“น้องลูกเม่น” สาวเภทสอง ในวันสละสิทธิ์ผ่อนผันทหาร ขอกองทัพโอกาสรับใช้ชาติ ขณะอดีตอนค.-ก้าวไกล ดันทุรังยกเลิกเกณฑ์ทหาร!!

5024

จากกรณีที่วันที่ 1 เมษายน 2564 กองทัพบกได้เริ่มทำการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (เกณฑ์ทหาร) ประจำปี 2564 เป็นวันแรก

ซึ่งมีน้องลูกเม่น สาวประเภทสอง เรียกร้องกองทัพให้โอกาสรับราชการทหาร หลังจากที่ขอผ่อนผันการคัดเลือกทหารกองเกินเข้าประจำการ มา 3 ปีแล้ว ที่ศูนย์ประสานแผนพัฒนาท้องถิ่นประจำ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นสถานที่ตรวจคัดเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2564 ในหน่วยคัดเลือกของ 6 ตำบล มียอดชายไทยที่อายุถึงเกณฑ์มาร่วมคัดเลือกทหารทั้งสิ้น 284 คน รับจริง 67 คน ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมามีชายไทยที่สมัครใจเข้ารับใช้ชาติไปแล้ว 2 คน

ทั้งนี้ นายณริศรา โอนวัง หรือ น้องลูกเม่น นางงามสาวประเภทสองที่เดินทางมาทำเรื่องสละสิทธิ์ในครั้งนี้ด้วย และสร้างสีสันเรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก โดยน้องลูกเม่นได้เปิดเผยว่า ตนมาขอผ่อนผันการคัดเลือก 3 ปีแล้ว ปีนี้ต้องขอทำเรื่องสละสิทธิ์ เนื่องจากต้องเรียนต่ออยู่ปีที่ 4 วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ คณะครุศาสตร์ และเตรียมไปฝึกสอน ซึ่งในปีนี้ได้ใส่ชุดนักศึกษามาทำการสละสิทธิ์ ไม่เหมือนทุกปีที่ผ่านมา ที่แต่งนุ่งชุดผ้าไทยนุ่งผ้าซิ่น

และได้กล่าวต่อไปว่า อยากให้ทางกองทัพให้สิทธิสาวประเภทสองได้เข้าไปรับราชการเป็นทหารบ้าง เนื่องจากสิทธิเท่าเทียมกัน อีกทั้งในกองทัพก็มีทหารหญิงอยู่ด้วย ซึ่งหากเป็นไปได้อยากให้เปิดโอกาสกับสาวประเภทสอง โดยถ้ากองทัพเปิดรับ เราก็จะขอสมัครเป็นทหารทันที”

ย้อนไปเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 น้องลูกเม่น ได้มาขอผ่อนผัน โดยบอกว่า ปีนี้ได้เตรียมใบรับรองแพทย์เพื่อมายืนยันตน และขอผ่อนผันการคัดเลือกทหารกองเกินเข้าประจำการ ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่มาขอผ่อนผัน เนื่องจากตนยังเรียนหนังสืออยู่ คาดว่าปีนี้จะมาทำการคัดเลือกซึ่งเชื่อว่าเป็นบุคคลเป็นประเภท 4 คงได้รับการยกเว้น

ย้อนไปเมื่อยังมีพรรคอนาคตใหม่ ก็ได้เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.รับราชการทหาร มีหลักการเพื่อยกเลิกการเกณฑ์ทหารที่ทำมากกว่า 100 ปี และจะให้มีหลักกติกาสากลเหมือนทหารในประเทศพัฒนาแล้ว โดยอ้างว่าเป็นหลักการตามแนวทางของพรรค คือปฏิรูประบบกองทัพ โดยบอกว่า นโยบายการเกณฑ์ทหารของพรรคจะกระทำก็ต่อเมื่อเกิดภัยสงคราม โดยให้อำนาจคณะรัฐมนตรีในการเรียกเกณฑ์ทหารภายใน 1 ปี โดย 3 เดือนแรกจะฝึกขั้นต้น ส่วนอีก 3 เดือนฝึกขั้นสูง ส่วนอีก 6 เดือนสุดท้าย คือรอดูสถานการณ์ และจะลดอายุการเกณฑ์ทหารจาก 21 ปี มาเป็น 18 ปี

ต่อมาเมื่อเปลี่ยนมาเป็นพรรคก้าวไกล ก็ได้ยื่นร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยรับราชการทหาร ซึ่งเป็นร่างที่จะไปแก้ไข พ.ร.บ.​ก่อนหน้านี้ การยกเลิกเกณฑ์ทหารคือก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลง ​เห็น​ว่า​ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ​ดองร่างดังกล่าว ท่านกำลังทำให้ตัวเปื้อนเลือดจากการไม่เซ็นร่างนี้ เข้าสู่การพิจารณา​ของสภา ซึ่งการบังคับเกณฑ์ทหารได้สร้างข้อกังขาต่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าการใช้ไพร่พลอย่างไม่ตรงภารกิจ เช่น ซักผ้า ตัดหญ้า หรือเลี้ยงไก่ ให้ผู้บังคับบัญชา รวมไปถึงการฝึกที่อาจมีลักษณะทารุณกรรมละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

ในขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม ก็ออกมาหนุนการยกเลิกเกณฑ์ทหารโดยให้ 3 เหตุผลว่า
1.การเกณฑ์ทหาร ไม่จำเป็น ย้ำว่าความหมายของการเกณฑ์ทหารไม่จำเป็น ไม่เท่ากับ ทหารไม่จำเป็น การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ก็ไม่เท่ากับการที่ประเทศจะไม่มีกองทัพ ทหารเป็นอาชีพที่มีคุณค่าและสำคัญต่อประเทศ หากทหารได้ทำหน้าที่ของทหารจริง ๆ ไม่จำเป็นต้อง เกณฑ์ หรือบังคับ แต่ให้รับเฉพาะคนที่สมัครใจ

2.ระบบเกณฑ์ทหารปัจจุบัน นำไปสู่ความเหลื่อมล้ำ ความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้นตั้งแต่กระบวนการคัดเลือก เพราะคนที่เกิดในครอบครัวที่พอมีฐานะ สามารถเรียนต่อในระดับ ม.ปลาย เลือกเรียนวิชารักษาดินแดน (รด.) ได้ หรือบางคนที่จับได้ใบดำ ก็อาจไม่ใช่เพราะมีโชคช่วย กลายเป็นว่าคนที่ต้องแบกรับภาระนี้ คือคนที่มีโอกาสทางสังคมน้อย ส่วนคนรวย มีเส้นสาย มีโอกาสรอดมากกว่า ความเหลื่อมล้ำอีกส่วนเกิดขึ้นในค่ายทหาร ซึ่งกลับไปที่เรื่องความก้าวหน้าทางอาชีพ เพราะพลทหารยศล่างสุดต้องใช้เวลานานมากเพื่อจะไต่ลำดับขึ้นไป

3.การเกณฑ์ทหาร ทำให้กองทัพไม่เอาจริงกับเรื่องความรุนแรง และ การละเมิดสิทธิมนุษยชน ในค่าย
ความจริงแล้ว กองทัพต้องเอาจริงเอาจังกับความรุนแรง ไม่ว่าจะต่อทหารที่ถูกเกณฑ์ หรือ ทหารที่สมัครใจเข้าไป

อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งคำถามกับกรณีดังกล่าวว่า เหตุใดพรรคก้าวไกล ถึงอยากให้มีการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ในขณะที่ สาวประเภทสอง กลับอยากสมัครเป็นทหาร และขอโอกาสได้เข้าไปรับราชการเป็นทหาร