จากกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วย แกนนำ นปช. ได้แก่ นพ.เหวง โตจิราการ, นางธิดา ถาวรเศรษฐ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง ร่วมแถลงข่าว วันคืนสู่อิสรภาพของนายณัฐวุฒิ และสิ่งสำคัญที่นายณัฐวุฒิ ได้ย้ำ คือ จุดยืนทางการเมืองนั้นยังเป็นเช่นเดิม คือ อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
“ผมไม่เสียใจ ที่เลือกเส้นทางสายนี้ จนติดคุก 3 ครั้ง มีคดีความ และไม่แน่ใจว่าจะติดคุกอีกหรือไม่ ความเจ็บปวดที่มีผมยอมรับได้ และภาระที่ต้องแบกไม่หวั่นไหว ผมไม่หวาดกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้น กับจุดยืนทางการเมืองที่ประกาศกับประชาชน เป็นแนวทางที่จะทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ทั้งนี้ผมไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายหรือทำลายทรัพย์สินใด ๆ หรือบุคคลที่เห็นต่างกันทางการเมือง”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ที่ประกาศรรวมตัวเคลื่อนไหววันที่ 4 เมษายน 2564 นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้หารือกับนายจตุพร มีโทรศัพท์คุยประสาพี่น้อง
ดังนั้นการเคลื่อนไหววันที่ 4 เมษายน ทราบจากทางสื่อมวลชนเท่านั้น ส่วนตัวมองว่า นายจตุพรและคณะที่เคลื่อนไหว เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ มีศักยภาพ ส่วนการกำหนดแนวทางใดนั้นขอให้ติดตามจากผู้ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังทิ้งท้ายว่า จะยืนข้างม็อบเยาวชน และม็อบ 3 นิ้ว เนื่องจากได้พบเจอกับเหล่าแกนนำในเรือนจำบ้าง เลยได้พูดคุยถึงแนวทางต่าง ๆ แต่จะไม่แตะต้องการล้มล้างสถาบันฯ
ส่วนกรณีที่ไม่ร่วมกับนายจตุพร คือ ผมกับคุณจตุพร เราเป็นพี่น้องกัน ในทางส่วนตัวอย่างไรก็แยกกันไม่ได้ แล้วความปรารถนาดีก็ยังมีให้กันอยู่เสมอ แต่ว่าในแง่ของกระบวนการทางการเมือง ในแง่ของการขับเคลื่อนทางการเมืองในฐานะองค์การนำของ นปช. แบบเดิมนั้น ในข้อเท็จจริงมันไม่ได้ดำรงสภาพอยู่แล้วเกือบ 3 ปี
ดังนั้นข้อความเคลื่อนไหวใด ๆ ต่าง ๆ ที่คุณจตุพรและคณะดำเนินการนั้น ก็เป็นไปอย่างที่ผมได้อธิบายความไปตั้งแต่ตอนต้นว่าเรายังไม่ได้ทราบเรื่อง และคงจะเป็นคนที่ติดตามข่าวสาร ติดตามความเคลื่อนไหวและไม่มีเจตนาจะไปกระทบกระทั่งใด ๆ
แน่นอนว่า ตอนนี้จุดยืนของนายจตุพร และนายณัฐวุฒิ 2 แกนนำนปช. ได้แตกหัก เดินคนละเส้นทางอย่างชัดเจน ซึ่งทางด้านนายจตุพร จะเรียกร้องขับไล่นายกฯ เท่านั้น ไม่แตะต้องการเคลื่อนไหวเรื่องสถาบันฯ ตรงข้ามกับกลุ่ม 3 นิ้ว ที่ต้องการ 3 ข้อเรียกร้อง และมีการยกเลิกม.112 รวมอยู่ด้วย ส่วนทางด้านนายณัฐวุฒิ ประกาศชัดจะยืนข้าง 3 นิ้ว แต่ยังมีจุดยืนบางข้อที่ไม่ตรงกัน ต้องติดตามต่อไปว่า การเคลื่อนไหวของ 2 แกนนำนปช. ที่แตกขั้ว จะเดินไปในทิศทางใด จะดุเดือดแค่ไหน หลังความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน
