วงในแอบเม้าท์!! งัดหลักฐาน ฟาดข่าวลือ “รมต.” ติดโควิด ไม่กักตัว “บิ๊กตู่” ฉุนจัดจ่อฟัน “ผับทองหล่อ” ต้นตอคลัสเตอร์ใหม่

1904

หลังจากที่มีข่าวแพร่สะพัด ว่ามีบุคคลระดับ รัฐมนตรีเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อ เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 64 ซึ่งเป็นวันเดียวกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 และต่อมายังเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 30 มี.ค. ตามปกติ และยังลงพื้นที่ตรวจราชการต่างจังหวัดด้วย รวมทั้งพบนักข่าวทำเนียบ แล้วไม่ยอมสวมแมส

ต่อมามีการฟันธงว่า รัฐมนตรีสองคนที่ต้องสงสัย คนแรกระบุว่าเป็น “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน โดยเห็นว่าเป็น รมต.ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

ส่วนอีกคนเป็น รมว.คมนาคม “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”โดยข่าวลือบอกว่าเป็นรัฐมนตรีคนหนุ่มที่ชื่นชอบครื้นเครงหลังเลิกงาน ถอดหมวก รมต.ออก สวมหมวกเลขาธิการพรรค ก็มักชักชวนกลุ่ม ส.ส.ในพรรคไปกระชับมิตรตามแหล่งบันเทิงอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเลานจ์ดังย่านทองหล่อ

ต่อมาทางด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้เปิดเผยถึงกรณีของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ติดเชื้อโควิด-19 จากสถานบันเทิงย่านทองหล่อ หลังร่วมงานเลี้ยงกับคณะทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยว่า ทราบข่าวเรื่องนี้จากสื่อออนไลน์ ซึ่งขอแจ้งว่าขณะนี้สถานทูตประเทศญี่ปุ่นออกมายืนยันว่า ท่านทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยที่ติดโควิด-19 อยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง อาการทรงตัวค่อนข้างดี ไม่มีอาการปอดบวม แต่ก็ต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนโรคและซักถามผู้เกี่ยวข้องยืนยันว่าไม่มีรัฐมนตรีคนไหน รวมถึงนายสุพัฒนพงษ์ ไปเที่ยวสถานบันเทิงทองหล่อกับคณะของท่านทูตแต่อย่างใด

และทางด้านนายสุพัฒนพงษ์ ได้โพสต์ภาพผลการตรวจ และระบุว่า “ไม่มีใครติดเชื้อโควิด-19” พร้อมขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง ขณะนี้อยู่ระหว่างลงพื้นที่ จ.บึงกาฬ และ จ.อุดรธานี แต่เพื่อความสบายใจจะไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลอุดรธานี พร้อม ๆ กับบอกเหตุผล สาเหตุที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เพราะแพทย์ให้ดูเรื่องของโรคหัวใจที่อาจจะมีผลได้

ขณะที่เรื่องนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า “จะให้ทำอย่างไร ซึ่งข้อเท็จจริง ผมไม่ได้ไปกับเขา และกำลังเรียกมาตรวจสอบอยู่ และยืนยันว่าไม่มีจะให้ ผมฟังใคร ฟังข่าวลือ หรือข้อเท็จจริง ซึ่งทุกคนก็ต้องระมัดระวังที่สุด ถ้าเขาเป็นโควิดก็ต้องรักษากันไป ถ้ามองเหมือนคนทั่ว ๆไปแต่ส่วนตัวเขาต้องระมัดระวังมากขึ้นถ้าเขาทำจริงนะ ผมก็ได้แค่เตือนไปแบบนั้น”

ส่วนจะมีการพิจารณาให้ปิดสถานบันเทิงหรือผับดังกล่าวหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่ากำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ โดยไม่ได้ตอบคำถามว่าจะต้องกำชับให้ครม.ระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม จากเคสคลัสเตอร์ใหม่จาก “ผับทองหล่อ” ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า สถานบันเทิงมีความเสี่ยง พอรัฐสั่งปิดก็ว่า พอให้เปิดก็ควบคุมความปลอดภัยไม่ได้ แบบนี้จะยิ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะสถานการณ์โควิดในไทยแม้จะดีกว่าประเทศอื่น แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะเรามีบทเรียนแล้วว่าการติดเชื้อในวงกว้าง ก่อให้เกิดความเสียหายมากมายขนาดไหน