จากกรณีเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 64 ที่นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ หมอลำแบงค์ ผู้ต้องหาคดี 112 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
และต่อมา เพจเฟซบุ๊ก The Isaan Record สื่อออนไลน์เพื่อคนอีสานได้โพสต์ข้อความถึงความเคลื่อนไหวของหมอลำแบงค์ ที่ได้ให้สัมภาษณ์หลังศาลให้ประกันตัวชั่วคราวว่า “ผมเหมือนตายแล้วได้คืนชีพ ทำให้ต้องรับเงื่อนไขของศาล ที่ห้ามชุมนุม ห้ามพูดถึงสถาบัน”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 21.30 น. กลุ่มเพื่อนหมอลำแบงค์ จังหวัดขอนแก่นได้จัดกิจกรรมผูกแขนเอิ้นขวัญ ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยมีเงื่อนไขห้ามไปร่วมกิจกรรมที่ทำให้เสื่อมเสียต่อสถาบันนั้น
ล่าสุดในเฟซบุ๊กของดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ได้โพสต์ถึงหมอลำแบงค์ ระบุว่า “พราหมณ์เก๊ ทำพิธีตอกฝาหมุดส้วม กลางสนามหลวง เป็นคนที่กล่าวว่า ทำรัฐประหารไม่ได้ ก็ให้ประชาชนทำ ราชประหาร ที่แยกราชประสงค์ เจอคดี ม.112 ไปแล้วครับ ศาลให้ประกันตัวออกมา ตอนนี้กลับมาเป็นหมอลำเหมือนเก่า ไม่จาบจ้วงเบื้องสูง แต่ว่าคดีก็ต้องดำเนินต่อไป ถึงอย่างไร หมอลำแบงค์ก็จะต้องเข้าคุกแหละครับ ผมเอามาแชร์ให้ดูให้เป็นอุทธาหรณ์ ว่าอย่าตกเป็นเครื่องมือของสามสัสเลยครับ อนาคตหมดสิ้น ต่อให้สำนึกตัวในภายหลัง แต่ความผิดก็สำเร็จแล้ว
หมอลำแบงค์นี่โทษจะหนักมากครับ เพราะกล่าวคำว่า ราชประหาร อันเป็นการขู่อาฆาตมาดร้าย มูลฐานความผิดสูงสุดได้ถึงจำคุก 15 ปี ตามมาตรา 112 ป. อาญาครับ”
ขณะที่ในเพจเฟซบุ๊กของหมอลำแบงค์ พบว่า ตั้งแต่ได้รับการประกันตัว ไม่ได้โพสต์ข้อความหรือกระทำการใด ๆ ที่จาบจ้วงสถาบัน และกลับไปรับงานหมอลำ ร้องเพลงดังเดิม และเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2564 ได้ปรากฎคลิปวีดีโอกลางไลฟ์สดของ Amnesty International Thailand ฉลองครบรอบ 60 ปี มีเหล่าแกนนำม็อบ 3 นิ้ว และคนหนุนเข้ามาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แต่หมอลำแบงค์ไม่ได้พูดคุย เพียงแต่ร้องเพลง เล่นหมอลำร่วมด้วยเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการกระทำของหมอลำแบงค์ ยังไม่ได้ขัดต่อเงื่อนไขศาล และดูท่าว่าเจ้าตัวกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำอาชีพสุจริต ไม่เหมือนกับเพนกวิน ที่ยังมีการโพสต์จาบจ้วงสถาบันอย่างต่อเนื่อง ผิดเงื่อนไขศาลชัดเจน