เกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธุ์ระหว่างฟิลิปปินส์และจีน รัฐบาลมะนิลายังคงเรียกร้อง ให้เรือประมงของจีนออกจากพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ให้หมด แม้ส่วนใหญ่จะแล่นออกไปแล้ว แต่การกล่าวคำสบถครั้งล่าสุดของรมว.การต่างประเทศฟิลิปปินส์ทำจีนต้องออกอาการเตือน ขอให้รักษามารยาทการทูตระหว่างประเทศบ้าง ในฐานะมิตรที่ดีสามารถเจรจากันได้ทุกเรื่อง ขณะที่ประธานาธิบดีดูเตอร์เตย้ำอธิปไตยสำคัญต้องมาก่อนพร้อมรับวัคซีนซิโนแว็กจากจีนและฉีดประเดิมคนแรก ปรากฎการณ์เหล่านี้สะท้อน จุดเปราะบางของความสัมพันธุ์ระหว่างพันธมิตรสองประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ทับซ้อนข้อพิพาททะเลจีนใต้ ที่สหรัฐฯและพันธมิตรQUAD ใช้เป็นจุดแตกหักอาเซียนกับจีน แล้วแทรกแซงเข้ามาในภูมิภาคนี้ เพื่อเป้าหมายต้านจีนอย่างเปิดเผย ต้องจับตาเรื่อง ฐานทัพสหรัฐในฟิลิปปินส์ที่ถูกจำกัดบทบาทลงในช่วงนี้จะถูกรื้อฟื้นอีกครั้งหรือไม่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อสหรัฐเดินหน้าปักหมุดเอเซีย-แปซิฟิกเพื่อต้านจีนอย่างเต็มที่
เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า นายทีโอโดโร ล็อกซิน จูเนียร์ รมว.การต่างประเทศของฟิลิปปินส์ ทวีตข้อความบนบัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันจันทร์ที่ 2 พ.ค.2564 ที่ผ่านมาเป็นภาษาอังกฤษ และสบถคำหยาบร่วมด้วย เกี่ยวกับการที่ยังคงมีเรือประมงของจีนจำนวนหนึ่งปักหลักอยู่บริเวณแนวปะการังวิธซัน ใกล้กับหมู่เกาะสแปรตลีย์ ตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กองทัพฟิลิปปินส์เพิ่มจำนวนเรือลาดตระเวน “เพื่อปกป้องอธิปไตยทางทะเล” ในภาคตะวันตกของฟิลิปปินส์ ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจน ว่ารัฐบาลมะนิลาจะทำอย่างไร กับเรือประมงของจีนที่ยังคงปักหลักอยู่ นอกจากนี้ ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว มีเรือของหน่วยยามฝั่งจีนจำนวนหนึ่งแล่นเข้ามาบริเวณแนวสันดอนสการ์โบโรห์ และยังคงลอยลำอยู่จนถึงปัจจุบัน
รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ เป็นคนพูดจาขวานผ่าซากเป็นครั้งคราว ทวีตข้อความเพื่อกดดันให้กองเรือนับร้อยของจีนออกไปจากพื้นที่น่านน้ำซึ่งฟิลิปปินส์เรียกว่าเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หรือ EEZ อาณาเขตในรัศมี 200 ไมล์ทะเลจากฝั่ง
และในวันเดียวกันแถลงการณ์กระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวหากองเรือชายฝั่งจีนว่า พยายามปิดกั้น ขัดขวาง ก่อการซ้อมรบ และสื่อสารตอบโต้ทางวิทยุกับกองเรือชายฝั่งฟิลิปปินส์ ขณะที่ทางสถานทูตจีนประจำกรุงมะนิลาไม่ได้ออกมาให้ความเห็นกับทวีตเดือดดังกล่าว
เมื่อสัปดาห์ก่อน ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตรเต้ แห่งฟิลิปปินส์ ยืนยันว่าจีนนั้นเป็นมิตรที่ดี แต่มีหลายสิ่งที่ฟิลิปปินส์ไม่อาจประนีประนอมกับจีนได้สำหรับ ดูเตอร์เต เองนั้นพยายามที่จะรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับจีนไว้ เพื่อความสัมพันธุ์ทางเศรษฐกิจ การลงทุน เงินกู้ และความช่วยเหลืออื่นๆ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
ปฏิกิริยาล่าสุดของกระทรวงต่างประเทศจีน ได้ออกคำแถลงขอให้ฟิลิปปินส์รักษามารยาทและเลี่ยงการใช้ไมโครโฟนทางการทูต กรณีนายทีโอโดโร ลอคซิน รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ ได้ทวีตข้อความด้วยคำหยาบคายในการประท้วงที่กองเรือจีนหลายร้อยลำรุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะ(EEZ)ของฟิลิปปินส์ก่อนหน้านี้
แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศจีนเรียกร้องให้ฟิลิปปินส์เคารพอธิปไตยและขอบเขตอำนาจของจจีนและให้ยุติการกระทำใดๆที่จะเป็นการทำให้สถานการณ์ยุ่งยากซับซ้อน
Diplomatic protests against China pile up because of Beijing's supposed constant illegal activities in Philippine waters. @TristanNodalo reports. https://t.co/2GPnovRimC pic.twitter.com/RYucoBSt6T
— CNN Philippines (@cnnphilippines) May 3, 2021
“ข้อเท็จจริงเป็นสิ่งพิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าการทูตไมโครโฟนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงได้ หากมีแต่จะทำลายความไว้วางใจซึ่งกันและกันไปเท่านั้น หวังว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในฟิลิปปินส์จะปฏิบัติด้วยมารยาทพื้นฐานและสถานะของผู้นั้นขณะกล่าวให้ความเห็น” กระทรวงต่างประเทศจีนระบุ และว่า จีนได้ทำงานร่วมกับฟิลิปปินส์เสมอมาและจะยังคงทำงานต่อไปในการแก้ไขความแตกต่างและส่งเสริมความร่วมมือกันโดยผ่านการปรึกษาหารือฉันท์มิตร
ด้านนายลอคซินออกมาทวีตข้อความในวันเดียวกันว่าตนไม่ขอให้การยั่วยุครั้งล่าสุดเป็นข้ออ้าง แต่หากนายหวัง อี้ ติดตามทวิตเตอร์ ตนก็เสียใจที่ไปทำร้ายความรู้สึกของเขาแต่เป็นเขาคนเดียว เป็นข้อความที่นายลอคซินส่งตรงถึงนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ขณะที่ฟิลิปปินส์และจีนมีประเด็นขัดแย้งคุกรุ่นในพื้นที่ทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนและฟิลิปปินส์ต่างเป็นหนึ่งในชาติที่กล่าวอ้างสิทธิอธิปไตยทับซ้อนกันอยู่