รัฐบาลจ่อเยียวยาโควิดระลอก3!?!ดันคนละครึ่งเฟส 3 ลงทะเบียนพ.ค.นี้ลุ้นเราชนะ-เรารักกัน-เราเที่ยวด้วยกันโฉมใหม่

1983

นายกฯเรียกประชุมหารือหน่วยงานเศรษฐกิจ ถกเยียวยาผลกระทบโควิด ระลอก 3 เรียกความเชื่อมั่นรัฐบาล พร้อมเสนอ ครม.พรุ่งนี้ คาดดัน “คนละครึ่ง”เฟส 3 ทันทีเปิดลงทะเบียน พ.ค.เริ่มใช้ มิ.ย.นี้ ส่วน“เราเที่ยวด้วยกัน” ยืดเวลาไปถึงสิ้นปี รอลุ้นโฉมใหม่มาตรการเยียวยาตระกูล “เรา” ได้แก่ เราชนะ-เรารักกัน-เราเที่ยวด้วยกันและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

เมื่อวานนี้วันที่  3 พ.ค.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานเศรษฐกิจ คณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย ที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อหารือมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 เพื่อเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ค.)

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีและคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจได้พิจารณาถึงความคืบหน้าของมาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ทั้งในส่วนของมาตรการด้านการเงินผ่านการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 และการออก พ.ร.ก.ด้านการเงินต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ 

รวมถึงมาตรการด้านภาษี ทั้งการลดภาษีและการขยายกำหนดเวลาต่างๆ อีกทั้งมาตรการด้านการคลังผ่านโครงการเยียวยา และมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อต่างๆ ซึ่งมีทั้งโครงการที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว เช่นโครงการคนละครึ่งระยะที่ 1-2 โครงการเพิ่มกำลังซื้อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการที่ยังดำเนินการอยู่ เช่น โครงการเราชนะ

ทั้งนี้ นายกฯ ย้ำความจำเป็นที่ต้องพิจารณามาตรการที่จะออกมาใหม่ในรอบนี้ให้รวดเร็วและด้วยความรอบคอบ โดยมาตรการใดที่พร้อมให้ดำเนินการทันที และนายกรัฐมนตรีขอให้หน่วยงานต้นสังกัดนำเสนอเข้า ครม.พิจารณาวันที่ 5 พ.ค.2564 และจะมอบนายสุพัฒนพงษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้แถลงหลังประชุม ครม.

หน่วยงานเศรษฐกิจได้ให้ข้อมูลกับนายกรัฐมนตรี ว่า มาตรการเยียวยาประชาชนยังต้องใช้เวลาในการประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทางเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเนื่องจากการระบาดในครั้งนี้ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่หนักและมีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างจึงต้องดูว่าวงเงินที่จะใช้เยียวยาเท่าไหร่จึงจะเพียงพอเหมาะสม 

สำหรับมาตรการที่สามารถดำเนินการได้เลยคือมาตรการ “คนละครึ่ง” เฟส 3 ซึ่งใช้วงเงินประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังได้ส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯ ที่มี สศช.เป็นประธานแล้ว คาดว่ารายละเอียดของโครงการนี้จะมีการพิจารณาและนำเข้าสู่การประชุมของ ครม.ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน พ.ค.นี้

โดยจะเปิดลงทะเบียนในเดือน พ.ค.2564 และมีผลในเดือน มิ.ย.นี้ โดยมาตรการที่ดำเนินการจะช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ช่วยเหลือร้านค้ารายย่อยได้หลังจากมาตรการเศรษฐกิจที่ออกมาก่อนหน้านี้ทยอยหมดลงปลายเดือน พ.ค.นี้ 

ส่วนมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 มีแนวความคิดให้เลื่อนโครงการออกไปในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมหลังจาก ศบค.ประกาศขอให้มีการงดการเดินทางในหลายพื้นที่เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งการเลื่อนระยะเวลาโครงการเที่ยวด้วยกันจากเดิมที่ให้สิทธิ์เราจอง 2 ล้านสิทธิ์ เริ่มต้นในวันที่ 17 พ.ค.นี้ จะให้เริ่มลงทะเบียนใหม่ในเดือน มิ.ย.และขยายระยะเวลาการสิ้นสุดโครงการไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2564 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ส.ค.2564

คืบหน้ามาตรการ “เราชนะ” ล่าสุด มีผู้ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์ 24.7 ล้านคน เงินหมุนเวียนในระบบ 203,714 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

อย่างไรก็ตาม การระบาดของcovid 19 ในรอบล่าสุดนี้ ได้กระจายไปทั่วประเทศ และมีผลกระทบในวงกว้างกว่ารอบที่ผ่านมา จึงมีความจำ เป็นที่จะต้องพิจารณามาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม เพื่อดูแลและเยียวยาประชาชนอย่างเร่งด่วน และฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเร็ว โดยจะพิจารณามาตรการที่สามารถดำเนินการได้ทันทีอาทิ มาตรการด้านการเงิน มาตรการด้านสินเชื่อ มาตรการพักชำระหนี้ รวมถึงมาตรการลดค่าใช้จ่ายของประชาชนมาตรการการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศและมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

รอพรุ่งนี้ได้ลุ้น ใครกลุ่มไหนได้บ้าง ประชาชนได้เฮทั้งประเทศ!!