ช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) เป็นช่องแคบที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ตั้งอยู่ระหว่างอ่าวโอมานทางตะวันออกเฉียงใต้กับอ่าวเปอร์เซียทางตะวันตกเฉียงใต้ ฝั่งทางตอนเหนือเป็นประเทศอิหร่าน ทางตอนใต้เป็นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และแหลมมุซันดัม (Musandam) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศโอมาน
ช่องแคบฮอร์มุซเป็นทางออกมหาสมุทรทางเดียวของบริเวณส่วนใหญ่ของประเทศที่ส่งปิโตรเลียมออกในอ่าวเปอร์เซีย จากข้อมูลขององค์การว่าด้วยข้อมูลด้านพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า โดยเฉลี่ยในแต่ละวันจะมีเรือบรรทุกน้ำมัน 15 ลำที่บรรทุกน้ำมันราว 16.5 ถึง 17 ล้านบาร์เรลที่เดินทางออกจากช่องแคบฮอร์มุซ ทำให้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในโลกเพราะการขนส่งน้ำมันจากช่องแคบคิดเป็น 40% ของการขนส่งทางเรือทั้งหมดที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุส และคิดเป็น 20% ของการขนส่งน้ำมันทั่วโลก
ล่าสุดเมื่อวานนี้ เรือรักษาชายฝั่งของสหรัฐฯยิงเตือน 30 นัดขณะที่กลุ่มเรือเร็วของอิหร่าน 13 ลำพุ่งเข้าหาเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐในช่องแคบฮอร์มุซ ในสิ่งที่เพนตากอนเรียกว่าเป็นการซ้อมรบแบบ “ไม่ปลอดภัยและไม่เป็นมืออาชีพ” โดยกองทัพเรือของคณะพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGCN)
เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นครั้งที่สองจาก เดือนที่แล้วเรือของกองทัพสหรัฐต้องยิงเตือนกองเรือเร็วของอิหร่านที่อ้างภารกิจซ้อมรบ เนื่องจากสิ่งที่พวกเขากล่าวว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยของเรืออิหร่านในภูมิภาคแห่งนี้
จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอนกล่าวว่า มีการยิงเตือนหลังจากเรือเร็วของอิหร่านเข้ามาใกล้ 150 หลา (137 เมตร) จากเรือรบทหาร 6 ลำรวมทั้ง USS Monterey ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างคุ้มกันเรือดำน้ำมิสไซล์จอร์เจีย
เรือสองลำของอิหร่านเป็นส่วนหนึ่งของ กองเรือโจมตีเร็วขนาดใหญ่ 13 ลำจากกองทัพเรือพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGCN) ซึ่งทำให้กองเรือที่ 5 ของกองทัพเรือสหรัฐฯทั้งแปลกใจและกังวลในท่าทียั่วยุของกองเรืออิหร่าน
เคอร์บี้กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องสำคัญและพวกเขาแสดงท่าทีก้าวร้าวมาก” เสริมว่าจำนวนเรือของอิหร่านมีมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา หลังจากการเตือนรอบที่สองเกิดขึ้น กองเรือโจมตีเร็ว 13 ลำจาก IRGCN ก็ขาดการติดต่อไป
แถลงการณ์ของกองทัพเรือโดย จอห์นเคอร์บีโฆษกเพนตากอน ระบุว่าภาพเตือนภัยดังกล่าวเป็นการกระทำของเรืออิหร่านที่ไม่ปลอดภัยและไม่เป็นมืออาชีพ อีกทั้งอันตราย
เหตุการณ์ในวันจันทร์เป็นการเผชิญหน้ากันอย่างใกล้ชิดครั้งที่สามระหว่างเรือของอิหร่านและเรือรบของสหรัฐอเมริกาในช่วงห้าสัปดาห์ที่ผ่านมา
เรือ IRGC สิบสามลำแล่นเข้าหากลุ่มเรือสหรัฐฯ 6 ลำขณะที่พวกเขาพาเรือดำน้ำ USS Georgia โผล่ผ่านช่องแคบตามรายงานของกองทัพเรือสหรัฐฯ
หนึ่งวันก่อนหน้านี้เรือมอนเทอร์เรย์ได้สกัดกั้นการขนส่งอาวุธบนเรือในทะเลอาหรับซึ่งมุ่งหน้าไปยังเยเมนซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของกลุ่มกบฏฮูตีได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
เรือยามฝั่งของสหรัฐฯได้เข้าปฏิบัติการในอ่าวเปอร์เซียตั้งแต่ปีพ.ศ. 2546 และพื้นที่ย่านนี้ได้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยเฉพาะกิจ 55 ของกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐ ตั้งแต่นั้นมา
เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อมหาอำนาจสหรัฐและตะวันตกพยายามเร่งผลักดันเตหะรานกลับสู่การปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 เจ้าหน้าที่สหรัฐฯกลับไปเวียนนาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อเจรจาทางอ้อมรอบที่สี่กับอิหร่านให้กลับมาปฏิบัติตามข้อตกลง แต่อิหร่านยังคงกร้าวไม่ขอเจรจาจนกว่าสหรัฐจะยกเลิกการคว่ำบาตรอย่างไม่มีเงื่อนไขก่อน