ดร.โสภณไม่รอด! แรมโบ้ควงทนายแจ้งผิดม.112 แล้วพ่วงพรบ.คอมพ์ ลั่นเป็นคดีตัวอย่างคนระดับดอกเตอร์

2101

จากที่วันนี้ 31 พฤษภาคม 2564  นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และทนายความนั้น

ทั้งนี้นายเสกสกล และทีมทนาย ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ดร.โสภณ พรโชคชัย ในฐานะประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560

โดยนายอภิวัฒน์ กล่าวว่า การโพสต์ข้อความของนายโสภณ มีลักษณะหมิ่นสถาบันและ ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แม้ว่าจะได้ลบโพสต์ไปแล้ว แต่การกระทำความผิดได้สำเร็จแล้ว เพราะเริ่มมีคนติดตามจำนวนมาก จึงต้องแจ้งความกล่าวโทษ ดร.โสภณ ที่สน.นางเลิ้งในวันนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลดำเนินคดีตามมาตรา 112 ต่อไป

ขณะที่นายเสกสกล กล่าวด้วยว่า ได้มีการปรึกษาหารือกับทีมกฎหมาย ว่าการโพสต์ลักษณะนี้ประชาชนที่ได้อ่านแล้วก็เข้าใจว่าเป็นการกล่าวถึงสถาบันอย่างไร กล่าวถึงบุคคลในสถาบันอย่างไรบ้าง รวมถึงการกล่าวหาใส่ความรัฐบาลในข้อมูลที่เป็นเท็จ

“ดังนั้นจะปล่อยให้คนเช่นนี้มาใช้วิธีการในการก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบัน และกล่าวใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลไม่ได้ จึงจะต้องทำให้เป็นตัวอย่างว่าคนที่เป็นระดับดอกเตอร์ มาทำลายสถาบันและใส่ความรัฐบาล จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ได้ปรึกษาทีมกฎหมายว่าเรื่องนี้เข้าข่ายมาตรา 112 อย่างแน่นอนโดยในส่วนของรัฐบาลจะดูว่าเข้าข่ายหมิ่นรัฐบาลหรือไม่ อย่างไรก็ตามจะต้องมากล่าวโทษไว้ก่อน ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลต่อไป และมิต้องให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อคนอื่นอีกต่อไป”

ขณะที่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าดร.โสภณ ขอร้องให้ถอนแจ้งความ นายเสกสกล ยืนยันว่า มาตรา 112 ถอนแจ้งความ หรือ ยอมความไม่ได้ เพราะเป็นอาญาแผ่นดิน ตนเองและทนายอภิวัฒน์ ได้ทำในฐานะประชาชนคนหนึ่ง และประชาชนคนไหนใครก็ตามที่เห็นโพสต์นี้ก็สามารถที่จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่ทุกสถานี ทุกโรงพักได้เพราะเป็นความผิดอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้ และถอนแจ้งความไม่ได้ และเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ไม่ได้สั่งการแต่ทีมเราทำตามหน้าที่ ที่ต้องปกป้องสถาบันเบื้องสูง

นอกจากนี้ นายเสกสกล ยังยืนยันด้วยว่า ไม่มีใครจะนำกฎหมายมาตรา 112 ไปรังแกใครหรือรังแกคนบริสุทธิ์ คนที่ไม่ได้ทำผิด คนที่ไม่ได้ก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบัน แต่จะใช้บังคับกับคนที่วิ่งหากฎหมายทำผิดกฎหมายมาตรา112 เท่านั้น

“ดังนั้นถึงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มิเช่นนั้น พี่น้องประชาชนที่ปกป้องสถาบันและจงรักภักดีก็ต้องมาบอกว่าหากไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดก็จะถูกมองว่าไม่มีใครช่วยกันปกป้องสถาบัน ปล่อยให้สถาบันถูกคนกลุ่มที่คิดไม่ดี คิดชั่ว กล้าฮึกเหิม จาบจ้วง ก้าวล่วงอย่างเหิมเกริมไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง พวกตนจึงยอมไม่ได้ จำเป็นต้องออกมาพึ่งกฎหมายจัดการกับกลุ่มบุคคลที่หนักแผ่นดินเช่นพวกนี้ให้เข็ดหลาบ มิให้ออกมาคิดร้ายต่อสถาบันอีกต่อไป” นายเสกสกล กล่าว