จากที่ สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือ ฮาร์ท อดีตนักร้องดัง ถูก ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาความผิดมาตรา 112 เนื่องจากที่ ฮาร์ท โพสต์เรื่องวัคซีน และพาดพิงไปยังสถาบันฯนั้น
ต่อมา ฮาร์ท ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ในหัวข้อ “สาส์นถึงพี่แรมโบ้อีสาน จากน้องฮาร์ท” เพื่อขอร้องให้ถอนฟ้องคดีดังกล่าว โดยพร้อมพูดคุย ไม่อยากให้ต้องเอาความผิด ดำเนินคดีกัน
ขณะที่ นายเสกสกล ก็ได้ตอบกลับถึงนายสุทธิพงศ์ หรือ ฮาร์ท ในทันทีว่า ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกับนายฮาร์ท สิ่งที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายฮาร์ท ไม่ได้ไปแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทนายกฯ หรือเป็นเพราะตนเองโกรธแทนนายฯ หรือเพราะว่านายกฯโกรธ นายกฯไม่ได้โกรธคุณฮาร์ท แต่ตนเองไปแจ้งความในข้อหาในมาตรา 112 ที่โพสต์ในลักษณะนั้นที่ใครได้อ่านก็รู้ว่าเกี่ยวข้องกับสถาบัน ซึ่งประชาชนก็เข้าใจเจตนาของนายฮาร์ทและเข้าไปดูคอมเม้นต์หลายๆคนก็รู้ว่าเจตนาตั้งใจพาดพิงถึงสถาบัน
“หากมีความจริงใจว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่า มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน คุณฮาร์ทเป็นคนที่เกิดที่โรงพยาบาลศิริราช ดังนั้นคุณต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสถาบันพระมหากษัตริย์ ของพระราชาด้วย และหากคุณฮาร์ทประกาศความชัดเจนว่ามีความจงรักภักดีแล้ว ผมและทนายอภิวัฒน์ จะไปถอนแจ้งความตามมาตรา 112 ให้กับคุณฮาร์ท นี่คือสิ่งที่ผมต้องการแสดงให้เห็นว่า ผมไม่ได้โกรธเคือง เพราะการโจมตีการทำงานของรัฐบาล” นายเสกสกล กล่าว
ล่าสุดวันนี้ 17 พฤษภาคม 2564 นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีการแจ้งความ และฟ้องร้องระหว่างฮาร์ท ที่ถูกนายสเกสกล แจ้งเอาผิดตามมาตรา 112 ว่า
“ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 บัญญัติว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
ความผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ผู้ใดไปแจ้งความ หรือ กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีแก่บุคคลใดแล้ว จะไปขอถอนแจ้งความหรือถอนการกล่าวโทษไม่ได้ แม้จะขอถอนเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนก็อนุญาตไม่ได้
ดังนั้นที่มีผู้ไปกล่าวโทษอดีตนักร้องดังต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามมาตรา 112 นั้น พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ต้องดำเนินการสอบสวนต่อไป แม้ผู้กล่าวโทษจะขอถอนคำกล่าวโทษ
หากเห็นผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดก็ต้องมีคำสั่งฟ้อง และส่งสำนวนไปให้พนักงานอัยการพิจารณา พนักงานอันการอัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของพนักงานอัยการที่จะพิจารณา”
