บริษัทผู้ผลิตยาและเทคโนโลยีชีวภาพ หรือจะเรียกว่าบิ๊กฟาร์มา(Big Phama) ที่ไร้ยางอาย ได้ถูกเปิดเผยจุดประสงค์ที่แท้จริงในการผลิตวัคซีนต้านเชื้อไวรัสอันตราย โควิด-19 โดยสื่อมวลชนหลายสำนัก จนถึงปัจจุบันนี้ไวรัสร้ายได้กลายพันธุ์และระบาดอยู่ในภูมิภาคทั่วโลก ยังความหวั่นวิตกบิ๊กฟาร์มาทั้งในยุโรป และสหรัฐอเมริกาที่มีเทคโนโลยีสูง แต่จิตใจไม่ได้สูงไปด้วย พวกเขาทำสิ่งชั่วร้ายมากมายและเป็นอันตรายต่อโลก ในที่สุดก็ถูกเปิดเผยด้วยตัวของเขาเอง
สื่อออนไลน์ซีบีเอสนิวส์และสื่อต่างประเทศหลายสำนักต่างวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างกว้างขวาง ช่วงต้นเดือนมีนาคมของปีนี้ และนำข้อคิดจากบทความของออเดรย์ แม็คนามารา (AUDREY MCNAMARA)เผยแพร่ในยูทูปโดย The Kim Iversen Show แฉความจริงจากปากผู้บริหารไฟเซอร์อย่างกว้างขวาง
เนื้อหาของบทความกล่าวว่า ผู้บริหารของ บริษัทยาวัคซีนอเมริกัน “ไฟเซอร์” ยอมรับว่าวัคซีนที่พวกเขาออกแบบไม่ได้เพื่อยุติการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา แต่จะเปลี่ยนเป็น “การแพร่ระบาด” ต่อเนื่องเพื่อให้ความต้องการวัคซีนยังคงมีอยู่ตลอดไป และให้โอกาสในการทำเงินได้มากขึ้นจากการขายวัคซีน เมื่อโรคระบาดกลายเป็นโรคระบาดเหมือน “ไข้หวัด” ทุกคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนทุกปี เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับสูงของไฟเซอร์ (Pfizer) แนะนำให้กับนักลงทุนว่าการกำหนดราคา วัคซีน COVID-19 อาจเพิ่มขึ้นหลังการระบาด ข้อเสนอแนะดังกล่าวทำให้เกิดคำถามว่า “ยาที่พัฒนาขึ้นตามคำสั่งของรัฐบาลกลางเพื่อตอบสนองต่อการแก้ปัญหาวิกฤตโลกการระบาดโควิด สามารถนำไปหากำไรให้กับบริษัทเดียวได้หรือ?”
คาร์เตอร์ ลูวิส กูลด์(Carter Lewis Gould) นักวิเคราะห์อาวุโสของ Biopharma Equity Research ที่บาร์คเลยส์ (Barclays) กล่าวในระหว่างการประชุมด้านการดูแลสุขภาพเสมือนจริงระดับโลกที่จัดทำโดยธนาคารกูลด์ (Gould) อ้างถึงความคิดเห็นของผู้บริหารไฟเซอร์ในช่วงฤดูร้อนถามว่า บริษัท ยายังคงมองเห็นการ “กำหนดราคาที่สูงขึ้น” ได้อย่างไร? ในขณะที่ “เราเปลี่ยนจากการแพร่ระบาดไปสู่ระยะการเป็นโรคประจำถิ่น”
Gould กล่าวถึงข้อเสนอแนะในช่วงฤดูร้อนของไฟเซอร์ว่า”เห็นได้ชัดว่าได้รับความสนใจอย่างมาก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดเห็นบางส่วนของคุณ(หมายถึงไฟเซอร์)เกี่ยวกับศักยภาพในการกำหนดราคาที่สูงขึ้น”
แฟรงก์ เอ ดี อเมลิโอ(Frank A.D’Amelio), CFO และรองประธานบริหารฝ่ายจัดหาทั่วโลกของไฟเซอร์กล่าวตอบว่า บริษัท คาดว่าจะมี “โอกาสสำคัญ” สำหรับวัคซีน “จากมุมมองด้านราคา” ในขณะที่เราเปลี่ยนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไปสู่สถานการณ์โรคเฉพาะถิ่น”
D’Amelio อธิบายเพิ่มว่า”ดังนั้นหากคุณดูว่าอุปสงค์ในปัจจุบันและราคาในปัจจุบันขับเคลื่อนไปอย่างไรเห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ถูกขับเคลื่อนโดยสภาวะตลาดปกติ กลไกตลาดปกติมันถูกขับเคลื่อนโดยสภาวะการระบาดที่เราเคยเป็นมา และบวกกับความต้องการของรัฐบาลในการรักษาขนาดจำนวนยาจากซัพพลายเออร์วัคซีนต่างๆ “
ในเดือนกรกฎาคมไฟเซอร์ได้ลงนามในข้อตกลง 1.95 พันล้านดอลลาร์เพื่อจัดหา วัคซีน COVID-19 ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ100 ล้านโดส ที่สั่งซื้อเป็นสองเท่าในเดือนธันวาคมเมื่อ บริษัท ได้ลงนามอีก $ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อจัดการกับการบริหารโดยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์
“ผู้อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกาที่มีสิทธิ์จะยังคงได้รับวัคซีนฟรีซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของรัฐบาลสหรัฐฯในการให้การเข้าถึงวัคซีน COVID-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและตามที่คณะกรรมการที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ แนวทางการสร้างภูมิคุ้มกัน (ACIP) คำแนะนำสำหรับการเปิดตัววัคซีนแบบค่อยเป็นค่อยไป “อ่านข่าวประชาสัมพันธ์จากไฟเซอร์หลังจากข้อตกลงครั้งที่สอง
ความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนอนุญาตให้ชาวอเมริกันได้รับวัคซีนฟรี แต่จากข้อมูลของไฟเซอร์ยืนยันว่ารัฐบาลกลางไม่ได้ช่วยให้ทุนในการสร้าง เร่องนี้ แคทธริน แจนเซ็น(Kathrin Jansen) รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาวัคซีนของไฟเซอร์ กล่าวเมื่อเดือนพ.ย.2563ว่า บริษัท ไม่ได้นำเงินของรัฐบาลกลางไปช่วยค่าใช้จ่ายสำหรับการวิจัยและพัฒนา นั่นทำให้ไม่ติดข้อจำกัดทางกฎหมายของรัฐในการกำหนดราคาวัคซีน