รมว.กลาโหมรัสเซียหารือมิน อ่อง หล่าย!?! ร่วมงานวันกองทัพ ย้ำสัมพันธุ์แน่นแฟ้น ขณะสำนักงานพรรคซูจีเจอระเบิดเพลิง!!

2555

วันนี้เป็นวันสถาปนากองทัพเมียนมา ทางการได้จัดสวนสนามหลังจากที่ปีที่แล้วต้องระงับเพราะโดนโควิด-19 โจมตีอย่างหนัก ขณะที่ปีนี้มีวัคซีนจากจีน-รัสเซียฉีดให้เจ้าหน้าที่และประชาชนบางส่วนไปบ้างแล้ว จึงกล้าจัดงาน ในขณะที่การต่อสู้กับ กลุ่มต่อต้านรัฐบาล ทั้งนักการเมือง ประชาชนผู้ประท้วงตามเมืองใหญ่และกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ดุเดือดตึงเครียดเพิ่มขึ้น ส่งผลมีประชาชนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่า 300 คน ประเมินแล้วทางการทหาร กองทัพพม่ายังไม่ถือว่าเพลี่ยงพล้ำแม้จะถูกโจมตีค่ายจากกองกำลังคะฉิ่นหลายครั้ง แต่การรุกเข้าพื้นที่รัฐฉานและกระเหรี่ยงยังอยู่ในลักษณะพลัดกันแพ้ชนะ วันกองทัพเป็นวันแสดงแสนยานุภาพกองทัพพม่าทั้งสามเหล่าทัพ และเปิดตัวพันธมิตรแน่นแฟ้นอย่างรัสเซีย เป็นการข่มขวัญฝ่ายต่อต้านทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

เมื่อวานนี้ นายอเล็กซานเดอร์ โฟมิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้พบหารือกับพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำกองทัพฯ ในกรุงเนปีดอว์ เมืองหลวงของเมียนมา

ภาพการประชุมที่เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ MRTV เผยให้เห็นว่าทั้งสองคนกำลังตรวจดูโต๊ะที่จัดแสดงโล่ หมวกกันน็อก และระเบิดขวดที่ยังไม่ถูกจุด ที่ถูกระบุว่าเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ชุมนุมประท้วงใช้งาน ซึ่งสิ่งของเหล่านี้ สถานี MRTV ได้อธิบายว่าเป็นอาวุธทำมือที่ถูกยึดไว้ได้ระหว่างเหตุจลาจล

สำนักข่าวทาสส์ (TASS) ของรัสเซียรายงานว่า โฟมินได้กล่าวว่าพม่าเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้และเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของรัสเซียในเอเชีย โดยการเยือนของเจ้าหน้าที่รัสเซียครั้งนี้เกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนงานพิธีสวนสนามครั้งใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองวันกองทัพพม่า ที่ถือเป็นงานอันทรงเกียรติที่สุดของกองทัพ

ในคลิปวิดีโอที่ปรากฏทางสถานีโทรทัศน์ Zvezda TV ของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย โฟมินยังสัมผัสมือ รับเหรียญตราและกระบี่จาก พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ในห้องประชุมที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ทหารในเครื่องแบบ

“ท่านเข้าร่วมในพิธีสวนสนามของเราเมื่อปีที่ผ่านมา พิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 76 ปี วันแห่งชัยชนะของมหาสงครามรักชาติของเรา และการเยือนครั้งนี้เป็นการตอบสนองต่อการเยือนของท่าน” สำนักข่าวทาสส์รายงานอ้างคำกล่าวของโฟมินที่บอกกับผู้นำรัฐบาลทหารพม่า อ้างถึงสงครามโลกครั้งที่สองและการไปเยือนรัสเซียของผู้นำกองทัพเมียนมา

การเยือนครั้งนี้ยังถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของการสนับสนุนของรัสเซียต่อผู้ปกครองชุดใหม่ในพม่า ท่ามกลางความไม่พอใจในหมู่ชาติตะวันตกและความกังวลในประเทศเพื่อนบ้านเอเชีย ที่บางประเทศได้กล่าวประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับพลเรือน และเรียกร้องการฟื้นฟูประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน

ตามการรายงานของ MRTV พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวกับโฟมินว่า เขารู้สึกขอบคุณสำหรับการเดินทางเยือนพม่า ท่ามกลางสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการระบาดของโควิด-19 ที่ยังหนักอยู่

ด้านนายดมิทรี มอสยาคอฟ Dmitry Mosyakov อาจารย์ประจำ Institute of Oriental Studies of the Russian Academy of Sciences แสดงทัศนะว่า การเยือนดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่ารัสเซียต้องการกระชับความร่วมมือกับรัฐบาลเมียนมาอย่างชัดเจน

ความสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่างรัสเซียและพม่าเติบโตขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ ด้วยมอสโกได้ให้การฝึกอบรมและสนับสนุนทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยกับทหารหลายพันนาย รวมถึงขายอาวุธให้แก่กองทัพที่ถูกประเทศตะวันตกหลายประเทศขึ้นบัญชีดำเพราะไม่ปฏิบัติตามวิถีประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนแบบตะวันตก

ในระหว่างการสวนสนามงานวันกองทัพของเมียนมา บรรยาการการต่อสู้ในเมืองใหญ่ศูนย์กลางการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลกลาง และเมืองหลักกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อต้านก็เริ่มดุเดือดขึ้น

สถานการณ์วันนี้ในเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ประชาชนได้ปิดร้านกันจำนวนมาก ทางการพม่าได้เพิ่มกำลังออกมาล้อมเมืองท่าขี้เหล็ก มีการจับตัวประชาชนไปไม่ต่ำกว่า(2)ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ(4)ราย

ขณะที่เวลาเช้าตรู่ของเมื่อวาน วันที่ 26 มี.ค.2564 เกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดเพลิงที่สำนักงานใหญ่ของพรรค NLD ในเมียนมา สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพี รายงาน อ้างอูโซวิน จนท.พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ว่า เกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิดเพลิงที่สำนักงานใหญ่ของพรรค NLD ในภาคย่างกุ้ง เมื่อ 26 มี.ค.64 เวลา 04.00 น. โดยคนร้ายใช้วัตถุระเบิดบรรจุขวดขว้างไปบริเวณประตูทางเข้าสำนักงาน ทำให้เกิดเปลวเพลิงขนาดย่อม แต่คนในพื้นที่พบเห็นและแจ้ง จนท.ดับเพลิง ก่อนที่จะควบคุมเพลิงไว้ได้ช่วงเวลา 05.00 น. โดยมีเพียงประตูได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ พรรค NLD ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใกล้กับวันกองทัพเมียนมาใน 27 มี.ค.64 ซึ่งสถานการณ์เมียนมาอาจรุนแรงขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว “เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำสิ่งนี้ แต่ไม่ใช่เรื่องดีเลย” โซ วิน สมาชิกพรรค NLD ที่รับผิดชอบดูแลสำนักงานใหญ่พรรคกล่าวกับรอยเตอร์

ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 มี.ค.2564 ในเมืองผาอัน รัฐกะเหรี่ยง ขณะที่ผู้ชุมนุมประท้วงกำลังเตรียมกระสอบทรายในเวลาประมาณ 6.00 น. เจ้าหน้าที่ปราบจลาจลจำนวนมากได้เข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว และพยายามเคลียร์ถนนโดยการใช้ระเบิดแสง ผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นยืนยันเหตุการณ์การปราบปรามกับเอเอฟพี โดยระบุว่า การปราบปรามเกิดขึ้นก่อนที่การชุมนุมประท้วงจะเริ่ม

การปราบจลาจลและกวาดจับแกนนำผู้ประท้วง ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเพิ่มขึ้นเป็น 320 คน

สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองของเมียนมา จำนวนผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมประท้วงในเมียนมาตั้งแต่ 1 ก.พ.2564 เท่าที่มีหลักฐานและสามารถยืนยันได้เพิ่มเป็น 320 คน ส่วนผู้ถูกจับกุมจนถึง 25 มี.ค.64 มีจำนวนรวม 2,981 ราย ทางการเมียนมาแจงเมื่อต้นสัปดาห์ว่าได้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมออกจากเรือนจำอินเส่งของนครย่างกุ้งมากกว่า 600 คน และในวันที่ 26 มี.ค.2564 เจ้าหน้าที่อาวุโสของเรือนจำยังระบุว่าได้ปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังเพิ่มอีก 322 คน “ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นผู้ชาย 249 คน และผู้หญิง 73 คน” เจ้าหน้าที่เรือนจำ กล่าวกับเอเอฟพี

ในส่วนการเคลื่อนไหวทางสากลมีสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกเป็นหลัก ยังเร่งกดดันคว่ำบาตร และประณามการปราบผู้ประท้วงอย่างต่อเนื่อง

ธนาคารโลกเปิดเผยในวันศุกร์ที่ 26 มี.ค.2567 ว่า เศรษฐกิจเมียนมาในปี 2564 จะติดลบถึงร้อยละ 10 เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการชุมนุมประท้วง การนัดหยุดงาน และมาตรการจำกัดความเคลื่อนไหว รวมถึงบริการสาธารณะที่ประสบภาวะชะงักงัน อาทิ การธนาคาร การขนส่ง และบริการอินเทอร์เน็ต ขณะที่สหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรป ดาหน้ากันมาคว่ำบาตรสภาบริหารแห่งรัฐและเครือข่ายธุรกิจของกองทัพ