สามกีบดูไว้?!? เปิดคำพิพากษาคดีแจกใบปลิว-สติกเกอร์แก๊งสหพันธรัฐไท หวังล้มสถาบัน? ศาลอุทธรณ์ยืนคุก 3 ปี ข้อหาอั้งยี่!

2648

สามกีบดูไว้?!? เปิดคำพิพากษาคดีแจกใบปลิว-สติกเกอร์แก๊งสหพันธรัฐไท หวังล้มสถาบัน? ศาลอุทธรณ์ยืนคุก 3 ปี ข้อหาอั้งยี่!

จากกรณีที่วันนี้ (27 เมษายน 2564) เวลา 9.00 น. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีสหพันธรัฐ 2 คดี โดยเป็นคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ฟ้องนายกฤษณะ (สงวนนามสกุล) กับพวกรวม 5 คน ในข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” และ “เป็นอั้งยี่” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ 209 จากการจำเลยมีเสื้อดำซึ่งมีสัญลักษณ์สหพันธรัฐไทและการแจกใบปลิว คดีนี้จำเลยถูกดำเนินคดีตั้งแต่ช่วงต.ค. 2561 ท้้งนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 3 ปี 4 จำเลย  ข้อหา อั้งยี่

โดยทางอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2561 ระบุพฤติการณ์สรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. – 12 ก.ย. 2561 จำเลยทั้งห้ากับนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ, นายชูชีพ ชีวะสุทธิ์, นายสยาม ธีรวุฒิ, นายวัฒน์ วรรลยางกูร และนายกฤษณะ ทัพไทย ซึ่งหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้ร่วมกันเป็นหัวหน้า ผู้จัดการ หรือผู้มีตำแหน่งหน้าที่ ในคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีการ ชื่อกลุ่มสหพันธรัฐไท มีความมุ่งหมายเพื่อต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อต้านรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทยจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไปสู่ระบอบการปกครองในระบอบสหพันธรัฐ ที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข

จำเลยทั้งห้ากับพวกดังกล่าว ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ โดยได้เคลื่อนไหวปลุกระดมสมาชิกกลุ่มและประชาชนทั่วไปผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ เฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์ ยูทูบ และการแจกเอกสารแผ่นปลิว ชักชวนให้สมาชิกกลุ่มและประชาชนทั่วไปต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อต้านรัฐบาลและ คสช. ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร

โดยจำเลยที่ 1-4 ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ 5 หลบหนี ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะส่วนของจำเลยที่ 5 ออกจากสารบบความ ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2563 ว่า จำเลยที่ 1-4 กระทำผิดฐานเป็นอั้งยี่ มาตรา 209 จำคุกคนละ 3 ปี โดยจำเลยที่ 2-3 รับสารภาพในชั้นสอบสวน ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 2 ปี ทั้งหมดไม่รอลงอาญา ยกฟ้องฐานยุยงปลุกปั่นฯ มาตรา 116 ภายหลังโจทก์และจำเลยที่ 1-4 ยื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า พยานโจทก์มีหลักฐานบ่งชี้สนับสนุนให้เชื่อว่าจำเลยที่ 1-4 เกี่ยวข้องกับกลุ่มสหพันธรัฐไทจริง แต่เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมประกอบข้อความในแผ่นใบปลิวและสติกเกอร์ ไม่มีลักษณะเป็นการยุยงปลุกปั่นฯ ที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องความผิดฐานนี้ ส่วนจำเลยที่ 1-4 กระทำผิดฐานเป็นอั้งยี่หรือไม่ การที่จำเลยที่ 1-4 ตัดสินใจเข้าร่วมอุดมการณ์ด้วยการช่วยเหลือให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของกลุ่มสหพันธรัฐไท โดยนำใบปลิว สติกเกอร์ และเสื้อที่มีสัญลักษณ์ของกลุ่มไปเผยแพร่แจกจ่าย ตลอดจนใช้สื่อสังคมออนไลน์ชี้นำชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาเป็นสมาชิก ย่อมบ่งชี้ว่าจำเลยที่ 1-4 มีเจตนาเข้าร่วมหรือมีส่วนร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มสหพันธรัฐไท เมื่อกลุ่มสหพันธรัฐไทมีวัตถุประสงค์หรือจุดมุ่งหมายเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง นับเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ การกระทำของจำเลยที่ 1-4 จึงมีความผิดเป็นอั้งยี่

ส่วนที่จำเลยที่ 1-4 อุทธรณ์ว่า การเป็นสมาชิกหมายถึงการร่วมจัดตั้งองค์กร มีตำแหน่งหน้าที่ มีการประชุมปรึกษาหารือกันระหว่างสมาชิก จำเลยจึงไม่มีความผิดนั้น แต่การที่จำเลยที่ 1-4 ร่วมกระทำกิจกรรมกับกลุ่มสหพันธรัฐไท ถือได้ว่าจำเลยที่ 1-4 แสดงเจตนาเข้ามีส่วนร่วมเป็นสมาชิกแล้ว ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1-4 กระทำผิดฐานเป็นอั้งยี่ ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกจำเลยที่ 1, 4 คนละ 3 ปี จำเลยที่ 2-3 คนละ 2 ปี

สำหรับคดีที่สอง พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายเทอดศักดิ์ เถียรพุดซา และนางประพันธ์ พิพัธนัมพร เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นฯ และอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 209 สำนวนนี้โจทก์ฟ้องกรณีเมื่อวันที่ 4-5 ธ.ค. 2561 จำเลยทั้งสองกับพวกนัดหมายสวมใส่เสื้อสีดำ มีสัญลักษณ์ขององค์การสหพันธรัฐไทเดินในบริเวณห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ ในวันที่ 5 ธ.ค. 2561 เพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ เหตุเกิดที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ต่อมาศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ภายหลังโจทก์ยื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว องค์การสหพันธรัฐไทมีนายชูชีพ ชีวะสุทธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้งองค์การสหพันธรัฐไท ดำเนินรายการทางสื่อสังคมออนไลน์ยูทูป ชักชวนให้ประชาชนสวมใส่เสื้อสีดำออกมาชุมนุมในห้างสรรพสินค้าหรือในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ในวันที่ 5 ธ.ค. 2561 กระทั่งวันดังกล่าวจำเลยทั้งสองสวมใส่เสื้อสีดำ มีสัญลักษณ์สีขาวแดงปรากฏตัวที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ พบปะพูดคุยกับประชาชนที่สวมใส่เสื้อสีดำในบริเวณนั้น เจ้าพนักงานตำรวจจึงจับกุมจำเลยทั้งสองแจ้งข้อหายุยงปลุกปั่นฯ และอั้งยี่

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมารับฟังได้เพียงว่า ในวันเกิดเหตุ จำเลยทั้งสองสวมใส่เสื้อยืดสีดำมีสัญลักษณ์ขององค์การสหพันธรัฐไท พูดคุยกับผู้สวมใส่เสื้อสีดำด้วยกันในที่เกิดเหตุเท่านั้น โดยโจทก์ไม่มีหลักฐานแจ้งชัดว่า จำเลยทั้งสองเป็นผู้มีส่วนริเริ่มชักชวนประชาชนทั่วไปให้มาชุมนุมกันที่หน้าห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ หรือจำเลยทั้งสองกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาเช่นไร เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตาม ป.อาญา มาตรา 116 (2)(3) กรณีมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำความผิดดังกล่าวตามฟ้องโจทก์หรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยทั้งสอง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน