Truthforyou

พม่าจ่อยุบพรรค NLD ของซูจีฐานกบฎ!?!แม้เจ้ายอดศึกเสียงอ่อนขอเจรจา แต่กลุ่มชาติพันธุ์ซุ่มโจมตีสายส่งน้ำมันชายแดนถี่

การต่อต้านรัฐบาลเมียนมาชุดปัจจุบัน ดำเนินมากว่า 100 วันแล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะยุติเมื่อใด ผลกระทบทางเศรษฐกิจเริ่มฉายแวว ท่ามกลางความลำบากโควิด-19 ระบาด เหตุการณ์ล่าสุด หัวหน้าคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดปัจจุบัน แย้มกับสื่อฯว่าทางหน่วยงานกำลังพิจารณายุบพรรคNLDของนางอองซาน ซูจี เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงการเลือกตั้ง และข้อหากบฏซึ่งทางการเมียนมาระบุว่า พรรคฯและองค์กรต่อต้านรัฐบาลกลาง เป็นองค์กรก่อการร้ายและเป็นกบฎ ขณะที่สถานการณ์การต่อต้านจากกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ยังเดือด พุ่งเป้าโจมตีการขนส่งน้ำมันทั้งทางบกและทางน้ำต่อเนื่อง

สำนักข่าวรอยเตอร์ และสื่อออนไลน์เมียนมา นาวรายงานเมื่อวันที่ 21 พ.ค.64 ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมา (UEC) ภายใต้รัฐบาลกลาง ประกาศจะยุบพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของอองซานซูจี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา โดยอ้างว่า NLD ทุจริตการเลือกตั้งเมื่อ 8 พ.ย.2563 การตัดสินใจของ UEC ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมร่วมกับหลายพรรคการเมืองเมื่อ 21 พ.ค.2564 ขณะที่พรรค NLD ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุม 

พรรคการเมืองต่างๆ ถูกเรียกเข้าหารือร่วมกันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตามแผนในการเลือกตั้ง โดยประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งสหภาพแรงงานกล่าวว่า การสอบสวนการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วจะเสร็จสิ้นเร็วๆนี้ และจะแสดงให้เห็นว่า พรรค NLD ของนางอองซาน ซูจี มีการทำงานกับรัฐบาลอย่างผิดกฎหมายเพื่อให้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง ซึ่งจะนำไปสู่การถูกยุบพรรคและถูกตั้งข้อหากบฏ อย่างไรก็ดี พรรคต่างๆได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมประชุม 

กองทัพเมียนมายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนางซู จี เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2563 โดยอ้างเหตุผลว่า มีการโกงการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพ.ย.2563 ที่พรรคเอ็นแอลดีได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย คณะกรรมาธิการการเลือกตั้งในขณะนั้น ปฏิเสธคำร้องเรียนและคำกล่าวอ้างของทางกองทัพ ส่วนซู จี วัย 75 ปี ถูกควบคุมตัวตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจ พร้อมถูกตั้งข้อหาทำผิดหลายกระทง รวมถึงละเมิดกฎหมายว่าด้วยความลับในยุคอาณานิคม ซึ่งโทษจำคุก 14 ปี และยังถูกตั้งข้อหาครอบครองวิทยุสื่อสารอย่างผิดกฎหมาย ละเมิดมาตรการโคโรนาไวรัส ตลอดจนรับสินบน ทนายความของซู จี ปฏิเสธข้อกล่าวหา และกล่าวว่าเรื่องทั้งหมดรัฐบาลทหารสร้างเรื่องขึ้นมา

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 21 พ.ค.2564 กองทัพพม่าเร่งเสริมการรักษาความปลอดภัยในภูมิภาคที่มีพรมแดนติดกับจีน หลังกองกำลังติดอาวุธซุ่มโจมตีสายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ที่อาจทำให้รัฐบาลและกองทัพต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง 

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธในรัฐกะฉิ่นและรัฐชาน ได้มุ่งเป้าโจมตีรถบรรทุก ที่พวกเขาระบุว่า กำลังจัดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับใช้ในการโจมตีทางอากาศของกองทัพกับนักรบของพวกเขา 

รถบรรทุกของเอกชน 2 ราย ถูกทำลายใกล้กับเมืองซูนปราบูนในรัฐกะฉิ่น หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาได้รายงานการซุ่มโจมตีครั้งล่าสุดที่มีส่วนทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงขาดแคลนและราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงขึ้น

ด้านโฆษกของกองทัพเอกราชกะฉิ่น (KIA) กล่าวกับเอเอฟพีว่า กลุ่มได้ทำลายเรือบรรทุกน้ำมันหลายลำในรัฐกะฉิ่นในช่วงหลายวันมานี้ และรถบรรทุกอีกอย่างน้อย 7 คัน ที่บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงนำเข้ามาจากจีนผ่านรัฐชาน เมื่อวันจันทร์ 17 และวันอังคารที่ 18 พ.ค.2564

 

พม่านำเข้าน้ำมันเป็นส่วนใหญ่ และส่วนใหญ่มาจากสิงคโปร์ และสื่อของทางการรายงานสัปดาห์ก่อนว่า การนำเข้าสำหรับเดือน ต.ค.-เม.ย. ลดลงมากกว่า 25% และราคาเพิ่มสูงขึ้น 30%

อีกด้านหนึ่ง‘เจ้ายอดศึก’ ผู้นำกองทัพกู้ชาติแห่งรัฐฉาน ได้จัดพิธีวันสถาปนากองทัพปีที่ 63 ออกแถลงการณ์ ระบุว่า วันปฏิวัติถือเป็นวันดีและวันมงคลและเป็นวันที่ยกย่องชื่นชูเกียรติของเหล่านักรบที่เสียสละ และมีจุดมุ่งหมายต่อสู้เพื่อให้ได้อิสรภาพต่อไป ส่วนปัญหาด้านการเมืองในพม่าปัจจุบันทาง กลุ่ม RCSS/SSA เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันและหาแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ในส่วนของสนธิสัญญาหยุดยิงทั่วประเทศ ( NEC) เป็นอีกหนทางหนึ่งใช้การเจรจาแก้ไขปัญหาทางการเมือง แต่ยังไม่สามารถพูดได้ว่า เป็นวิธีหรือแนวทางแก้ไขปัญหาที่ครบถ้วน แต่หากสามารถก่อตั้งสหพันธรัฐที่เป็นประชาธิปไตยขึ้นมาได้ก่อนจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ 

Exit mobile version