Truthforyou

ลูกเกดโดนแล้ว!! อัยการฯสั่งฟ้อง คดีผิดพรก.ฉุกเฉินร้ายแรง 2คดีรวด โทษคุก2ปี

จากที่วันนี้ 6 พฤษภาคม 2564 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รายงานว่า ที่ศาลแขวงดุสิต พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 ได้มีคำสั่งฟ้องคดีของ “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว ด้วยข้อหา ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ใน 2 คดี

ทั้งนี้โดยทั้งสองคดี ได้แก่ คดีจากการชุมนุม ม็อบ18ตุลาไปอนุสาวรีย์ชัย ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัย และ คดีจากการชุมนุม 21ตุลาไปอนุสาวรีย์ชัย ซึ่งมีการเดินขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยไปที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล

โดยหลังศาลรับฟ้อง ทนายจำเลยได้ยื่นประกันตัวระหว่างพิจารณา ศาลให้ประกันโดยวางหลักประกันเงินสดคดีละ 20,000 บาท รวมเป็น 40,000 บาท โดยเป็นหลักทรัพย์จากกองทุนราษฎรประสงค์ และกำหนดวันนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การทั้งสองคดีในวันที่ 9 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น.

สำหรับการฟ้องคดีทั้งสองคดีมี นางพัชรินทร์ รชตดำรงกุล พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 เป็นผู้ฟ้องคดี เนื้อหาในคำฟ้องบรรยายว่า เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2563 จําเลยกับกลุ่มผู้ชุมนุมรวมจํานวนประมาณ 15,000 – 20,000 คน ซึ่งมีจํานวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ได้บังอาจรวมตัวชุมนุมหรือมั่วสุม หรือกระทําการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

และเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2563 บรรยายพฤติการณ์ลักษณะเดียวกันว่า จําเลยกับบุคคลผู้มีชื่อรวมจํานวนประมาณ 10,000 คน รวมตัวชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นได้เคลื่อนขบวนไปยังหน้าทําเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญ และแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์

ขณะที่พนักงานอัยการระบุว่า การกระทําดังกล่าวเป็นความผิดฐาน ชุมนุม หรือมั่วสุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548

รวมทั้งประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 เรื่องห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมข้อ 1  ทั้งนี้ ข้อหาดังกล่าวมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ท้ายคำฟ้องอัยการยังได้ร้องขอให้ศาลพิจารณานับโทษของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีชุมนุมอื่นๆ ที่ศาลอาญาและศาลแขวงดุสิต อีก 2 คดีด้วย

อย่างไรก็ตามศาลแขวงดุสิตได้รับฟ้องคดีนี้ไว้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.447/2564 และ หมายเลขดำที่ อ.448/2564 และกำหนดวันนัดพร้อมและสอบคำให้การในคดีต่อไปในวันที่ 9 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น. ก่อนที่จะมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยระหว่างพิจารณา โดยให้วางหลักทรัพย์เป็นเงินสดคดีละ 20,000 บาท รวมเป็น 40,000 บาท โดยเป็นหลักทรัพย์จากกองทุนราษฎรประสงค์

Exit mobile version