แบงก์ชาติจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถ!?!ดอกเบี้ยบานผ่อนไม่ไหว เปิดเกณฑ์ทำอย่างไรไม่เสียเครดิต ล้างหนี้ได้??

1335

แบงก์ชาติเปิดมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. ถึง 31 ก.ค. 2564 ช่วยลูกหนี้ 3 กลุ่ม ใครที่ไม่ไหวลองไปงานนี้กันดู ลูกหนี้ 3 แบบได้แก่ กลุ่มไม่เป็น NPL หรือเป็นแล้วแต่รถยังไม่ถูกยึด- กลุ่มที่ถูกยึดแล้วแต่ยังไม่ขายทอดตลาด และกลุ่มที่ รถถูกขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังมีหนี้ส่วนที่ขาด มาดูรายละเอียดกันว่าแต่ละกลุ่มต้องทำอย่างไรบ้าง และคืนรถแล้วหมดหนี้หรือเปล่า??

วันนี้ (1 มิ.ย.2564) นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2563 ธปท. ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้รายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ลดลงอย่างมาก

นอกจากนี้ ธปท. ได้จัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนค่อนข้างดี จึงได้ขยายขอบเขตของงานมหกรรมให้ครอบคลุมลูกหนี้ที่หนี้ถูกโอนขายไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์หนี้ ที่สำคัญของประชาชนรายย่อยอีกประเภทหนึ่ง คือ หนี้เช่าซื้อรถยนต์ทั้งในส่วนที่นำมาใช้ประกอบอาชีพหรือใช้ในการเดินทางของคนในครอบครัว

ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้สามารถประกอบอาชีพ หรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ธปท. กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และผู้ให้บริการทางการเงิน 12 แห่ง ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์รวมกันแล้วมากกว่าร้อยละ 6 จึงร่วมกันจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ขึ้น ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. -31 ก.ค.64 เพื่อเป็นช่องทางที่จะช่วยลดภาระของลูกหนี้ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ ในการชำระหนี้ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

สำหรับ ความพิเศษของมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ครั้งนี้ คือจะครอบคลุมลูกหนี้เช่าซื้อบุคคลธรรมดาทุกกลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มที่ยังไม่เป็นหนี้เสีย หรือ NPL หรือกลุ่มที่เป็น NPL แต่รถยังไม่ถูกยึด 2. กลุ่มลูกหนี้ที่รถถูกยึดแล้วแต่ยังไม่ถูกขายทอดตลาด 3. กลุ่มลูกหนี้ที่รถถูกขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังมีหนี้เช่าซื้อส่วนขาด

โดยมีเป้าหมายให้ลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ที่รายได้ลดลงในช่วงโควิด-19 สามารถเจรจาผ่อนชำระหนี้ได้ตามความสามารถ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถนำรถที่ถูกยึดกลับไปใช้ในการประกอบอาชีพ และนำรถไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เช่นเดิม ซึ่งเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในสถานการณ์ช่วงนี้อีกทางหนึ่ง โดยความช่วยเหลือจะแตกต่างกันตามความเหมาะสมและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ ดังนี้

กลุ่มที่ 1. ลูกหนี้ที่ยังไม่เป็น NPL หรือเป็น NPL แล้วแต่รถยังไม่ถูกยึด แนวทางช่วยเหลือจะสอดคล้องกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 ของ ธปท. ได้แก่ การปรับโครงสร้างหนี้ ลดค่างวด ขยายระยะเวลาชำระหนี้ สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง สามารถขอพักชำระค่างวดได้ 3 เดือน หรือตามผลกระทบที่ลูกหนี้ได้รับ

โดยแนวทางใหม่จะคำนวณดอกเบี้ยในช่วงพักชำระหนี้จากฐานของค่างวดที่ได้พักชำระหนี้ตามเกณฑ์ของ สคบ. ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยในช่วงที่พักชำระหนี้ถูกลงอย่างมาก (แนวทางเดิมเป็นการคำนวณดอกเบี้ยจากฐานของเงินต้นคงค้างทั้งหมด)

สำหรับลูกหนี้ที่เคยพักชำระค่างวดหรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และได้รับผลกระทบรุนแรงจนไม่สามารถชำระหนี้ต่อไปได้ สามารถคืนรถยนต์เพื่อลดภาระหนี้ได้ และหากราคาขายรถทอดตลาดที่ได้รับต่ำกว่าภาระหนี้คงค้าง ลูกหนี้สามารถขอผ่อนปรนเพิ่มเติมได้โดยผู้ให้บริการทางการเงินอาจพิจารณายกหนี้ส่วนที่เหลือให้ตามความเหมาะสม

กลุ่มที่ 2. ลูกหนี้ที่รถถูกยึดแล้ว แต่ยังไม่ถูกขายทอดตลาด ลูกหนี้เช่าซื้อสามารถใช้ช่องทางของงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในครั้งนี้ เพื่อเจรจากับเจ้าหนี้เช่าซื้อที่ร่วมงานเพื่อขอรถที่ถูกยึดไปคืน โดยเจ้าหนี้เช่าซื้อจะชะลอการขายทอดตลาด และปรับโครงสร้างหนี้ งานมหกรรมในครั้งนี้จะช่วยให้ลูกหนี้เช่าซื้อมีโอกาสที่จะนำรถกลับไปประกอบอาชีพหรือใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหนี้กับลูกหนี้เช่าซื้อจะเจรจากันเอง ไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ทำให้โอกาสที่ลูกหนี้จะได้รถที่ถูกยึดคืนมีไม่มาก แต่ในครั้งนี้หวังว่าลูกหนี้ที่ถูกยึดรถไป ส่วนหนึ่งจะมีโอกาสที่จะได้รับรถคืนซึ่งเป็นทางเลือกที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

กลุ่มที่ 3. ลูกหนี้ที่รถถูกขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังมีมูลหนี้เช่าซื้อส่วนที่ขาด กรณีรถถูกขายทอดตลาดแล้ว ปรากฏว่าเงินที่ได้รับนั้นน้อยกว่ายอดหนี้เช่าซื้อคงเหลือ ทำให้มียอดหนี้ส่วนขาด หรือ ติ่งหนี้ ในงานมหกรรมครั้งนี้ สคบ.และ ธปท. ได้ร่วมกันศึกษาแนวคำพิพากษาของศาลยุติธรรมเกี่ยวกับการคำนวณยอดหนี้เช่าซื้อส่วนขาด และได้จัดทำโปรแกรมการคำนวณยอดหนี้เช่าซื้อส่วนขาดแบบง่ายๆ เพื่อให้ลูกหนี้จะได้ใช้คำนวณ

โดยลูกหนี้เช่าซื้อที่มีปัญหาเกี่ยวกับยอดหนี้เช่าซื้อส่วนขาดสามารถใช้ช่องทางของงานมหกรรมในครั้งนี้ไกล่เกลี่ยปัญหาที่เกิดขึ้นกับเจ้าหนี้ทั้งในส่วนที่ยังไม่มีการฟ้อง หรือฟ้องแล้ว ซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรื่องนี้เป็นธรรมมากขึ้น และช่วยให้เจ้าหนี้และลูกหนี้เช่าซื้อสามารถตกลงกันได้ง่ายขึ้นและตรงไปตรงมา

โดยมหกรรมไกล่เกลี่ยออนไลน์จะทำผ่านเว็บไซต์ของ กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม สคบ. ธปท. และศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) รวมทั้ง เว็บไชต์ของผู้ให้บริการทางการเงินที่เข้าร่วมมหกรรมฯ ทั้งนี้ ขอให้ลูกหนี้ศึกษาวิธีการกรอกข้อมูลอย่างละเอียด และกรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน เพราะข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจะทำให้คำขอไกล่เกลี่ยของท่านไม่ได้รับการพิจารณาช่วยเหลือ

สำหรับ ประชาชนที่ไม่ถนัดในการกรอกข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ หรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทรศัพท์ 1213 เพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือในการกรอกข้อมูล ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. หากนอกเวลาทำการสามารถฝากชื่อและเบอร์โทรศัพท์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือส่งอีเมลมาที่ [email protected] เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป

“ผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อภายใต้การกำกับของ ธปท. ทุกแห่ง จะต้องให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 นอกจากนี้ผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อหลายแห่งที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับของ ธปท. ก็มีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ด้วยเช่นกัน หากลูกหนี้ไม่ได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ ทางด่วนแก้หนี้ ของ ธปท. หรือ โทรศัพท์ 1213”