จากกรณีที่ เมื่อวานนี้ 28 มีนาคม 64 โจอี้บอย หรือ นายอภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต ศิลปินนักร้องชื่อดัง จัดงาน “รัตนโกเซิร์ฟ” เชิญชวนคนรุ่นใหม่สวมแต่งใส่ชุดไทยไถสเก็ตรอบเกาะรัตนโกสินทร์ มีคนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
โดยต่อมาได้กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล โดยนักเลงคีย์บอร์ดสามกีบได้ถล่มด่าทอต่อว่าถึงการจัดงานดังกล่าว และบางส่วนได้เปรียบเทียบถึงเหตุการณ์การสลายการชุมนุมที่หมู่บ้านทะลุฟ้าในวันเดียวกัน และยังพาดพิงถึงกรณีที่ ส.ส. เดียร์ พรรคพลังประชารัฐร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย โดยต่อมา โจอี้บอยได้โพสต์ขอโทษถึงกรณีดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม น.ส.วทันยา หรือมาดามเดียร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชี้แจงกรณีดังกล่าวเช่นจัง โดยระบุว่า
“ขอชี้แจงการจัดงานรัตนโกเซิร์ฟ ที่เหมือนๆกำลังจะเป็นประเด็นดราม่า ดังนี้นะคะ
1. เรื่องการไม่ใส่แมสก์
ขออธิบายด้วยภาพนะคะ จะเห็นได้ว่าภายในงานก่อนที่จะเริ่มมาที่จุดสตาร์ท ผู้ร่วมกิจกรรมสวมแมสก์ตามปรกติ แต่ภาพที่เราเห็นกัน เป็นการถอดมาเพื่อถ่ายภาพที่ระลึกจังหวะก่อนเริ่มออกตัวจากจุดสตาร์ท และพอออกจากจุดสตาร์ทไปแล้ว การเล่นเซิร์ฟสเกตก็ถือเป็นกีฬาชนิดหนึ่งจึงจำเป็นต้องถอดแมสก์ออกเพื่อระบบการหายใจที่สมบูรณ์ในขณะที่มีอากาศร้อน และการเล่นเซิร์ฟสเกตนั้นในข้อเท็จจริงเราไม่สามารถเล่นในติดกันในระยะประชิดได้อยู่แล้ว เพราะตัวบอร์ดจะไปเกี่ยวกันทำให้เกิดอันตรายได้ ก็ถือเป็นการรักษาระยะห่างไปในตัว อีกทั้งการเล่นเซิร์ฟสเกตนี้เราเล่นอยู่ในสถานที่เปิดที่มีอากาศถ่ายเท ไม่ใช่สถานที่ปิด และเมื่อกลับถึงเส้นชัยทุกคนก็กลับมาใส่แมสก์กันตามปกติค่ะ
2. เรื่องจำนวนคนและความปลอดภัย
งานนี้ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า จริงๆมีคนต้องการเข้าร่วมงานจำนวนมากแต่เราจำกัดคนตามกฎของ ศบค. ในการจัดงานที่ไม่เกิน 300 คน นอกจากนี้ภายในงานเรายังมีการควบคุมความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนไทยชนะ การคัดกรองวัดอุณหภูมิ และมีจุดวางเจลแอลกอฮอล์ตามคำแนะนำของ ศบค. ทุกอย่าง ทั้งนี้เราเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นสิ่งสำคัญ เรามีการจัดเตรียมรถพยาบาล และอาสาจราจรตลอดเส้นทาง เพื่อคอยดูแลความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงาน และผู้ที่สัญจรไปมา จึงจะเห็นได้ว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้จึงผ่านไปด้วยดีไม่มีผู้ได้รับอุบัติเหตุใดๆ
สุดท้ายเดียร์หวังว่า การจัดงานกิจกรรมครั้งนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจของคนส่วนหนึ่งในสังคมที่มีใจรักในกีฬาเซิร์ฟสเก็ต และอยากให้ออกมาทำกิจกรรมให้เป็นตัวอย่างต่อภาคส่วนอื่นๆที่จะออกมาสร้างกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจหรือสังคมภายใต้กฎระเบียบที่รัฐได้กำหนดไว้อย่างถูกต้องต่อไป
กิจกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นจากคนที่รักในการเล่นกีฬา พวกเราทุกคนทักทายพูดคุยกันโดยไม่รู้ว่าใครทำงานอะไร หรือมีตำแหน่งหน้าที่อะไรในสังคม จึงอยากขอพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่ปลอดเรื่องของการเมืองนะคะ”
ล่าสุด วันนี้ที่ 30 มีนาคม 2564 เวลา 08.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสดราม่า น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เล่นสเก็ตในกิจกรรมรัตนโกเซิร์ฟ โดยไม่มีการสวมหน้ากากอนามัยว่า ขนาดตนใส่หน้ากากไว้หลุดขึ้นมายังโดนทัวร์ลงเลย แต่ถ้าโดนสเก็ตลงคงเจ็บกว่า แต่แล้วแต่ความสำนึกรับผิดชอบ
เมื่อถามถึงกรณี 6 ส.ส. กลุ่มดาวฤกษ์ งดออกเสียงให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรค ภท. ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะนี้มีการขอโทษมายัง ภท.แล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่เห็นมีการติดต่อเข้ามา ไม่เป็นไร เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับติดใจหรือไม่ติดใจ กัมมุนา วัตตติ โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันมีหลายกลุ่มตั้งพรรคการเมืองใหม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อะไรที่เป็นทางเลือกย่อมเป็นประโยชน์ต่อประชาชน อย่าไปปิดกั้นทางเลือก มันจะได้แข่งขัน ถ้าไม่มีพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาเลย ภท.อาจคิดว่าสบาย ไม่ต้องทำอะไรเขาก็เลือก แต่พอมีพรรคการเมืองใหม่เยอะๆ ดีแล้ว ทุกคนจะได้คิดว่าทำอย่างไรดี ใครจะไป ใครจะร่วม คนของเราจะย้ายหรือไม่ เราจะต้องขยัน ต้องทำผลงาน คิดนโยบายใหม่ๆ ตนชอบเช่นนี้ ชอบโลกของการแข่งขัน
เมื่อถามว่า มันเป็นสัญญาณว่าจะมีการเลือกตั้งเร็วๆ นี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองพร้อมเลือกตั้งอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนร่วมรัฐบาลด้วย ไม่เคยประมาท ต้องมีความพร้อมตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นตอนนี้ก็ไม่ต้องทำอะไร เช้ามาทำงาน เย็นกลับบ้าน ไม่ต้องห่วงพื้นที่ ใกล้เลือกตั้งค่อยลงพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่ เราลงพื้นที่มาสองปีแล้ว ไม่เคยว่างเว้น แต่ถ้าจะให้ประเมินตนไม่ประเมินอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่บอกตัวเองมีอะไรต้องพร้อม ไม่ตกใจ ทำสิ่งที่เรามั่นใจว่าเป็นนโยบายที่ดีกับประชาชน เพราะถ้าบอกพร้อมจะกลายเป็นท้าทาย บอกไม่พร้อมจะกลายเป็นขี้เกียจ
เมื่อถามว่า เมื่อมีคนใหญ่ๆ มาตั้งพรรคในช่วงนี้ ทำให้ต้องคิดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่สามารถไปบังคับใครให้ทำอะไรได้ ถ้าทุกคนคิดทำอะไรเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง รุ่นใหญ่อาจไม่อยากเป็นลูกน้องคนแล้ว เขาอาจตั้งพรรคของเขาก็เป็นสิ่งที่ดี จะได้ช่วยกันทำงาน แต่ก็ถือว่ายาก เพราะพรรคตนยังทำไพรมารีโหวตไม่ครบเลย
ส่วนที่มีกระแสข่าว ภท.เตรียมรับ ส.ส.จากหลายพรรคเข้ามานั้น ตนยังไม่ได้คิด แต่ ภท.เปิดกว้างสำหรับทุกคนถ้าเข้ามาแล้วตั้งใจทำงานให้บ้านเมือง อย่างไรก็ตาม เราต้องมั่นใจคนที่เรามีอยู่ หรือเกือบได้เป็น ส.ส.ครั้งที่แล้ว เขาจะต้องปรับปรุงตัวเองขึ้นมา เชื่อว่าผลงานและนโยบายที่เรารักษาสัญญากับประชาชนน่าจะทำให้ประชาชนเห็นใจและอาจมาให้โอกาสกับเรา เราต้องเอาคนในบ้านก่อน
เมื่อถามว่า ต้องใช้พลังดูดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “โอ้ย ไม่ไหว ดูดแล้ว โอ้โห ใช้พลังเยอะ” เมื่อถามย้ำว่า ถ้ามี ส.ส.อยากมาอยู่กับ ภท. นายอนุทิน กล่าวว่า “เดี๋ยวดูซิ ต้องแจกบัตรคิวหรือเปล่า แต่ยังไงก็ขออย่าขาดทุนแล้วกัน”