เริ่มมีกลิ่นแปลกๆ!? จับพิรุธ “มายด์-รุ้ง” แกนนำคณะราษ “ติดโควิด” กำลังโกหก “ปกปิดไทม์ไลน์” เพื่อปกป้องคนอื่น หรือไม่!?
ล่าสุดทางด้านของ มายด์-ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หนึ่งในแกนนำกลุ่มคณะราษฎร ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า ผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก หรือมีการติดเชื้อไวรัสโควิดจริง โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยมีรายละเอียดว่า
มายด์ได้รับผลตรวจ Covid-19 แล้วนะคะ
ผลออกมาว่ามายด์ได้รับเชื้อ
เนื่องจากตอนแรกมายด์อยู่ในกลุ่มความเสี่ยง
ทันทีที่ทราบก็เริ่มกักตัวจึงขอชี้แจงไทม์ไลน์ดังนี้ค่ะ
7/5/64 – ได้รับความเสี่ยงแต่ยังไม่ทราบ
8/5/64 – อยู่ที่พัก
9/5/64 – อยู่ที่พัก
10/5/64 – ไปปราศรัยที่สกายวอล์ก
11/5/64 – อยู่ที่พัก(ทราบว่าเพื่อนติดโควิดตอนค่ำ)
12/5/64 – กักตัวอยู่ที่พัก
13/5/64 -ไปตรวจโควิดรอบแรก ผลเป็นลบ
– ไปตามนัดอัยการที่อัยการกรุงเทพใต้
*แจ้งให้อัยการทราบแล้วว่ามีความเสี่ยงและต้องกักตัว
14-21/5/64 – กักตัวอยู่ที่พัก ครบ14วัน
22/5/64 – ไปตรวจโควิดรอบ 2
23/5/64 – กักตัวอยู่ที่พัก
24/5/64 – กักตัวอยู่ที่พัก ทราบผลตรวจรอบ2 ผลเป็นบวก
25/5/64 – เข้ารับการรักษา
แต่สิ่งที่หลายๆคนนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เห็นทีจะเป็นในส่วนของ มายด์ ภัสราวลี ไปติดเชื้อโควิด-19 จากใครมา ซึ่งก็ได้มีการไล่เลียงไทม์ไลน์ แล้วเห็นได้ว่าค่อนข้างที่จะชัดเจนในเรื่องของไทม์ไลน์ ว่าค่อนข้างที่จะมีความเกี่ยวเนื่องกันกับทางด้านของ ปนัสยา สิทธิจิระวัฒนากุล หรือ รุ้ง แกนนำราษฎร
โดยไทม์ไลน์ของทั้งสองคน ค่อนข้างที่จะมีความเกี่ยวเนื่องกันในช่วงวันที่ ยกตัวอย่างเช่น รุ้ง ปนัสยา ออกจากเรือนจำ และคาดว่าติดเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 6 พ.ค.64 และก็ได้บอกชัดเจนว่ามีการตรวจโควิดตั้งแต่ในเรือนจำและผผลออกมาเป็นลบ (ไม่ติดเชื้อ) และวันที่ 7 พ.ค.64 ทางด้านของ รุ้ง ปนัสยา ได้โพสต์ลงไทม์ไลน์ว่า “อยู่บ้าน” โดยทางด้านของ มายด์ ภัสราวลี ก็ได้โพสต์ว่า 7 พ.ค.64 ได้รับความเสี่ยงแต่ยังไม่ทราบ
ต่อมาในวันที่ 11 พ.ค.64 ทางด้านของ มายด์ ภัสราวลี ได้โพสต์ว่า ทราบว่าเพื่อนติดโควิดตอนค่ำ ซึ่งก็เป็นวันเดียวกันกับที่ทางด้านของ รุ้ง ปนัสยา รู้ผลว่าติดโควิด ในช่วงหัวค่ำ ต่อมาทางด้านของ มายด์ ภัสราวลี จึงเข้าตรวจโควิด แสดงว่าชัดเจนมากๆ ว่าทางด้านของ มายด์ ภัสราวลี รู้ตัวอยู่แล้วว่ามีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิดมาจาก รุ้ง ปนัสยา หรือว่ายังมีคนอื่นที่อยู่ด้วยกันในวันที่ 7 พ.ค. หรือไม่!? หรือว่าต้องมีใครกำลังโกหก หรือปกปิดไทม์ไลน์กันแน่