ผอ.ไอเอ็มซี ฟันธง! “ย้ายประเทศ” เป็นแค่ Event อย่าวิเคราะห์ให้เสียเวลา หากเป็นจริงก็คงได้ไปอยู่ค่ายอพยพประเทศเพื่อนบ้าน!?ผอ.ไอเอ็มซี ฟันธง! “ย้ายประเทศ” เป็นแค่ Event อย่าวิเคราะห์ให้เสียเวลา หากเป็นจริงก็คงได้ไปอยู่ค่ายอพยพประเทศเพื่อนบ้าน!?ผอ.ไอเอ็มซี ฟันธง! “ย้ายประเทศ” เป็นแค่ Event อย่าวิเคราะห์ให้เสียเวลา หากเป็นจริงก็คงได้ไปอยู่ค่ายอพยพประเทศเพื่อนบ้าน!?
จากกรณีที่สถานทูตฯสวีเดน ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นการย้ายประเทศ โดยเสนอเหตุผลเป็นข้อๆว่า มีสิทธิและการคุ้มครองแรงงานที่เข้มแข็ง มีความเท่าเทียมทางเพศ ให้คุณค่ากับนวัตกรรม และมีระบบสวัสดิการครอบคลุมทุกคน อีกทั้งยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของการมาทำงานที่ประเทศสวีเดน และการได้รับใบอนุญาตทำงานในประเทศสวีเดนผ่านลิงค์ทางการของประเทศสวีเดนอีกด้วย
ต่อมาก็ได้มีคนสร้างกลุ่มบนเฟซบุ๊กชื่อ “ย้ายประเทศกันเถอะ” และภายใน 5 วันก็มีสมาชิกเข้าร่วมกว่า 750,000 คน ภายในกลุ่มมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการไปอยู่ เรียนต่อ รวมถึงทำงานในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ล่าสุดทางด้าน ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการสถาบันไอเอ็มซี (IMC Institute) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีการย้ายประเทศ โดยระบุข้อความว่า
เห็นบอกว่ากระแสคนจะย้ายประเทศน่าจะถึงหกแสนคน ทำให้ผมนึกถึงเรื่องเสมัยก่าๆที่คนจีนมากมายอพยพหนีมาเมืองไทย ภาพคนลาว เขมร เวียดนาม หนีมาเมืองไทยมาอยู่ค่ายอพยพแล้วถูกส่งไปประเทศที่สามอย่าง สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์ นึกถึงภาพก่อนวันที่ไซ่ง่อนแตกที่คนเวียดนามจำนวนมากมารุมออกันอยู่หน้าสถานทูตอเมริกาเพื่อขอลี้ภัย นึกถึงภาพผู้อพยพอินโดจีนที่ต้องล่องเรือหนีไปลอยคอกลางทะเลจะเข้าตามประเทศต่างๆ แต่นั้นมันมากกว่า 40 ปีแล้ว หรือยุคก่อนๆที่คนจีนสามารถมาเมืองไทยได้แบบเสื่อผืนหมอนใบได้เพราะเรายังไม่มีระบบตรวจคนเข้าเมืองที่ดีพอ
มาในยุคปัจจุบันการจะย้ายถิ่นฐานไปคงไม่ง่าย จะขอวีซ่าไปทำงานบางประเทศยากมากสำหรับคนที่ไม่มีความสามารถพอ และแต่ละประเทศให้จำนวนที่จำกัด ถ้าจะถือวีซ่านักท่องเที่ยวเพื่อให้เข้าประเทศก่อนแล้วแอบลอบทำงานก็ผิดกฎหมาย ก็จะแอบอยู่อย่างโรบินฮูด เหมือนที่ผมเคยเห็นในอเมริกา นิวซีแลนด์ เกาหลี แต่ก็ไม่สามารถประกอบอาชีพดีๆได้ อยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ
อย่างที่บอกครับอย่ามองว่ากระแสนี้จะเกิดขึ้นจริง คนเก่งจริงๆอาจมีที่ขอวีซ่าไปได้ แต่มีจำนวนน้อยแล้วบางครั้งควรส่งเสริมเขาด้วยซ้ำไป เราคงไม่ได้สูญเสียคนเก่งไปมากมายจนถึงขนาดว่าประเทศจะไม่พัฒนาต่ออย่างที่มีอยู่ในกระแส มันเป็นแค่ Event ไม่ต้องเสียเวลาไปวิเคราะห์ผลกระทบอะไรเลย ถ้าคนจะย้ายไปเยอะๆเป็นหลายแสนจริงในปัจจุบัน ผมนึกถึงภาพของซีเรีย เยเมน หรือแม้แต่พม่า กับชาวโรฮินยา ที่อพยพหนีออกจากประเทศ ต้องไปอยู่ในค่ายอพยพประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นถ้าตัวเลขนั้นจะเป็นจริงก็คงต้องมีค่ายอพยพคนไทยในชายแดนอาจเป็นพม่าหรือลาวที่คนจำนวนเป็นหมื่นเป็นแสนไปอยู่กัน