อภิสิทธิ์ชน อย่างแท้จริง!! สุดเอือม “ทอม เครือโสภณ” นักธุรกิจใหญ่ แย่งฉีดวัคซีนไทยครบ 2 เข็ม ทั้งครอบครัว ทั้งที่ไม่ใช่ “กลุ่มเป้าหมาย” แถมแอบบินไปฉีดที่สหรัฐต่อ
เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นสุดร้อนแรง หลังจากที่ได้มีการโพสต์ข้อความ ของ “นายจุลภาส (ทอม) เครือโสภณ” นักธุรกิจชื่อดัง และอดีตสมาชิกทีมยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวและบริการ พรรคภูมิใจไทย ว่าที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ Pfizer ให้ฟรี โดยโพสต์ข้อความระบุว่า
“ฉีด vaccine ที่ America 🇺🇸 ไฟเซอร์Pfizer. ง่ายมากเร็วมากใครมาฉีดก็ได้ฟรีด้วย”
โดยหลังจากนั้นได้มีการแชร์ข้อมูลดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ผุด ทัวร์ไทยบินไปฉีดวัคซีนฟรีที่ต่างประเทศ ซึ่งค่อนข้างที่จะมีความน่ากลัว อาจจะมีมิจฉาชีพ แฝงตัวหลอกลวงได้
ทำให้ทางด้านของ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงประเด็นที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์ว่า คนไทยบินไปต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ฟรี รวมถึงการจัดแพ็คเกจบินไปเป็นกลุ่มเพื่อไปฉีดวัคซีน ว่า จากข้อมูลที่สอบถามกับกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า “ไม่เป็นความจริง” เนื่องจากว่ากลัวประชาชนจะหลงเชื่อและถูกหลอก
โดยทางด้านของ นายจุลภาส ก็ได้ออกมาตอบโต้ในทันที โดยอ้างว่าตนเองนั้น ได้ทำการให้เพื่อนลงทะเบียนให้ในวัน พฤหัสบดีที่ 29 เม.ย.64 และได้รับอนุมัติในวันที่ 30 เม.ย.64 แล้วจึงบินไปฉีดวัคซีนในวันที่ 3 พ.ค.64 จนกลายเป็นเรื่องเป็นราวเป็นกระแสในโลกออนไลน์ อีกทั้งยังได้พยายามโจมตี นพ.โอภาส ที่หาว่าตนเองนั้นโกหก โดยได้โพสต์โจมตีผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า
“ไอ้คนนี้ ไม่รู้เรื่อง ผมเพิ่งมาทำที่อเมริกาภรรยาผมก็จะบินมาวันจันทร์นี้ผมได้สัมภาษณ์คนที่เค้าฉีดได้เลยเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วจะมาบอกว่าอเมริกาไม่ฉีดให้ฟรีได้ยังไง. อาจจะไม่ฉีดให้ทุกรัฐแต่ในรัฐ California and Nevada แน่นอน. นี่คือผู้บริหารประเทศไทยป้องกันตูดตัวเองซะจนไม่ให้มีสิทธิ์คนไทยเลือกวิธีอื่น. มายืนยันกับผมได้เลยอย่ามั่วเมื่อไม่รู้จริง America เค้ามีสิ่งที่เรียกว่า undocumented workers เยอะเค้าฉีดให้ทุกคนเพราะเขาคิดว่าเมื่อคุณเหยียบในประเทศเขาแล้วคุณก็ทำอันตรายให้เขาได้อย่าให้ข้อมูลที่ไม่รู้จริง”
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ได้มีประเด็นที่ค่อนข้างหน้าสนใจนั่นก็คือ ก่อนหน้าเขาได้ฉีดวัคซีนซิโนแวคจากไทยครบ 2 เข็มเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่า นายจุลภาส ไม่ถือว่าเป็นบุคคลที่เข้าค่าย ได้รับการฉีดวัคซีน เป็นกลุ่มแรก เพราะไม่ได้เป็นทั้งบุคลากรทางการแพทย์ หรือมีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ หรือเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ทหาร ตำรวจ อีกทั้งยังมีอายุไม่เกิน 60 ปี ซึ่งก็ไม่เข้าข่าย เป็นเพียงนักธุรกิจที่ร่ำรวยคนหนึ่ง แต่กลับใช้เส้นสาย และเงินทอง เพื่อให้ตนเองและครอบครัว ได้แย่งฉีดวัคซีนในประเทศไทยเป็นกลุ่มแรก ในขณะที่กลุ่มเสี่ยงบางคนยังไม่ได้รับการฉีด นี่แหละคือความเป็นอภิสิทธิ์ชน อย่างแท้จริง