Truthforyou

กระเช้าต้องเข้าแล้ว? “สาวปากดี” ด่านายกฯเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ย่องหา จนท.น้ำตานองหน้า ยกมือไหว้กราบขอโทษ โชคดี “บิ๊กตู่” ให้อภัย!!

จากกรณีที่นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง และเพื่อน ได้รับมอบอำนาจจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินคดีแด่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ผ่านโซเชียลเน็คเวิร์คนั้น

โดยเมื่อวันที่ 4 เม.ย. น.ส.โชติกา ชนิดาประดับ ผู้ต้องหาข้อกล่าวหา ดูหมิ่นโดยการโฆษณา ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ภายหลังได้ถูกแจ้งดำเนินคดีจากโพสต์ข้อความลงในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ โชติกา ชนิดาประดับ ซึ่งเป็นเพจเฟซบุ๊กสาธารณะ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ได้โพสต์ด่าทอนายกฯ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2563 ด้วยข้อความว่า “ประยุทธ์ก็แค่เป็นสัตว์เลื้อยคลานตัวนึง”

ทั้งนี้รายงานประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ข้อความดังกล่าวเป็นการนำไปเปรียบเทียบกับสัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งเป็นสัตว์ที่บุคคลทั่วไปมองว่าเป็นชั้นต่ำ มีพฤติกรรมต่ำ เลวทราม เป็นคนไม่ดี ทำให้ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม น.ส.โชติกา ได้ให้การรับสารภาพ และได้กล่าวขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้กระทำล่วงเกิน พร้อมยืนยันจะไม่กระทำการดูหมิ่นเช่นนี้อีก และน.ส.โชติกา ดีใจที่พล.อ.ประยุทธ์ ให้อภัย

“หนูขอโทษท่านนายกฯ ที่เคยว่ากล่าวว่าร้ายไม่ดีต่อท่านนายกฯในเฟซบุ๊ก ตอนนี้หนูสำนึกผิดแล้ว หนูขอความเมตตาท่านนายกฯด้วย ต่อไปหนูจะไม่ทำแบบนี้อีก” น.ส.โชติกา กล่าวในระหว่างบันทึกคลิปเพื่อเป็นหลักฐานในการสำนึกผิด

 

ขณะที่ทางด้านพ.ต.ท.อิทธิธร ดอนนันชัย รอง ผกก. สอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้ทำการสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่า น.ส.โชติกา ได้กระทำความผิดจริง และให้การรับสารภาพ ซึ่งได้ทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท และน.ส.โชติกา ได้ชำระค่าปรับแล้ว คดีอาญาเป็นอันยุติ

ส่วนทางด้านนายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คดีนี้พล.อ.ประยุทธ์ ให้อภัย น.ส.โชติกา เพราะเห็นว่ายอมรับผิด และได้ขออภัยแล้ว แต่หลังจากนี้หากมีการกระทำผิดอีก นายกฯจะดำเนินการคดีให้ถึงที่สุดทุกราย เพราะถือว่ามีตัวอย่างให้เห็นแล้ว หากเกิดการกระทำความผิดอีก ถือว่ามีเจตนากระทำผิด ซึ่งต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมาย

“หลังจากนี้นายกฯจะไม่ยอมความใครทั้งสิ้น หากใครทำผิดก็ต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล เพราะถือว่าเป็นการกระทำผิดทางอาญา ต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช่เปรียบเทียบปรับ 2,000 บาทเหมือนในกรณีนี้”

 

Exit mobile version