จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ (21 มี.ค. 2564) ที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “น้อง ๆ ก็จำไว้ลูก เจอลูกสาวประยุทที่ไหน อย่าลืมรุมข่มขืนด้วยเธอ” จนกลายเป็นเรื่องที่ถูกวิจารณ์อย่างมากถึงพฤติกรรมดังกล่าวของผู้โพสต์ จนในที่สุดเจ้าตัวต้องปิดทวิตเตอร์ และลบข้อมูลในเฟซบุ๊กหนีไป นั้น
ต่อมา ทางด้าน นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วย รองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊ก paisal puechmongkol ระบุว่า…”กฎแห่งกรรม!!!! ปล่อยให้กาเหว่า จาบจ้วงหยาบช้าบ่อนทำลายสถาบันมานานแล้ว!!! ล่าสุด กาเหว่าโพสต์ในโซเชียล ชักชวนกันให้รุมข่มขืนลูกผู้มีอำนาจ!!! คราวนี้คงเป็นเรื่องแน่!!! ได้ข่าวว่า กาเหว่าที่โพสต์เรื่องนี้ปิดเพจหนีแล้ว!!!! พี่น้องกาเหว่าทั้งหลายเราเป็นคนไทยด้วยกัน #เรามีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียวกัน ผูกรักสามัคคีกันเถิด!! กลับมาสู่อ้อมอกของมาตุภูมิ มาอยู่ใต้ร่มธงมหาราช ของพระเจ้าอยู่หัวด้วยกันเถิด*** อย่าไปเป็นทาสรับใช้พวกนักล่าอาณานิคมเลย ดูเหตุการณ์ในพม่าเป็นตัวอย่างไว้ อย่าให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา ครอบครัวพ่อแม่พี่น้องญาติโยมของท่านก็จะเดือดร้อนด้วยกัน”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด 22 มี.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสในโลกโซเชียลฯ ทวิตเตอร์ มีการระดมความคิดเห็นให้มุ่งไปโจมตี คุกคาม ลูกสาวและครอบครัวว่า “แล้วมันควรหรือไม่ สื่อก็พูดไปสิว่ามันไม่ควร ก็ต้องช่วยตนบอกว่าเรื่องนี้มันไม่ควร ไม่เห็นใครจะพูดให้ตนสักคนเลย เเต่เดี๋ยวฝ่ายกฎหมายก็จะดูให้ ใครที่พูดจาให้ร้ายเกลียดชัง ดูหมิ่น มันก็เข้าข่ายหมิ่นประมาทอยู่แล้ว ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า “ใครมาทำลูกสาวท่าน จะยอมไหม กฎหมายมี ลูกผม ครอบครัวผมไม่เคยมาทำอะไรให้เกิดความเสียหาย”
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ธัญญา-นิฏฐา จันทร์โอชา ลูกสาวของพล.อ.ประยุทธ์ถูกคุกคามในโซเชียลฯ เพราะว่าก่อนหน้านี้ก็มีประเด็นที่ว่า คนกลุ่มหนึ่งทำการติดแฮชแท็ก #ตามหาลูกประยุทธ์ มีการโพสต์ข้อความในโซเชียลฯ ต่าง ๆ นานให้เกิดความเสียหาย จนทำให้ ลูกสาวของพล.อ.ประยุทธ์ มอบทนายแจ้งความดำเนินคดี ฟ้องคนหมื่นประมาทในโซเชียล แฮชแท็กตามหาลูกประยุทธ์ 100 ราย
โดย อภิวัฒน์ ขันทอง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก ธัญญา-นิฏฐา จันทร์โอชา เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล และสื่อต่างๆ จำนวนกว่า 100 ราย ที่นำข้อความลงในสื่อโซเชียลกล่าวหาให้ร้ายผ่านแฮชแท็ก #ตามหาลูกประยุทธ์ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทั้งสองคน
โดยข้อมูลที่นำมาแชร์ในทวิตเตอร์ และมีนักการเมืองบางคนนำมาแชร์ในเฟซบุ๊กปั่นกระแสขึ้นมา รวมถึงคนที่หลงเชื่อขาดสติ นำมาโพสต์แชร์และแสดงความคิดเห็นที่เสียหายถูกดำเนินคดีทั้งหมดนั้น