จากกรณีที่วันนี้ 17 เมษายน 2564 ทวิตเตอร์ ข่าวโฉดNewS@KhaoChode ได้โพสต์ข้อความ พร้อมแบนเนอร์เผยแพร่ เกี่ยวกับความประพฤติของผู้คนในแวดวงตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งได้พูดถึงสื่อมวลชน ด้วยคำพูดพาดพิงที่บางคำหยาบคาย ก้าวร้าว ทั้งยังกล่าวหาด้วย
ขณะที่ ข่าวโฉด ได้โพสต์ข้อความถึง ตำรวจนายนั้น ที่พาดพิงสื่อมวลชน ว่า
#ฝากถึงคุณสนธิญาณ
มีตำรวจกะโปกคนนึงอยากรู้จักฮะ
นักธุรกิจสื่อการเปลี่ยนช่องหาแนวทางตนเองเป็นเรื่องปกติ
แต่คนที่ไม่ปกติก็คือมันนั่นแหละ
มันเพิ่งรู้ประวัติว่าเขาเปลี่ยนช่อง
#มึงไปอยู่ไหนมา
ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ซึ่งรายงานสถานการณ์ข่าวจากสำนักข่าวเดอะทรูธ และสถาบันทิศทางไทย รวมทั้งความเคลื่อนไหวของนายสนธิญาณ ได้โพสต์ข้อความพร้อมแบนเนอร์ระบุถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเพียงสั้นๆด้วยว่า
มาเจอกันหน่อยสิ
#สนธิญาณชื่นฤทัยในธรรม
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้คือเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2564 จากกรณีที่เบนจา หนึ่งในแกนนำม็อบสามกีบ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ ขู่บุกสำนักงานท็อปนิวส์
โดยบัญชี้ผู้ใช้ทวิตเตอร์ benja – สหายเบนจา #ยกเลิก112 ได้ทวิตข้อความระบุว่า
“สำนักงานท็อปนิส์อยู่ไหนนะ”
ต่อมาทางเพจเฟซบุ๊ก สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวระบุว่า
“#สนธิญาณว่าไว้
“มาสิจะได้รู้จัก”
#สนธิญาณชื่นฤทัยในธรรม”
นอกจากนี้นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ภายหลังจากที่มีผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สัมภาษณ์ เพื่อสอบถามถึงการที่แกนนำม็อบคณะราษฏรโพสต์จะข้อความถึงท็อปนิวส์ จากนั้นก็มีข้อความจากเพจของสนธิญาณ โดยนายสนธิญาณ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า
“การที่อยากให้แกนนำคือ เบญจา มาที่ท็อปนิวส์ เพื่อจะได้มาพบเจอพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนข้อมูล เพราะเชื่อว่าข้อมูลที่ฝ่ายม็อบหรือแกนนำรับมาอยู่นั้นบิดเบือนข้อเท็จจริงหลายเรื่อง จึงอยากให้มาฟังความจริงที่ท็อปนิวส์ ถึงสังคม ประเทศไทย รวมทั้งสถานการณ์โลกที่เป็นอยู่ซึ่งมีข้อมูลความจริงที่แกนนำม็อบพึงรับรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สังคมไทยในด้านต่างๆ ที่แกนนำม็อบรับรู้ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่จะได้รับทราบถึงความจริง”