จากที่สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พร้อมนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และนายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ส.ส. สุราษฎร์ฯ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงจุดยืนสนับสนุนแก้รัฐธรรมนูญ ในมาตรา 272 นั้น
ทั้งที่เกี่ยวข้องกับที่มา และอำนาจของวุฒิสภา (ส.ว.) นอกเหนือจากการแก้ไขในมาตรา 256 เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพราะเห็นว่า สถานการณ์ทางการเมือง ในเดือนกันยายนนี้ มีแนวโน้มน่าเป็นห่วงจาการชุมนุมของกลุ่มต่างๆที่อาจขยายมากขึ้นและอาจไม่ทันต่อสถานการณ์ จึงเห็นว่า ควรแยกเรื่องการเมือง ออกจากเรื่องสถาบันฯ ซึ่งเรื่องการเมืองที่สามารถแก้ไขได้ทันที คือ การแก้ไขที่มา และอำนาจ ส.ว.
“โดยมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อีกจำนวนหนึ่งที่สนับสนุนจุดยืนนี้ และการดำเนินการในเรื่องนี้ไม่ต้องขอมติพรรค เพราะมีการอภิปรายในที่ประชุม ส.ส. พรรคให้ทราบจุดยืนแล้ว ซึ่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็เห็นชอบในแนวความคิดนี้ โดยไม่ต้องขอมติพรรค เพราะเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมาแล้ว แต่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่สามารถเสนอแก้ไขเองได้ เพราะพรรคร่วมรัฐบาล ตกลงร่วมกันว่า จะยื่นร่างแก้ไขเพียงร่างเดียว แต่บางพรรคร่วมรัฐ ยังไม่ตกผลึกในการแก้ไขมาตรา 272 จึงยื่นแก้ไขในมาตรา 256 เพียงร่างเดียว”
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ก.ย. นายสาทิตย์ หนึ่งในผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีส.ส.พรรครัฐบาลส่วนหนึ่ง รวมทั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ถอนชื่อจาก ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ว่า ยังไม่รู้จริงๆว่ามีคนถอนไป เพราะต้องไปเซ็นชื่อ ทั้งนี้รู้ว่ามีคนจากพรรคอื่นๆถอนไปแล้ว ตนคิดว่าคงแท้งแน่ๆ แต่ส่วนพรรคประชาธิปัตย์มีการหารือแล้วว่าในเมื่อตั้งใจที่จะยื่นแล้วจะได้บรรจุหรือไม่ ก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ยังไม่รับทราบว่ารายชื่อครบหรือไม่ครบ คงต้องให้สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ แล้วสภาฯจะแจ้งมา อย่างนั้นจึงจะเป็นทางการ
ขณะที่ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวันที่ 23 ก.ย.นี้ว่า พรรคฯมีจุดยืนชัดเจนในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น นับแต่ครั้งที่มีการทำประชามติที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันและไม่รับคำถามพ่วงในเรื่องการให้อำนาจสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว. ) ในการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อผ่านการทำประชามติเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จึงเป็นหลักการสำคัญของพรรคฯที่จะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 256 ที่จะต้องแก้ให้เป็นรัฐธรรมนูญที่สามารถแก้ได้ง่ายขึ้น
ล่าสุดวันนี้(22ก.ย.63ป นายชุมพล จุลใส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร พรรคประชาธิปัตย์
23-24 กันยายน 63 ประชุมร่วมรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผมเป็นคนหนึ่ง ที่ ” ไม่เห็นด้วย” ในการแก้ใข รัฐธรรมนูญ เพราะปัญหา ปากท้อง โควิด-19 ยังเป็นเรื่องใหญ่กว่าแก้ รัฐธรรมนูญ ครับ
ที่มา : เฟซบุ๊ก ชุมพล จุลใส