การเผชิญหน้าของมหาอำนาจสหรัฐฯและจีนใกล้ระเบิดอีกครั้งในวันนี้ (8 เม.ย.2564) เมื่อกองทัพเรือของจีนแถลงว่าได้ติดตามเรือรบของสหรัฐฯ ที่แล่นผ่านช่องแคบไต้หวันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้สหรัฐฯยังได้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน ธีโอดอร์ รูสเวลต์ กลับมายังทะเลจีนใต้ เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ หลังจากกองทัพเรือจีนส่งเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิง ซ้อมรบข่มขวัญไต้หวัน ขณะที่ทางการไต้หวันระบุว่าเครื่องบินทหารของจีน 15 ลำรวมทั้งเครื่องบินขับไล่อีกหลายสิบลำได้ข้ามเข้าไปในเขตป้องกันตนเองของไต้หวันด้วย
เมื่อวันพุธที่ 7 เม.ย.2564 ที่ผ่านมา ทหารจีนยืนยันว่าได้ติดตามเรือรบของสหรัฐฯขณะแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่สหรัฐฯอธิบายว่าเป็นการใช้เสรีภาพในการเดินเรือตามปกติและปักกิ่งประณามว่าทำให้ภูมิภาคนี้ไม่มั่นคง
พันเอกจางชุนฮุยโฆษกกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) หน่วยบัญชาการตะวันออก กล่าวในแถลงการณ์ว่า “จีนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับเรื่องนี้” “การที่สหรัฐฯจะส่งเรือรบแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันและการโฆษณาต่อสาธารณะถือเป็นกลอุบายเก่า ๆ ในการ จัดการสถานการณ์ข้ามช่องแคบ”
กองทัพจีนระบุในแถลงการณ์ว่า เรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิงของจีน พร้อมกองเรือรบคุ้มกัน ได้แล่นไปรอบๆ เกาะไต้หวัน ซึ่ง “เป็นการฝึกซ้อมตามกิจวัตรตามแผนงานประจำปี เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการฝึกของกองกำลังทหาร และเพิ่มขีดความสามารถในการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และการพัฒนาผลประโยชน์แห่งชาติของจีน”
ขณะที่กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า มีเครื่องบินรบของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนอย่างน้อย 10 ลำ ซึ่งแบ่งเป็นเครื่องบินขับไล่แบบ J-16 และ J-10 จำนวน 4 ลำ, เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำแบบ Y-8 จำนวน 1 ลำ และเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศล่วงหน้าแบบ KJ-500 อีก 1 ลำ ที่บินเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวัน
สำหรับเขต ADIZ นั้น องค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ กำหนดไว้ว่าเป็นเขตน่านฟ้าเหนือบกหรือทะเลที่กำหนดให้ประเทศอื่นระบุตำแหน่งหรือแสดงตน และอยู่ภายใต้การควบคุมการจราจรทางอากาศเพื่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติ
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไต้หวันตึงเครียดขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลังสหรัฐฯ ไฟเขียวขายอาวุธยุทโธปกรณ์ล็อตใหม่ให้ไต้หวัน ขณะที่คณะบริหารของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ย้ำจุดยืนของวอชิงตันในการสนับสนุนไต้หวัน ขณะที่จีนมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และสหรัฐฯ พยายามแทรกแซงกิจการภายในประเทศ
ด้าน สือ หง บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร Shipborne Weapons ของจีน มองว่า การซ้อมรบของจีนเมื่อวันจันทร์เป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารในการปิดล้อมไต้หวัน และเป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงสหรัฐฯ และญี่ปุ่นด้วย เพราะการแทรกแซงใดๆ จากกองทัพสหรัฐฯ และญี่ปุ่น น่าจะมาจากฝั่งตะวันออก ดังนั้นจีนจึงนำกองเรือบรรทุกเครื่องบินไปซ้อมรบที่นั่น เพื่อแสดงให้เห็นว่าจีนสามารถตัดความช่วยเหลือเหล่านั้นได้
ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและไต้หวันสหรัฐส่งเรือพิฆาต USS John S. McCain ผ่านช่องแคบไต้หวันในวันนี้
แถลงการณ์ของกองทัพเรือสหรัฐระบุว่า “เรือ USS John S. McCain ได้แล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเพื่อเป็นการแสดงถึงพันธกรณีของสหรัฐที่มีต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่มีเสรีและเปิดกว้าง โดยกองทัพสหรัฐจะยังคงส่งเครื่องบินและเรือรบไปยังทุกที่ซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศให้การอนุญาต” ทั้งนี้ เรือพิฆาต USS John S. McCain เป็นเรือรบสหรัฐที่มีการติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี
นายหลี่ ชุง เหว่ย รัฐมนตรีไต้หวัน และเป็นประธานสภากิจการมหาสมุทร ซึ่งดูแลชายฝั่งของไต้หวันกล่าวว่า โดรนของจีน ได้บินวนเวียนรอบหมู่เกาะ ปราตาสของไต้หวัน ซึ่งไต้หวันจะยิงโดรนดังกล่าวหากมีการรุกล้ำดินแดน
“โดรนเหล่านี้ยังไม่เคยรุกล้ำน่านฟ้าและน่านน้ำของเรา พวกมันเพียงแต่บินรอบๆหมู่เกาะ แต่ถ้ามีการรุกล้ำ และเราจำเป็นต้องยิง เราก็จะยิง” นายหลี่กล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวในรัฐสภาไต้หวันวันนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวัน โดยไต้หวันอ้างกรรมสิทธิเหนือหมู่เกาะปราตาส ซึ่งอยู่ในทะเลจีนใต้
ที่ผ่านมา จีนไม่เคยยอมรับข้ออ้างเกี่ยวกับอธิปไตยของไต้หวันเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ แต่เรือและเครื่องบินของจีนก็มักอยู่นอกเขตหวงห้ามของไต้หวัน ซึ่งมีอาณาเขต 6 กิโลเมตรจากชายฝั่งมาโดยตลอด จนกระทั่งไต้หวันแสดงท่าทีอย่างเปิดเผยในความต้องการแยกตัวจากจีนโดยมีสหรัฐหนุนหลัง
สถานการณ์เหล่านี้ทำให้ บรรยากาศในทะเลจีนใต้คุกรุ่นและเปราะบางกับการ กระทบกระทั่งทางทหารอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากอีกครั้ง