Thanong Fanclub เปิดเบื้องหลัง ทีมสั่งเชือด “แจ๊ค หม่า” แค่ตักเตือน แต่สะเทือนทั้งอาณาจักร

5417

เชือดไก่ให้ลิงดู!! Thanong Fanclub เปิดเบื้องหลัง ทีมสั่งเชือด “แจ๊ค หม่า” แค่ตักเตือน แต่สะเทือนทั้งอาณาจักร!?

จากกรณีเมื่อช่วงเดือน ต.ค.63 ที่ผ่านมา ทางด้านของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้มีรายงานว่า รัฐบาลจีน ได้เจาะจงเล่นงานบริษัทเทคโนโลยียักษ์ “อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์” และ “แอนต์ กรุ๊ป โค” ซึ่งเป็นบริษัทที่ทางด้านของ “แจ๊ค หม่า” เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง

โดยทางด้านของ “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน สั่งระงับการขายหุ้นไอพีโอกระทันหัน ของ บริษัท แอนต์ กรุ๊ป พร้อมทั้งได้ตีความ “อาลีบาบา” ว่า มีการผูกขาด บีบบังคับคู่ค้ารายย่อยต้องขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม

ซึ่งในขณะนั้นได้มีการพูดถึงในประเด็นดังกล่าวเป็นอย่างมาก และมองว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีน เจาะจงบีบ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่นี้ เป้าหมายก็คือ โจมตี “แจ๊ค หม่า” เนื่องจากได้ติติง การทำงานของรัฐบาลจีน เรื่องระบบสถาบันการเงินของประเทศ แต่ก็เป็นเพียงแค่การคาดเดา เพราะหลังจากที่รัฐบาลจีนสั่งลงดาบครั้งนี้ แจ๊ค หม่า ก็เงียบหายไป ไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวในทุกทาง ทำให้หลายๆคนเกิดความสงสัยแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบที่เด่นชัดแต่อย่างใด เพราะสื่อทั้งโลกเงียบมากกับประเด็นดังกล่าว

ล่าสุดในวันที่ 11 เม.ย.64 ที่ผ่านมา ทางด้านเพจสาธารณะชื่อ Thanong Fanclub ก็ทำเขียนบทวิเคราะห์เรื่องดังกล่าว ที่เรียกได้ว่าค่อนข้างละเอียดเป็นอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เพราะนี่ไม่ใช่การต่อสู้เพียงแค่ระบบการเมือง แต่เป็นเพราะการ ละเมิดระบบโครงสร้างภายในประเทศอย่างรุนแรง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

แจ็คผู้ถูกยักษ์ฆ่า

หลังจากเงื้อดาบมาสักพักใหญ่ ในที่สุดท่านเปา บุ้นจิ้นแห่งศาลไคฟงตัดสินประหารชีวิตแจ็ค หม่าทางการเมือง ข้อหากบฎต่อแผ่นดิน แม้ว่าดูเผินๆแล้ว ท่าเปาจะสั่งปรับบริษัทอาลีบาบาเป็นเงิน18,200ล้านหยวน หรือ$2,800ล้าน ซึ่งสื่อรายงานว่าจิ๊บจ้อยมาก เพราะว่าอาลีบาบามีเงินสด$48,000ในงบดุล และมีกำไรสุทธิ$24,000ล้านในปีที่ผ่านมา แต่การลงโทษอาลีบาบาเป็นการลงดาบแจ็คทางอ้อมที่ต่อไปอาจจะถูกยึดทรัพย์ก็ได้

เมื่อเปรียบเทียบกรณีของแจ็ค หม่า แห่งอาลีบาบากับมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์กแห่งเฟสบุ๊ค เราได้เห็นโครงสร้างของประเทศจีนและประเทศสหรัฐอย่างชัดเจน

ใครเป็นเจ้าของประเทศจีน? คำตอบคือพรรคคอมมิวนิสต์ และรัฐบาลจีนภายใต้การบริหารของสี จิ้นผิง ไม่มีใครอยู่เหนือได้ โดยมีหน้าที่ดูแลประชาชน1,400ล้านคนให้กินดีอยู่ดี และดูแลเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งป้องกันประเทศจากภัยของการล่าอาณานิคมยุคใหม่ของมหาอำนาจตะวันตก

ใครเป็นเจ้าของประเทศสหรัฐ? คำตอบถือกลุ่มทุนนิยมวอลล์สตรีทและThe Corporationที่เชื่อมโยงกับซิตี้ ออฟ ลอนดอน ไม่ใช่รัฐบาลกลางสหรัฐ หรือคนอเมริกันดังที่เราเข้าใจกันผิดๆมาตลอด มันเป็นเรื่องตลกมากที่ชาวเม็กซิกัน หรือคนชาวอเมริกากลางอพยพข้ามพรมแดนเท็กซัสเข้ามาอยู่อย่างผิดกฎหมายนับหมื่นนับแสนคนภายใต้การเปิดไฟเขียวของรัฐบาลไบเดนในเวลานี้ วันดีคืนดีได้ใบเขียว แล้วอยู่ดีๆบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของประเทศสหรัฐที่มีการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี1776 โดยผู้นำอเมริกันสายอังกฤษได้อย่างไร

แนวความคิดที่ว่า ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศใช้ได้ทุกเมื่อ เพื่อเอาไว้หลอกเด็กให้ออกมาชุมนุมประท้วงด่าทอผู้ใหญ่ของประเทศโดยไม่สำนึกบุญคุณแผ่นดินแล้วให้ติดคุกหัวโตกันระนาว

มาเริ่มที่เรื่องของแจ็คก่อน ข้อที่สำคัญว่าพรรคคอมมิวนิสต์เป็นเจ้าของและเป็นผู้ดูแลประเทศจีนที่อยู่ด้วยกันอย่างเกื้อกูลกันกับประชาชนคนจีน1,400ล้านนี้ แจ็คอาจจะไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะว่าอยู่ข้างในต้องเห็นจุดอ่อนจุดบอดของระบบเป็นธรรมดา เลยกลับหลงตัวเองคิดว่าใหญ่ และแน่กว่าผู้นำของจีน เพราะว่าเขาสามารถสร้างฐานธุรกิจอีคอมเมิร์สของอาลีบาบาจนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก สามารถจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐได้ ทำให้แจ็คกลายเป็นมหาเศรษฐีรวยล้นฟ้าด้วยความมั่งคั่ง$47.3ล้านจากการถือครองหุ้นของอาลีบาบา ที่สำคัญแจ็คเดินทางไปเวทีโลกที่ไหน ใครๆก็ปูพรมแดงต้อนรับ พร้อมสรรเสริญเยินยอว่า แจ็คเป็นอัศวินคลื่นลูกใหม่แห่งโลกดิจิตัล

ความจริง ใครสร้างใครกันแน่? แจ็คสร้างอาลบาบา หรือพรรคคอมมิวนิสต์จีนสร้างแจ็คเพื่อให้สร้างอาลีบาบาอีกต่อหนึ่ง? อาลีบาบาไม่สามารถเติบโตเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับท้องถิ่นจนพัฒนามาเป็นระดับประเทศและระดับโลกได้ถ้าหากปราศจากโครงสร้างพื้นฐานกฎเกณฑ์ที่วางเอาไว้เพื่อให้อาลีบาบาเจริญเติบโต เพราะอาลีบาบาเป็นการทดลอง(experiment) ของรัฐบาลจีนเพื่อพัฒนานวัตกรรมด้านอีคอมเมิร์ส และเทคโนโลยี รวมท้ังการให้อาลีบาบาไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐเพื่อเรียนรู้ระบบทุนนิยมโลก หรือกลไกของการเทรดกระดาษ เสกกระดาษเป็นทองว่ามีขบวนการหรือแนวทางอย่างไร เพื่อว่าจะได้รู้ทันโลกตะวันตก และเอากลับมาปรับใช้กับระบบของจีน

เพราะฉะนั้น แจ็คเป็นจิ๊กซอตัวหนึ่งที่รัฐบาลจีนใช้เพื่อทดลองแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยี ระบบตลาด ระบบการเงินและเศรษฐกิจ รวมไปถึงระบบทุนนิยมการเงินโลก

แจ็คคงไม่เข้าใจบริบทนี้ เพราะว่าคนส่วนมากมักจะลืมกำพืดของตัวเอง เมื่อได้ดี หรือเมื่อประสบความเสร็จ ร่ำรวยขึ้นมา ทำให้หย่ิงผยองลำพองใจ คิดว่าตัวเองเป็นนายของจักรวาล (Master of the Universe)

ความจริง แจ็คในอดีตเป็นเพียงครูสอนภาษาอังกฤษ และเป็นไกด์พานักท่องเที่ยวต่างชาติทัวร์ในประเทศจีนเท่านั้น จับพลัดจับพลแจ็คสร้างบริษัทอาลีบาบาขึ้นมาได้ ก็ต้องยอมรับว่าแจ็คเก่งเกินตัวระดับหนึ่ง แต่อย่างที่บอก อาลีบาบาเติบโตแบบก้าวกระโดดจากโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลวางเอาไว้ อำนวยความสะดวกทุกอย่างเพื่อให้อาลีบาบาหระสบความสำเร็จ

เมื่อความสำเร็จมาถึงระดับโลกาภิวัฒน์ แจ็คจึงหลงระเริงไปกับคำยกยอ จนถึงขนาดที่ว่าแจ็คจะเป็นผู้ฆ่ายักษ์ เพราะว่าไม่ว่าแจ็คไปปรากฎตัวที่เวทีโลกที่ไหน มีแต่ผู้นำโลก ผู้นำธุรกิจระดับโลกมาต้อนรับ ใครๆก็อยากจะค้าสมาคมด้วย สื่อก็ต่อแถวอยากสัมภาษณ์แจ็ค อาศัยภาษาอังกฤษดีหน่อยแจ็คเลยพูดอะไรที่โลกทุนนิยมตะวันตกอยากจะฟัง เลยไปกันใหญ่ เพราะว่าแจ็คถูกยกยอให้มีสถานภาพสูงขึ้นไประดับบิล เกตส์ สตีฟ จ็อบ แจ็ค เบซอส จนขาลอย เดินไม่ติดดิน

แจ็คอาจจะเข้าใจผิดเห็นว่าบิล เกตส์ใหญ่กว่านักการเมืองทั้งหลายที่ประชาชนเลือกมา เพราะว่าเป็นผู้นำความก้าวหน้า และความมั่งคั่งมาให้สังคมที่แท้จริง จึงอยากจะเอาเยี่ยงอย่าง

มาร์ค ซักเกอร์เบิร์กแห่งเฟสบุ๊ค และแจ็ค ดอร์ซี่แห่งทวิทเตอร์ที่สามารถปิดบัญชีของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ โดยที่ทรัมป์พูดไม่ออก แม้ว่าทรัมป์มีอำนาจกดปุ๋มนิวเคลียร์ แต่ไม่มีอำนาจสู้กับเฟสบุ๊ค กูเกิ้ล ยูทูป ทวิทเตอร์ที่แบนบัญชีของทรัมป์แบบสมรู้ร่วมคิด

อันนี้แสดงให้เห็นว่า ระบบของอเมริกันเป็นระบบที่บริษัทThe Corporationเป็นใหญ่ ไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่ประธานาธิบดี ไม่ใช่รัฐบาล และไม่ใช่ประชาชน

Corporate America หรือThe CorporationมีพัฒนาการมาจากBritish East India Corporationที่ราชวงศ์และขุนนางอังกฤษสร้างขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการปล้นทรัพยากร และการล่าอาณานิคมประเทษต่างๆ บริทติส อิสท์อินเดียเข้ามาในสยามในสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่5เพื่อเปิดประตูการค้า เปิดท่าเรือ ขอสิทธิพิเศษทางการค้า ขอลดภาษีศุลกากร อันนำไปสู่การเสียดินแดนของสยามอย่างเจ็บปวดในที่สุด

ที่สำคัญคนอังกฤษไม่ได้ประโยชน์อะไรจากบริทติสท์ อิสท์อินเดียโดยตรง เพราะว่าผู้ว่าผู้ได้ประโยชน์จากการค้าขาย การปล้นทรัพยากรและการล่าอาณานิคม คือ ถือหุ้นเป็นขุนนางและราชวงศ์ แต่บริทติสท์ อิสท์อินเดียที่เป็นCorporationกลับกระทำการในนามของรัฐบาล

โครงสร้างCorporationนี้ใช้กับระบบธนาคารกลางของยุโรปที่เอกชน ส่วนมากจะเป็นทุนยิวผูกขาดที่เข้ามาโมโนโปลี่การพิมพ์เงิน ทำให้สามารถควบคุมระบบการเงินและระบบแบงกิ้งได้ ซิตี้ ออฟ ลอนดอนก็อยู่ภายใต้โครงสร้างCorporationนี้ที่เป็นเจ้าของประเทศอังกฤษที่แท้จริง

อังกฤษพยายามยึดครองอเมริกามาตลอด มีการเอาโครงสร้างCorporationนี้มาสวมเขาสหรัฐอเมริกา จนนำไปสู่การยึดครองระบบธนาคารกลางของสหรัฐผ่านUS Federal Reserve Systemในปี1913 และหลังจากนั้น ธนาคารและบริษัทในครือข่ายวอลล์สตรีทเฟื่องฟู มั่งคั่ง ร่ำรวยมหาศาล The Corporationของอังกฤษพัฒนามาเป็นบริษัทในตลาดหุ้นในกลุ่มFortune 500ในปัจจุบัน ที่รับใช้กลุ่มทุน หรือผู้ถือหุ้น แต่ไม่ได้รับใช้ประชาชน เพราะว่าประชาชนมีหน้าที่ขายแรงงานและจ่ายภาษีอย่างเดียว

ที่มาร์ค ซัคเก้อร์เบิร์ค หรือบิล เกตส์ซ๋าได้ทุกวันนี้ เพราะว่าพวกเขาเป็นตัวแทนของThe Corporationนั้นเอง ที่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญสหรัฐ ทำให้มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่อยู่เหนือทำเนียบขาว สภาคอนเกรซ และศาลสูงสุดโดยปริยาย

ส่วนประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพของคนอเมริกันเป็นนิยายหลอกเด็กก่อนนอน โลกสวย จะได้ไม่นอนฝันร้ายกับความเป็นจริง การที่คนอเมริกันมีมาตรฐานการครองชีพที่สูงกว่าคนทั่วโลกที่ผ่านมา เพราะว่าอเมริกาเป็นExperimentของการทดลองของซิตี้ ออฟ ลอนดอนที่สร้างให้เป็นจักรวรรดินิยม กอบโดยทรัพยกรจากทั่วโลกมาบริโภคอย่างฟุ่มเฟือย ระบบนี้ใหญ่ หรือมีสายป่านยาวพอที่จะให้คนอเมริกันเสวยสุขกันมาก แต่จะยั่งยืนหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ย้อนกลับมากรณีของแจ็คที่บังอาจคิดฆ่ายักษ์ รู้ทั้งรู้ว่ายักษ์ตนนี้ก็คือพญามังกร แจ็คอาจหาญว่าจะเป็นผู้ที่จะดึงดาบExcaliburออกจากหินด้วยพลังมหาศาลเหมือนคิงอาร์เธอร์ เพื่อที่จะตัดหัวพญามังกร แต่พญามังกรก็คือพญามังกร ไม่มีใครทำอะไรได้

“พวกพรรคคอมมิวนิสต์จะไปรู้เรื่องเทคโนโลยี หรือการเงิน หรือโลกดิจิตัลได้อะไรกัน ได้แต่คร่ำครึกับตำราเก่าๆ ทำงานแบบระบบราชกาลที่อืดอาดชักช้าเหมือนสมัยราชวงศ์ชิง ระบบธนาคารของจีนไม่ต่างกับโรงรับจำนำ เอาของไปตึ้งแล้ว แล้วเอาเงินกู้ออกมา ไม่มีระบบทำนสมัยรองรับ ไม่เหมือนกับแอนท์ไฟแนนเซี่ยล (Ant Group)”แจ็คอาจจะคิดในใจคนเดียวอย่างนี้

เมื่อคิดเช่นนี้ ทางรัฐบาลจีนคงจะไม่เลี้ยงต่อไป แจ็คอาจจะรู้ตัวก่อนหน้านี้แล้ว จึงลาออกจากการเป็นผู้บริหารของอาลีบาบา ขออยู่ในบอร์ดเป็นที่ปรึกษา และขออุทิศเวลาด้านการศึกษาด้านเทคโนโลยี ฟางเส้นสุดท้ายน้าจะเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วที่แจ็ควิจารณ์การบริหารระบบการเงินของจีนอย่างรุนแรง โดยเปรียบเทียบกับบริษัทมด (Ant Group)ของอาลีบาบา เจ้าของแอปอาลีเพย์ที่มีผู้ใช้เกือบ1,300ล้านคนท่ัวโลก

ปลายปีที่แล้ว รัฐบาลจีนสั่งแตะเบรคการทำไอพีโอ$37,000ของบริษัทแอ่นแอ้นของอาลีบาบาที่ใหญ่ที่สุดของโลก และสั่งสอบการทำธุรกิจแบบผูดขาด กำจัดคู่แข่งของอาลีบาบา รวมท้ังให้บริษัทแอ่นแอ้นปรับโครงสร้างเป็นโฮลดิ้งคัมปานี เพราะว่ามีการปล่อยกู้ด้วยปริมาณมหาศาลผ่านแอปอาลีเพย์ จำเป็นต้องมีเงินทุนสำรองมากเหมือนแบงก์ที่ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เรื่องฐานะทุนสำรอง เพื่อดูแลหนี้เสียที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งอาลีบาบา และบริษัทแอ่นแอ้นออกแถลงการณ์แบบเจียมเนื้อเจียมตัวหรือหงอสุดๆว่าการที่ทางรัฐบาลมีคำสั่งลงมาให้ปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงาน และโครงสร้าง พวกเราน้อมรับไปปรับปรุงและแก้ไข และปฏิบัติตามตามอย่างเคร่งครัด และทันท่วงที

นิทานแจ็คผู้ถูกยักษ์ฆ่าก็มีเท่านี้ ท่านเปาลงดาบแจ็คเหมือนเชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อว่ามหาเศรษฐีจีนคนอื่นจะได้ไม่เอาเยี่ยงอย่าง เหมือนแจ็คที่ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของและผู้ดูแลประเทศ ที่โครงสร้างไม่เหมือนโลกตะวันตกที่The Central Banks, The Big Banks & The Corporationเป็นเจ้าของและผู้ดูแล

ส่วนประเทศไทยมีพระเจ้าแผ่นดินเป็นเจ้าของและผู้ดูแล เกื้อกูลกับประชาชนที่เปรียบเหมือนลูก หรือสมาชิกของครอบครัวในระบบพ่อปกครองลูก แต่โครงสร้างนี้ถูกบิดเบือนจากการยึดอำนาจของกษัตริย์ในปีพศ 2475 โดนอำนาจของทหาร นักการเมือง ข้าราชการ กลุ่มทุนไทย&ทุนนอกคนไทยในสังคม โดยอ้างว่ากระทำการในนามของประชาชน ทั้งๆที่ต่างก็รับใช้The Corporationกันทั้งนั้น ไม่ได้รับใช้ประชาชน
11/4/2020

ขอขอบคุณ สำหรับข้อมูลความรู้ จากเพจ Thanong Fanclub เป็นอย่างสูง