จากกรณีสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือฮาร์ท นักร้องชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความค่อนข้างหมิ่นเหม่ เข้าข่ายมีเจตนาทำให้คนเข้าใจผิด พาดพิงไปถึงสถาบัน แม้ว่าจะอ้างว่าก๊อปปี้ข้อความมาจากคนอื่น แต่เนื่องจากว่ามีการโพสต์ข้อความในทำนองนี้อยู่หลายๆครั้ง จึงเห็นได้ว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา จึงเข้าข่ายมีความผิดได้
ทั้งนี้โดยเมื่อวันที่ 13 พฤษถาคม 2564 นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และทนายความนายกรัฐมนตรี ก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับทาง นักร้องดัง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ต่อมาวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ทางด้านของ นายสุทธิพงศ์ หรือ ฮาร์ท ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิป ระบายความรู้สึกว่าเป็นกังวลและคิดมาก ในเรื่องของงาน เพราะต่อไปคงไม่มีงานร้องเพลง พิธีกร หรืองานแสดงต่างๆแล้ว เนื่องจากโดนคดี มาตรา 112 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
“ผมคิดอย่างนี้จริงๆ และพูดมาตลอด ผมไม่ได้ปรารถนาตำแหน่งทางการเมืองหรือคำเยินยอใดๆ เพียงอยากให้ทุกอย่างมันดีขึ้นให้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้เท่านั้นเอง ผมยินดีกับสถานะนักร้องนักดนตรีที่ผมเป็น และ respect ที่ผมได้รับจากสังคมและคนที่เข้าใจผมในปัจจุบัน หากรัฐบาลจริงใจกับการอยากช่วยประชาชนอย่างผมให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กรุณาอย่าฟ้องผม กรุณาอย่าดำเนินคดีความกับผมด้วยการใช้อำนาจที่ท่านมีเลยครับ พูดกับผมดีๆ คุยกับผม อธิบายให้ผมเข้าใจสิว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่ หากท่านทำให้ผมเข้าใจได้ ท่านอาจได้ผมไปช่วยประสานงานให้ท่านด้วยซ้ำ
เรามาช่วยกันทำประเทศที่ท่านบอกว่ารักนี้ให้มันดีขึ้นเถิดครับ อีกไม่กี่ปีเราก็จะเป็นฝุ่น ผมหมายถึงฝุ่นจริงๆเลยนะครับ (ไม่ใช่ละอองฝุ่นอย่างที่ชอบพูดๆกัน) เรามาทำสิ่งที่คนรุ่นต่อๆมาเขาจะได้มาคุยกันด้วยครับ”
อย่างไรก็ตามทำให้เกิดคำถามว่า ฮาร์ท สุทธิพงศ์ มีความสำนึกจริงหรือไม่ โดยพบว่าในห้วงเวลาเดียวนี้ เจ้าตัวได้โพสต์แชร์ข้อความจากเพจหนึ่ง ซึ่งเป็นต้นตอที่มาถึงกระแสข่าวลือ ที่สร้างความสับสนและนำมาให้เกิดความเข้าใจผิด เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ขณะที่ฮาร์ท ได้แชร์ลงมาไว้ในเฟซบุ๊ก Suthipongse Heart Thatphithakkul
