หลังจากที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่ม “รีเดม” เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2564 ก่อนที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมจนเกิดการปะทะกัน
ต่อมาเจ้าตัวได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า “เมื่อมองเห็นประชาชนเป็นเพียงมดปลวก แนะนำให้คาตู้คอนเทนเนอร์สูง 2 ชั้นพาดกลางสนามหลวงยาวสุดลูกตา (ตั้งแต่รั้วศาลฎีกาไปจรดรั้วมธ.) ไว้ประจานตัวเองแบบนี้ทั้งปีไม่ต้องเก็บ”
ทั้งนี้ได้มีชาวโซเชียลเข้าไปคอมเม้นต์ถามว่า การที่ ส.ส. โพสต์รูปการร่วมชุมนุมนั้น มีความผิดด้วยหรือไม่ ปรากฏว่า นางอมรัตน์ ได้โพสต์ตอบว่า “ให้มาจับค่ะ” พร้อมข้อความว่า “สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสันติเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองที่ถูกรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ”
ขณะที่ทางด้านนายไพศาล พืชมงคล ได้แสดงความคิดเห็นถึงประเด็นนี้ด้วย โดยระบุว่า “เป็นสส.ไปเข้าร่วมชุมนุมกับม็อบล้มเจ้า!!! ก็มีความผิดตามกฎหมาย ไปร่วมมาแล้วกี่ครั้งก็นับกระทงไปเท่านั้น!!!
ข้ออ้างไปสังเกตการณ์ฟังไม่ขึ้น!!!!
ยิ่งเป็นกรณีฝักใฝ่การปกครอง ที่ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ส่งเสริมสนับสนุนขบวนการล้มเจ้า ถึงขนาดตั้งตัวเป็นนายประกันอาชีพ เป็นอาจิณ ถ้าคดีถึงมือศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวันไหน
ก็อาจพ้นจากตำแหน่งสส.วันนั้น!!!!”
ทั้งนี้ในส่วนของ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เคยเข้าร่วมการชุมนุมเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563 หน้า SCB โดยมีส.ส.บัญชีรายชื่อพรรรคก้าวไกล 3 คน ประกอบด้วย นายรังสิมันต์ โรม , นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และน.ส.เบญจา แสงจันทร์ เดินทางเข้าพื้นที่การชุมนุมบริเวณด้านหน้าธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่
-19 ก.พ. 64 กลุ่ม mob fest นัดชุมนุมเพื่อจัดกิจกรรม อภิปรายนอกสภา ที่หน้ารัฐสภาเกียกกาย นางอมรัตน์ ก็ได้จับมือชวนก๊วนส.ส.ก้าวไกล โดดประชุมมาร่วมม็อบด้วย โดยมีทั้งนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร, น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน, นายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ , นายณัฐวุฒิ บัวประทุม
ด้านนายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็เคยไปร่วมชุมนุมในวันที่ 147 ต.ค. 2563 ที่สี่แยกปทุมวัน รวมทั้งนายธนาธร และนายปิยบุตร เข้าร่วมม็อบ 19 กันยา ที่ท้องสนามหลวง
และหลังจากที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 มีคำสั่งฟ้อง 18 ผู้ต้องหาแกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ฟังคำสั่งในคดีชุมนุม “19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร” น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาเปิดเผยว่า เตรียมใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัวราษฎรทั้ง 18 คนด้วย โดย ส.ส.ที่จะใช้ตำแหน่งประกันตัวของพรรคก้าวไกล ประกอบไปด้วย นางสาวเบญจา,นายรังสิมันต์ โรม, พันตำรวจตรีชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ,นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ รวมทั้งได้มีคณาจารย์-นักวิชาการจากหลากหลายมหาวิทยาลัยทั้งจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ และมหิดล ได้เตรียมใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัวด้วยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามจากประเด็นของการที่มีพรรคการเมืองและสมาชิกพรรค เข้ามาพัวพันกับการชุมนุมของม็อบ 3 นิ้ว ทำให้สังคมเกิดขึ้นถาม ถึงความเหมาะสม ว่าส.ส.ควรพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ รวมทั้งยังกล้าเอาตำแหน่งของตนเองเป็นเดิมพันในการขอประกันตัวคนทำผิดในหลาย ๆ คดี ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2564 นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้เข้ายื่นคำร้องต่อกกต. ขอให้ตรวจสอบการกระทำของพรรคก้าวไกล กรณีพรรคและสมาชิกพรรค แสดงความเห็นทางการเมือง เข้าร่วมกับผู้ชุมนุม ประกันตัวผู้ต้องหาในคดีชุมนุมทางการเมือง ถือเป็นการกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุน ให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวน หรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
รวมทั้งกรณียื่นร่างแก้ไข ประมวลกฎหมายอาญา ในฐานความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาททั้งหมด และมาตรา 112, ร่าง แก้ไข พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560, และร่างแก้ไขพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558
พรรคก้าวไกลมีการกระทำใน 2 ประเด็น ยุยงส่งเสริม สนับสนุนให้มีการชุมนุม ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และมีการประกันตัวผู้ต้องหาในคดี มาตรา 112 มีการเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งการกระทำเหล่านี้ มีหลักฐานครบทั้งหมด จึงมายื่นให้ กกต.พิจารณา และ ศาลรธน.จะเป็นผู้วินิจฉัยว่า หลักฐานดังกล่าวเป็นความผิดที่สามารถสั่งยุบพรรคได้หรือไม่ เพราะแม้จะถูกยื่นสอบพรรค ทางด้านส.ส.แต่ละคนก็ไม่ได้เกรงกลัวกฎหมาย ออกมาหนุนม็อบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ได้หมายถึงการออกมาสังเกตการณ์เพียงอย่างเดียว เพราะขนาดคนที่ไปร่วมการชุมนุมยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เจ๊เจี๊ยบ เดินช่วยทั้งงาน”
