Truthforyou

จตุพร เย้ยถูกแจ้ง 3 คดีรวดน่ากลัวจังเลย! อย่าลืมไปจ่ายคดีเผาตึกปี53 ด้วย โดน 2คดีแพ่ง หลายสิบล้าน!?!

จตุพร เย้ยถูกแจ้ง 3 คดีรวดน่ากลัวจังเลย! อย่าลืมไปจ่ายคดีเผาตึกปี53 ด้วย โดน 2คดีแพ่ง หลายสิบล้าน!?!

จากกรณีที่มีการชุมนุมของกลุ่มสามัคคีประชาชน เพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้จัดให้มีการชุมนุมที่บริเวณ อนุสรณ์อนุสรณ์สถานพฤษภา 35 สวนสันติพรเมื่อวันที่ 4, 5 และ 7 เม.ย.64 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ล่าสุดทางด้าน กองบัญชาการตำรวจนครบาลแจ้งดำเนินคดีกับนายจตุพรและอีก 18 คน ในข้อหา ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในหัวข้อ 3 คดี โดยทางจตุพรได้ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวว่า น่ากลัวจังเลย ในสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้การใช้อำนาจรัฐอย่างขาดสติของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น จะมีมากขึ้นตามลำดับ วันนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข่าวโดยระบุว่า จากการจัดเวทีปราศรัยที่สวนสันติพรพฤษภาคมประชาธรรม จะแจ้งความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยจะดำเนินคดี วันละ 1 คดี รวม 3 คดี ซึ่งหากมองย้อนกลับไป ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา มีการชุมนุมทางการเมืองของ 3 กลุ่ม หากนับมีการชุมนุมขณะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน วันละ 1 คดี ก็จะมีคดีกันจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ตนได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลว่ามีลักษณะเช่นนี้ด้วยหรือ ก็บอกว่าจะไปหารือกับศาลและอัยการ ซึ่งจริงๆ แล้วก็ได้มีการขออนุญาตกันตามลำดับ

โดยในการการชุมนุมวันที่ 4 เม.ย.64 ดำเนินคดีนายจตุพร พรหมพันธุ์ กับพวก รวม 18 คน ในข้อหา ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งหมดให้มาพบในวันที่ 15-16 เม.ย.64 ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดได้ขอเลื่อนการเข้าพบเป็นวันที่ 13-14 พ.ค.64 พนักงานสอบสวนรับทราบการขอเลื่อนการเข้าพบแล้ว

การชุมนุมวันที่ 5 เม.ย.64 ดำเนินคดีนายจตุพร พรหมพันธุ์ กับพวก รวม 14 คน ในข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งหมดให้มาพบในวันที่ 26 เม.ย.64

การชุมนุม วันที่ 7 เม.ย.64 ดำเนินคดีนายจตุพร พรหมพันธุ์ กับพวก (อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลให้ครบถ้วน) ในข้อหา ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยจะได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้มาพบในวันที่ 29 เม.ย.64

ย้อนไปก่อนหน้านี้คดีเกี่ยวกับการวางเพลิงเผาทรัพย์ช่วงระหว่างการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โดยมีการฟ้องเรียกค่าเสียหาย โดยวมีนางนุชทิพย์ บรรจงศิลป์ โจทก์ที่ 1, นายสิริเชษฐ์ สุขประสงค์ดี โจทก์ที่ 2 , นางมนัสนันท์ สุขประสงค์ดี โจทก์ที่ 3 และบริษัทยูแอลซี ซอฟแวร์ โจทก์ที่ 4

โดยศาลฎีกาพิพากษาให้นายจตุพร, นายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ ร่วมกันรับผิดชอบใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 1,347,000 บาท นอกจากนี้ยังให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 2 และโจทก์ที่ 3 เป็นเงิน 12,000,000 บาท และร่วมกันรับผิดชอบใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่  4 เป็นเงิน 6,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2553 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับค่าขาดผลประโยชน์ 1,200,000 บาท และชำระเพิ่มอีกเดือนละ 100,000 บาท นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 18 พ.ค. 2554) เป็นต้นไป แต่ทั้งนี้ ให้เสียค่าเสียหายได้ไม่เกิน 24 เดือน อย่างไรก็ตาม ให้จำเลยที่ 8-10 ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนโจทก์ เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนทรัพย์สินโจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความรวม 100,000 บาท

ทั้งนี้ นายจตุพร กล่าวตอนหนึ่งทางสถานีโทรทัศน์พีซทีวีว่า ในวันที่ 22 ส.ค.62 มีคำพิพากษาศาลแพ่ง ซึ่งมีตน นายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ เป็นจำเลยร่วมให้ชดใช้ค่าเสียหายในคดีแพ่ง ซึ่งต่างคนก็ไม่ทราบว่าศาลฯได้นัดอ่านคำพิพากษา เนื่องจากไม่ได้รับหมายศาล โดยคดีนี้ โจทก์ในฐานะเจ้าของอาคารพาณิชย์และผู้เช่าอาคารพาณิชย์ บริเวณถนนราชปรารภ ซึ่งเกิดเพลิงไหม้ ได้ฟ้อง ไม่ใช่เพียงแค่ตน 3 คน เท่านั้น ยังมีจำเลยอีกหลายคน โดยคดีนี้ มี 2 สำนวน ซึ่งมารวมกันภายหลัง

Exit mobile version