แม่กวิ้นให้ท้ายลูก! ป้องโพสต์ข้อความจาบจ้วง? ไม่ผิดเงื่อนไขศาล หยิกปากคนยื่นอ่านภาษาไทยไม่แตก ทำเสียเวลา!

1582

จากกรณีที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยโพสต์ข้อความว่าสาส์นแรกแห่งอิสรภาพ สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน

การคุมขังผม 93 วัน และการอดอาหารประท้วงความอยุติธรรมเป็นเวลา 57 วันของผมสิ้นสุดลงแล้ว โดยที่เมื่อวานนี้ ศาลได้คืนสิทธิประกันตัวให้ผมและพี่แอมมี่แล้ว แม้จะเป็นการประกันตัวโดยที่ศาลกำหนดเงื่อนไขมาบางประการ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขที่ตั้งขึ้นเพื่อสกัดกั้นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ผมจะถือว่าการที่ศาลเอาเรื่องทางการเมืองมาตั้งเงื่อนไขนี้เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องพิจารณาตัวเองว่าดำรงตนในความยุติธรรมหรือไม่ อย่างไรก็ดี นี่คือการวางบรรทัดฐานว่าคดีมาตรา 112 ก็มีสิทธิได้รับการประกันตัว จากเดิมที่ในอดีตนั้นแทบไม่มีการได้ประกันตัวเลย และผมเชื่อว่ากฎหมายป่าเถื่อนมาตรานี้จะถูกยกเลิกไปในไม่ช้า

ในส่วนของเงื่อนไขนั้น ผมเห็นว่าไม่ได้ขัดข้องอะไรต่อการเคลื่อนไหว เพราะเงื่อนไขข้อที่ว่าห้ามมิให้สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์นั้น ผมก็ไม่เห็นว่าผมจะสร้างความเสื่อมเสียอะไรให้สถาบันกษัตริย์ เพราะผมไม่คิดว่าสถาบันกษัตริย์จะเสื่อมเสียลงเพียงเพราะการที่ประชาชนพูดความจริง เช่นเดียวกับเรื่องการเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 ทวงคืนทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (เช่น หุ้น SCB) ยกเลิกกองกำลังส่วนพระองค์ เหล่านี้ผมไม่เห็นว่าจะสร้างความเสื่อมเสียให้สถาบันกษัตริย์ได้อย่างไร หากจะมองว่าการเรียกร้องให้กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องเสื่อมเสีย ก็คงจะต้องถามกันต่อว่าประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์เป็นประมุขหรือปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์กันแน่ ดังนั้นแล้ว สำหรับผม การต่อสู้เพื่อปฏิรูปสถาบันกษัตริย์จะดำเนินต่อไป

สำหรับเงื่อนไขเรื่องห้ามเข้าร่วมการชุมนุมที่ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น ผมยืนยันว่าตลอดการต่อสู้ที่ผ่านมา ผมยึดมั่นในหลักการไม่ใช้ความรุนแรง การชุมนุมที่ผมเข้าร่วม หรือได้มีส่วนร่วมจัดนั้นล้วนแต่เป็นการชุมนุมโดยสงบ สันติ และปราศจากอาวุธทั้งสิ้น เท่าที่เห็นก็มีแต่จะไม่สงบบ้างเพราะถูกเจ้าหน้าที่ ผู้ชุมนุมฝ่ายรัฐ และผู้ไม่ประสงค์ดีมาใช้กำลังเพียงเท่านั้น ดังนั้น ผมจึงเห็นว่าเงื่อนไขข้อนี้จะไม่เป็นอุปสรรคในการต่อสู้ของผมเช่นกัน และผมพร้อมที่จะเข้าร่วมทุกกิจกรรมหลังจากที่วิกฤติการณ์โรคระบาดระลอกนี้ (ซึ่งเกิดจากความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล) ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจะยังดำเนินต่อไปด้วยความเข้มข้นและเข้มแข็ง การต่อสู้ของเราดำเนินอยู่บนสัจธรรมความจริง เพราะไม่มีพลังใดจะยิ่งใหญ่เท่าพลังแห่งความจริง และความจริงย่อมเป็นสิ่งนิรันดร์ประดุจดวงดาว เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่มุมใดของฟ้า ดวงดาวก็จรัสแสง เช่นเดียวกับความจริง ไม่ว่าจะอยู่ในกรงขัง ในเครื่องทรมาน หรือที่หลักประหาร ความจริงก็ยังคงเป็นความจริงที่ทรงพลังและไม่มีวันตาย

ก้าวต่อไปเฉพาะหน้า เราจะต้องช่วยกันปลดปล่อยผู้พูดความจริงอีกหลายคนที่ยังถูกจองจำอย่างไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นทนายอานนท์ พี่ไมค์ ระยอง แฟรงค์ ณัฐชนน และอีกหลาย ๆ ท่าน เราผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายยังจะต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ให้เห็นอย่างสมบูรณ์ว่าการพูดความจริงไม่ผิด และความเท็จไม่อาจคุมขังปิดบังความจริงได้ตลอดไป ผมยังคงเป็นผม และยังคงศรัทธาในความจริงที่ว่าไม่มีใครหมุนเข็มนาฬิกากลับได้ และสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงซึ่งกำลังพัดโบกจะพาเราไปสู่อีกด้านหนึ่งของขอบฟ้าในไม่ช้านี้ ส่วนในระหว่างนี้ ตัวผมขอพักฟื้นร่างกายและหาอะไรกินก่อนจะเดินไปกับพี่น้องทุกท่านอีกครั้ง ผมยังคงเป็นคนเดิม สู้เพื่ออุดมการณ์ดังเดิม และจะมุ่งมั่นต่อการต่อสู้มากกว่าเดิมครับ ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ |||

ต่อมาทางกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. ได้เข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรณีให้ถอดถอนการประกันตัวเพนกวิน ไผ่ ดาวดิน  สมยศ โดยมีผู้อำนวยการ สำนักอำนวยการประจำศาลอาญา เป็นตัวแทนผู้มารับหนังสือดังกล่าว

ล่าสุดวันนี้ (1 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชาดาภิเษก นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของเพนกวิน พริษฐ์ ได้เดินทางมาร่วมให้กำลังใจกับมารดาของไมค์ ภาณุพงศ์ และนายอานนท์ด้วย โดยเจ้าตัวกล่าวว่า วันนี้เดินทางมาเพื่อให้กำลังใจกับแม่ๆ ที่รอผลการไต่สวนจากศาลคาดว่าวันนี้จะต้องได้รับข่าวดีเพราะศาลไม่น่าจะมีเหตุให้ ไม่ประกันตัวแล้วเพราะทั้งหมดได้รับการรักษาและกักตัวจากการป่วยโควิด-19 ถึงเวลาที่จะได้ออกมาจากเรือนจำแล้ว

ซึ่งในประเด็นที่ลูกชายของตนได้มีการออกมาเคลื่อนไหวทางการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวและการร่วมทำกิจกรรมยืนหยุดขังที่หน้าศาลฎีกาที่ผ่านมา หลังจากนั้นแม่และพ่อ ได้รับหมายเชิญจากศาลให้มาพูดคุยถึงเงื่อนไขการปล่อยตัวของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ว่าละเมิดเงื่อนไขหรือไม่

ด้านนางสุรีย์รัตน์เอง เชื่อว่าทั้งจากการโพสต์ และการออกมาทำกิจกรรมเพนกวินไม่ได้ละเมิดเงื่อนไขใดของศาล จึงอยากฝากไปถึงคนที่มายื่นคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวว่าขอให้กลับไปอ่านเงื่อนไขที่ศาลได้ระบุให้ชัดเจน อ่านภาษาไทยให้แตก การที่มายื่นขอคัดค้านประกันตัวเป็นเรื่องที่ทำให้คนอื่นต้องเสียเวลา

นางสุรีย์รัตน์กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าเพนกวินไม่ได้ทำสิ่งใดที่ผิด ต้องยอมรับว่ามีหลายคนที่จ้องจะเล่นงานและมุ่งร้าย ไม่ว่าเพนกวินจะอ้าปากหายใจหรือพูดแค่ไหนก็ผิด จากนี้แม่กับพ่อต้องเดินทางมาชี้แจง ซึ่งทุกคนมีต้นทุนมีงานที่ต้องทำแต่ก็ต้องเสียเวลาด้วยเรื่องแบบนี้

สำหรับในวันนี้ นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ตั้งใจว่าจะเดินทางมาร่วมให้กำลังใจของแกนนำ ที่รอฟังคำไต่สวนวันนี้ แต่ด้วยมีเหตุจำเป็นให้ต้องเดินทางไปรัฐสภาเพื่อทำหน้าที่แทนแกนนำที่ยังอยู่ในเรือนจำจึงไม่สามารถเดินทางมาร่วมให้กำลังใจที่ศาลวันนี้ได้