สหรัฐเหยียดผิวเกลียดเอเซียระบาดหนัก?!?คุกคามพุ่งกว่า 169% ล่าสุด แก๊งปล้นคุณปู่เอเชียอายุ 11 ขวบร่วมด้วย

1393

ความรุนแรงต่อคนเชื้อสายเอเชียกำลังระเบิดขึ้นในอเมริกา บันทึกของตำรวจเมื่อเร็ว ๆ นี้รายงานการก่ออาชญากรรมต่อต้านความเกลียดชังชาวเอเชียในเมืองใหญ่ที่สุดของสหรัฐพุ่งขึ้น 169 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรกของปี 2564เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของความรุนแรงนี้เพิ่มขึ้นเพราะความเกลียดชังต่อต้านชาวเอเชียทั่วประเทศ ล่าสุดเกิดเหตุเยาวชน 2 คนถูกจับกุมฐานก่อเหตุปล้นและแทงชายชาวเอเชียวัย 80 ปี ในพื้นที่เบย์แอเรีย รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่สื่อสหรัฐเปิดเผยกลุ่ม Anti-White Watch ที่แพร่ความเชื่อว่า การรณรงค์ต่อต้านเหยียดผิว มีเป้าหมายทำลายเผ่าพันธุ์คนผิวขาว

เมื่อวันพุธที่ 12 พ.ค.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจซานลีอันโดร มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า เยาวชนอายุ 11 ขวบ และ 17 ปี ถูกจับกุมในความเกี่ยวข้องคดีปล้นและแทงชายชาวเอเชียวัย 80 ปีในเมืองซานลีอันโดร เมื่อวันเสาร์ที่ 8 พ.ค.2564 โดยเยาวชนวัย 11 ขวบถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขับรถพาผู้ลงมือปล้นหลบหนี แถมรถยนต์คันดังกล่าวยังเป็นรถที่จี้มาจากเมืองโอคแลนด์อีกต่างหาก

ภาพเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นที่เมืองซานลีอันโดรเมื่อวันเสาร์ที่ 8 พ.ค.วัยรุ่น 2 คนเข้าเล่นงานคนสูงวัยเชื้อสายเอเชียจนล้มไปกองกับพื้น จากนั้นก็ยื้อแย่งข้าวของ และระหว่างก่อเหตุนั้นมีวัยรุ่นอีกคนซึ่งเชื่อว่าลงมาจากรถที่เตรียมการไว้สำหรับหลบหนี เดินเข้ามาส่งเสียงหัวเราะร่า 

สถานีโทรทัศน์ KGO-TV รายงานว่า เหยื่อได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและสูญเสียนาฬิกาไประหว่างเหตุปล้นดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าคดีนี้อาจมีแรงจูงใจจากความเกลียดชังคนเอเชียและ อยู่ระหว่างสืบสวนอาชญากรรมอื่นๆ ในพื้นที่ ที่เด็กเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องด้วย

“เราโล่งใจที่สามารถจับกุมเยาวชนกลุ่มนี้ได้อย่างรวดเร็ว” ตำรวจระบุระหว่างแถลงข่าวการจับกุม เหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางคดีอาชญากรรมจากความเกลียดชังต่อคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในสหรัฐฯ

การกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาทางเชื้อชาติอย่างโจ่งแจ้ง ชัดเจนขึ้นในช่วงการระบาดของ COVID-19 เมื่อปีกลาย และแม้กระทั่งก่อนปี 2020 มีการรายงานเรื่องความรุนแรงต่อชุมชนที่ไม่ใช่คนผิวขาวจำนวนมาก

เบื้องลึกปมปัญหากระแสเกลียดชัง “คนเอเชีย” ในสหรัฐเด่นชัดขึ้นเมื่อมีการระบาดของโควิด-19 ปัญหา “เฮตไครม” (hate crime) เป็น กระแสความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่ชาวเอเชียในสหรัฐอเมริกา มีสถิติถูกทำร้ายเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าวิตก

“แลร์รี่ บาโกว์” ระบุว่า ชาวเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก ต่างเป็น “แพะรับบาป” รับโทษว่าทำให้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งอ้างเหตุผลจากความเกลียดกลัวต่างชาติ (xenophobia) ว่าเป็นภัยต่อประเทศ

“โจนาธาน กรีนแบลตต์” ประธานสมาพันธ์ต่อต้านการดูหมิ่น กล่าวว่า เมื่อปีที่ผ่านมา หลังจากที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ โทษคนจีนว่านำโรคโควิด-19 มายังประเทศ เป็นส่วนที่ทำให้มีเหตุการณ์ทำร้ายชาวเอเชีย-อเมริกัน เพิ่มมากขึ้น

“STOP AAPI Hate” หรือ “องค์กรยุติความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก” เมื่อปี 2020 คนเชื้อสายเอเชีย ไม่ว่าจะมีสัญชาติสหรัฐหรือไม่ ตกเป็นเป้าของการถูกคุกคามหรือทำร้ายเนื่องจากความเกลียดชังด้านเชื้อชาติหรือสีผิวในสหรัฐมากกว่า 3,800 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปี 2019 ซึ่งอยู่ที่ 2,600 ครั้ง

แต่แนวโน้มที่น่ากลัวที่ก่อตัวและมีรายงานน้อย เกิดจากกลุ่มแกนนำเล็ก ๆ ที่คนไม่สังเกตุเห็น กล่าวถึงอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่เกิดขึ้นนั้นเนื้อแท้แล้วมุ่งเป้าทำลายคนผิวขาวเป็นสำคัญ

สื่อออนไลน์สหรัฐ The Daily Beast รายงานถึง กลุ่มนักชาตินิยมผิวขาว ได้เปิดตัวโครงการหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเรียกว่าโครงการ Anti-White Watch ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม “ที่จัดทำเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับอคติ-นโยบายความเกลียดชัง และความรุนแรงที่มุ่งเป้าไปที่คนเชื้อชาติ  ยุโรปทั่วโลก  พอร์ทัลเว็บไซต์หลักจะเก็บรักษาแผนผัง และฐานข้อมูลของเหตุการณ์ที่ต่อต้านคนผิวขาว ที่ถูกกล่าวหาโดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องราวของความรุนแรงที่โหดร้าย ซึ่งเกิดขึ้นโดยผู้กระทำความผิดที่ไม่ใช่คนผิวขาว ซึ่งดึงมาจากผู้ดูแลระบบและผู้อ่านทั่วทั้งเว็บไซต์  นอกจากนี้ยังจัดทำรายการเหตุการณ์ “หลอกลวง” ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรรมจากความเกลียดชังจำนวนมาก ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นการกระทำที่เป็นอันตราย ซึ่งเป็นชนชั้นนำเสรีนิยม เพื่อกระตุ้นความตึงเครียดทางเชื้อชาติ เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาและใส่ร้ายคนผิวขาวว่าเป็นพวก “เหยียดผิว”

เคิร์ต แบรดด็อคผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและกลยุทธ์ของคนผิวขาวหัวรุนแรงที่มหาวิทยาลัยอเมริกันกล่าวกับสื่อ The Daily Beast ว่า พวกเขาพยายามสื่อ เพื่อลดภัยคุกคามที่เห็นได้ชัดจากกลุ่มนิยมขวาสุดโต่ง และเพื่อโน้มน้าวให้ดูเหมือนว่าภัยคุกคามที่แท้จริงของสหรัฐอเมริกาคือ ชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐ

โรบิน โอลูอานาห์ที่ปรึกษาของร้านโซลูชั่นต่อต้านการบิดเบือนข้อมูลและต่อต้านลัทธิหัวรุนแรงกล่าวกับ The Daily Beastว่า “การสร้างฐานข้อมูลขั้นสุดท้ายในเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ สามารถทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย” 

คนผิวขาวกลุ่มหนึ่งเริ่มสร้างเรื่องราวความรุนแรง ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำโดยคนที่ไม่ใช่คนผิวขาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนผิวดำ ในยุคก่อนวัยเด็ก นิทานต่างๆทำหน้าที่เป็นข้ออ้างสำหรับรูปแบบการเป็นทาสที่โหดร้ายของอเมริกาและกฎหมายแบ่งแยกเชื้อชาติในอดีต หลังสงครามกลางเมือง เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่ากลัวแบบเดียวกันนี้ถูกนำมาใช้ใหม่  เพื่อสนับสนุนการแบ่งแยกและการกดขี่ในรูปแบบอื่น ๆ ตลอดจนการตอบโต้ที่โหดร้ายของคนผิวขาวต่อคนผิวสี ซึ่งมากผิดปกติ จนทำให้คนทั่วไปมองคนผิวขาวผิดไปจากความเป็นจริง

แหละนี่คือสังคมอเมริกาปัจจุบันนี้ ที่เต็มไปด้วยความสับสน ขาดเมตตาทั้งต่อคนอเมริกันด้วยกันและเชื้อชาติอื่น สังคมแบบนี้จะหาความสงบสันติสุขได้อย่างไร?