระบาดก็ดี จากภัยพิบัติตามธรรมขาติ เช่น อุทกภัยก็ดี ล้วนเป็นสาธารณภัย ถือว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ถึงแม้จะไม่มีการออก พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ แต่ก็เป็นเรื่องที่รับรู้ได้โดยไม่ต้องพิสูจน์…ยิ่งเมื่อรัฐบาลได้ออกประกาศ พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ ด้วยแล้ว ส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายต่างๆ จะต้องรู้ ต้องเข้าใจถึงบริบทการทำหน้าที่ของตนตามสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ใช่ยังคงทำหน้าที่ตามบริบทในสถานการณ์ปกติ

การอันใดก็ตาม คือ การอันควรทำหรือต้องทำ…และการอันใดก็ตาม คือ การอันควรผ่อนปรนหรือยืดหยุ่นเพื่อบรรเทาสาธารณภัยแล้วไซร้ นั่นคือเรื่องที่ส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใข้กฎหมายจะต้องเข้าใจและปฏิบัติ
ผมขอถามว่าสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่มีผู้ป่วยอาการหนักจำนวนมากที่จำเป็นต้องตั้ง รพ.สนาม ระดับ 3 ซึ่งเป็น รพ.สนาม ที่มีขีดความสามารถสูงในการรักษาผู้ป่วยวิกฤตนั้นมีคุณลักษณะจำเพาะ มีระบบทางการแพทย์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจาก รพ.สนาม ระดับ 1 ทั่วไป จึงจำเป็นต้องตั้งเต๊นท์สนามชั่วคราวเพื่อการจัดตั้ง รพ.สนาม ระดับ 3 ขึ้นโดยเฉพาะ ถึงแม้การตั้งเต๊นท์สนามชั่วคราวจะใช้งานนานเกินกว่า 10 วันตามที่กฎหมายควบคุมอาคารกำหนดก็ตาม แต่สำนักงานเขตหลักสี่และ ผอ.เขตหลักสี่ น่าจะมีดุลพินิจได้ว่า “การอันนี้ คือ การอันควรทำหรือต้องทำ…และการอันนี้ คือ การอันควรผ่อนปรนหรือยืดหยุ่นเพื่อบรรเทาสาธารณภัย” หรือไม่???

การที่ ผอ.เขตหลักสี่กล่าวอ้างว่าการประกาศ พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ และการประกาศยกเว้น รพ.สนาม ให้เป็นสถานพยาบาลที่ไม่ต้องขออนุญาต แต่ พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ไม่มีการยกเว้นเรื่องนี้…ท่านไม่เข้าใจบริบทของท่านใน ‘สถานการณ์ฉุกเฉินจากสาธารณภัยโรคระบาด’ หรืออย่างไร???

ต่อไปนี้หากเกิดสาธารณภัยจากอุทกภัยก็ดี หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่นๆก็ดี ใครก็ตามที่จะตั้งเต๊นท์สนามเพื่อใช้งานบรรเทาสาธารณภัยนานเกินกว่า 10 วันหรือระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว จะต้องเขียนแบบก่อสร้างแล้วไปยื่นขออนุญาตจากสำนักการโยธากระนั้นหรือ???

โง่ดักดานชิบ!…ผมไม่เสียเวลาเขียนแบบเต๊นท์สนามชั่วคราว รพ.สนามพลังแผ่นดินหรอกครับ (ผมเอาเวลาไปรักษาชีวิตผู้ป่วยจำนวนมากจะดีกว่า) ผมจะสอนข้าราชการได้รู้จัก “การอันใดก็ตาม คือ การอันควรทำหรือต้องทำ และการอันใดก็ตาม คือ การอันควรผ่อนปรนหรือยืดหยุ่นเพื่อบรรเทาสาธารณภัย”…มิฉนั้นแล้วต่อไปจะไม่มีใครมีจิตสาธารณะในสถานการณ์สาธารณภัย สถานการณ์ฉุกเฉินอีก เพราะแค่ตั้งเต๊นท์ชั่วคราวใช้งานเกิน 10 วันยังต้องเขียนแบบก่อสร้างเพื่อขออนุญาตจากสำนักโยธาเสียก่อน แล้วใครมันจะไปอาสากันล่ะครับ

หมายเหตุ ร้านค้าผิดกฎหมายบนทางเท้ารุกล้ำที่ดินเอกชนประชิดรั้ว รพ.สนาม ก็เป็นโรงเรือนใช้งานชั่วคราวนานกว่า 10 วัน คือนานกว่า 30 ปีแล้ว …ไม่เห็นต้องขออนุญาตตาม พรบ.ควบคุมอาคารฯ เลย ทุกวันนี้ยังขวางทางสร้างปัญหา ‘อับอากาศ’ ตลอดแนวรั้ว รพ.สนาม พลังแผ่นดิน…ไม่เชื่อนักข่าวตรวจสอบกันได้