สหรัฐส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายเศรษฐกิจฯเยือนไต้หวันอย่างเป็นทางการ แสดงจุดยืนหนุนไต้หวันอย่างเปิดเผย พร้อมเตรียมขายอาวุธล็อต 2 มูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ทางการจีนขยับตอบโต้ โดยส่งเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิดรวม 19 ลำ บินป้วนเปี้ยนในเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันและข้ามเส้นแบ่งกลางช่องแคบ 2 วันติด ทำกองทัพอากาศไต้หวันส่งบินรบติดมิสไซล์ขึ้นสกัดจ้าละหวั่น กลาโหมจีนยันเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตย ส่วนผู้บริหารไต้หวันพร้อมเผชิญหน้าทางการจีน งานนี้สหรัฐกระเป๋าตุง
สหรัฐยั่วยุจีน-ขายอาวุธให้ไต้หวันเพิ่ม
คีธ แครชKeith Krach ปลัดกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายเศรษฐกิจ, พลังงาน และสิ่งแวดล้อมของสหรัฐ เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ที่เดินทางเยือนไต้หวันในรอบ 40 ปี นับแต่สหรัฐสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลปักกิ่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.ย.2563 ก่อนหน้าที่แครชจะเดินทางถึงกรุงไทเป ว่าจีนได้ยื่นประท้วงสหรัฐและจะดำเนินการตอบโต้ที่จำเป็น
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงวัตถุประสงค์การไปเยือนไต้หวันว่า เพื่อไปคารวะศพของอดีตประธานาธิบดี ลี เต็งฮุย ซึ่งเสียชีวิตเมื่อเดือนกรกฎาคม การเยือนของสหรัฐครั้งนี้ มีรายงานว่าปธน.ทรัมป์เตรียมขายอาวุธมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับกระทรวงกลาโหม (ไฟแนนเชียลไทมส์และวอลสตรีทเจอร์นัลรายงาน) ข้อตกลงนี้รวมถึงมิสซายล์ อาวุธหนักและโดรน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนอาวุธที่มากเป็นอันดับสองรองจากปี 2019 ที่สหรัฐขายอาวุธให้ไต้หวันวงเงิน 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ย.2563) เปิดเผยคำแถลงของกระทรวงกลาโหมจีนว่า กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) ได้เริ่มการซ้อมรบใกล้ช่องแคบไต้หวันในวันเดียวกันนี้ พร้อมกับประณามการรวมหัวกันระหว่างรัฐบาลสหรัฐกับรัฐบาลไต้หวัน
รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ติดต่อเกี่ยวพันกับไต้หวันใกล้ชิดและขายอาวุธให้ไต้หวันเป็นจำนวนมาก ทำไต้หวันแสดงท่าทีกระด้างกระเดื่องหมายแยกตัวอย่างเด่นชัด ขณะที่จีนถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน มองว่าสหรัฐยั่วยุและแทรกแซงอธิปไตย ได้จัดการฝึกซ้อมทางทหารใกล้เกาะไต้หวันบ่อยครั้งขึ้น รวมถึงการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศครั้งใหญ่นาน 2 วันในสัปดาห์ที่แล้ว
จีนขยับแรง ซ้อมรบเตรียมพร้อมไม่ขู่
เหริน กั๋วเชียง โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีน กล่าวว่า การฝึกเมื่อวันศุกร์ซึ่งเขาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดนี้ เป็นการกระทำที่จำเป็นและสมเหตุสมผลที่มุ่งเป้าสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันขณะนี้ และเพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน กองทัพจีนมีขีดความสามารถเพียงพอที่จะโต้ตอบภัยคุกคามจากภายนอกหรือการท้าทายจากพวกแบ่งแยกดินแดนไต้หวัน
โฆษกจีนยืนกรานว่า “ไต้หวันเป็นกิจการภายในของจีนล้วนๆ และจีนจะไม่อดกลั้นกับการแทรกแซงจากภายนอก ช่วงไม่นานมานี้ สหรัฐและเจ้าหน้าที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ได้สมรู้ร่วมคิดกันมากขึ้น สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายอยู่บ่อยครั้ง ความพยายามใช้ไต้หวันมาควบคุมจีนหรือการพึ่งพาชาวต่างชาติเพื่อยกตนเอง เป็นความเชื่อที่อยู่เหนือความเป็นจริงและมีแต่จะเจอทางตัน พวกที่เล่นกับไฟจะต้องโดนไฟเผา” โฆษกกลาโหมแถลงดุเดือด
ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าวว่า มีเครื่องบินของจีน 19 ลำขึ้นบินเมื่อวันศุกร์ ประกอบด้วย เครื่องบินทิ้งระเบิดเอช-6 จำนวน 2 ลำ, เครื่องบินขับไล่ เจ-16 จำนวน 8 ลำ, เครื่องบินขับไล่ เจ-10 จำนวน 4 ลำ และเครื่องบินขับไล่ เจ-11 อีก 4 ลำ บินข้ามเส้นแบ่งกึ่งกลางช่องแคบไต้หวันและเข้ามาในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ: เอดีไอแซด) ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน กองทัพอากาศไต้หวันจึงส่งเครื่องบินรบขึ้นสกัดกั้นและได้วางกำลังระบบมิสไซล์ป้องกันภัยทางอากาศเพื่อจับตาความเคลื่อนไหว
หนังสือพิมพ์ลิเบอร์ตีไทมส์ของไต้หวันกล่าวว่า เครื่องบินรบของไต้หวันบินขึ้น 17 ครั้งในช่วงเวลา 4 ชั่วโมงของเช้าวันศุกร์ เพื่อเตือนให้เครื่องบินของกองทัพอากาศจีนออกจากพื้นที่ รายงานยังเผยแพร่ภาพการบรรจุมิสไซล์หลายลูกติดตั้งบนเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ที่ฐานทัพอากาศฮัวเหลียนทางฝั่งตะวันออกของไต้หวันอีกด้วย