ด้วยกระแสตอบรับจากประชาชนต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล กระทรวงการคลังยืนยันว่า มาตรการคนละครึ่ง’ เฟส 3 มาแน่สำหรับมาตรการเราชนะมีจุดเด่นที่มีเสียงเรียกร้องให้ทำต่อเช่นกัน แต่ขอเวลาแก้ปัญหาทุจริตร้านค้าร่วมมาตรการก่อน พร้อมประเมินผลภาพรวมของทุกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งโครงการเราชนะ – คนละครึ่งเฟส 2 – เราเที่ยวด้วยกัน ต่อระบบเศรษฐกิจไตรมาสสอง แต่ที่แน่นอนหล้งจบมาตรการเราชนะ เดือนพฤษภาคม จะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องเดือนมิถุนายนนี้แน่นอน
วันที่ 5 เม.ย.2564 น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ณ วันที่ 5 เม.ย.64 มีผู้ใช้สิทธิ “เราชนะ” รวม 32.5 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 190,488 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านร้านธงฟ้า ราคาประหยัด ที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่เข้าร่วมโครงการเราชนะ รวมถึงร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 1.3 ล้านกิจการ สำหรับประชาชนที่ใช้สิทธิ ได้แก่
1.ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.7 ล้านคน ใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.64 รวม 71,691 ล้านบาท
2.กลุ่มที่อยู่ในฐานข้อมูลแอปฯ “เป๋าตัง” ทั้งจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com 16.8 ล้านคน ซึ่งใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.64 รวม 107,178 ล้านบาท
3.กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว 2 ล้านคน มียอดใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.64 รวม 11,619 ล้านบาท
ขณะเดียวกันภาพรวมของมาตรการคนละครึ่งที่ผ่านมานั้น นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้สรุปข้อมูลโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ที่สิ้นสุดแล้วเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2564 มียอดการใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจตลอดโครงการ 102,065 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 52,251 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 49,814 ล้านบาท
โดยที่ผ่านมามีผู้ใช้สิทธิทั้งสิ้น 14,793,502 คน จากเป้าหมาย 15 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้มีการใช้จ่ายตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป จำนวน 13,653,565 คน หรือคิดเป็น 92% ของผู้ใช้สิทธิทั้งหมด และมีการใช้จ่ายครบวงเงินโครงการ 3,500 บาท จำนวน 7,819,925 คน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า
“วิธีการใช้เงินในโครงการคนละครึ่งและเราชนะ มีความแตกต่างกัน โดยกรณี โครงการเราชนะ รัฐบาลจะโอนเงินให้สัปดาห์ละ 1,000 บาท ซึ่งส่วนมากประชาชนจะใช้กับร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าโชว์ห่วย แต่ถ้าเป็นคนละครึ่ง ประชาชนจะใช้จ่ายร้านค้าที่ขายอาหารและเครื่องดื่มเป็นหลัก เพราะส่วนมากมักจะไปกันเป็นกลุ่มก็จะสามารถแชร์กันได้ ”
“สำหรับวงเงินที่จะนำมาใช้ในดำเนินโครงการ คนละครึ่ง เฟส 3 นั้นยังมีงบประมาณเหลืออยู่เพียงพอที่จะใช้ดำเนินโครงการได้ โดยกระทรวงการคลังจะโยกงบมาจากพระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งเหลือประมาณ 200,000 ล้านบาท มาใส่ในแผนเยียวยาผลกระทบโควิด-19 เพื่อดำเนินการในโครงการนี้ในช่วงไตรมาส 3 อย่างแน่นอน”
ทั้งสองมาตรการได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี แม้ว่ายังมีตัวเลขความทับซ้อนของผู้ใช้มาตรการทั้งสอง ซึ่งแตกต่างกันในหลักการโดย คนละครึ่งเป็นแบบรัฐช่วยจ่าย Co-payment ขณะที่ เราชนะ รัฐจ่ายให้เต็ม ซึ่งหลังจากสิ้นสุดระยะเวลามาตรการ เราชนะ ในเดือนพฤษภาคม 2564 ทางรัฐบาลเตรียมพิจารณาเปิดเฟสใหม่ของ คนละครึ่งแน่นอน มาตรการคนละครึ่ง เฟส 3 นี้อาจเพิ่มสิทธิการใช้จ่ายเพิ่มเติมไปถึงซื้อบริการได้ด้วย เช่น ใช้จ่ายค่าขนส่งสาธารณะ และขยายฐานผู้ใช้ให้มากขึ้น สำหรับ มาตรการเราชนะที่ได้รับการตอบรับอย่างมาก เพราะประชาชนสะดวก จะได้พิจารณาตัดสินใจประกอบสรุปบทเรียนอีกครั้ง
แต่ที่แน่นอน ก่อนเดือนมิถุนายน จะได้คำตอบก่อนประกาศใช้แน่!
