หลังจากที่ ฝ้าย-สุมิตตา ดวงแก้ว หรือ ฝ้าย BNK48 รุ่นที่ 2 ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2564 ระบุว่า “หนูพ้นสภาพจากการเป็นสมาชิก BNK48” ซึ่งต่อมาทางต้นสังกัด “BNK48” ได้โพสต์ประกาศยืนยันการพ้นสภาพสมาชิกของ “ฝ้าย”
โดยระบุว่า มีสาเหตุมาจากการกระทำผิดต่อกฎของบริษัทหลายข้ออันเป็นการผิดสัญญาต่อบริษัทและการพิจารณาครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมือง ซึ่งก่อนหน้านี้ ฝ้ายเคยบอกว่า อยากไปแจกข้าวคนในม็อบ และเคลื่อนไหวหนุนม็อบ 3 นิ้วมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ทาง ฝ้าย สุมิตตา ก็ได้มีการออกมาตอบโต้เกี่ยวกับการพ้นสภาพเมมเบอร์ โดยเจ้าตัวได้ออกมาทวีตลงในแอคเคาท์ส่วนตัวระบุว่า “ทุกคนคือเหตุผลมันตลกมากกว่าที่ทุกคนคิด 555555555555555555555555555″ คนที่แต่งเรื่องมาปั่น หรือเดาผิด ๆ ไปไกลอย่าง ค้ายา เล่นยา ค้ามนุษย์ มีวัว ขายตัว ค้าอาวุธเถื่อน หลอกเมมไปกินข้าวกับคนนอก ทำร้ายเมมเบอร์ หรืออื่น ๆ นี่คือตื่นก่อนเนอะ สติ หยุดแต่งนิยายก่อน”
นอกจากนี้ “ฝ้าย” ยังได้ออกมาไลฟ์สด กับ แคน-นายิกา ศรีเนียน อดีตสมาชิกBNK48 รุ่นที่ 1 ปัจจุบันแคนเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ทั้งคู่ได้ตอบคำถามของแฟนคลับถึงเรื่องดังกล่าวว่า เหตุผลที่เธอออกจากวง เนื่องจากมีหลายอย่างที่ฝ้ายอยากลอง อยากก้าวไปในเส้นทางใหม่ ๆ แคนเสริมว่า BNK เป็นเหมือนโรงเรียนให้ได้หาตัวเอง ดังนั้นเมื่อเราพบตัวเองแล้ว เลยทำหนังสือยื่นไป ซึ่งในเอกสารของทาง BNK48 ได้ระบุถึงความผิดที่ได้ทำไป แต่ไม่มีหัวข้อไหนพูดถึงเรื่องการแสดงความเห็นทางการเมือง ทำให้เกิดการคาดเดากันไปมากมาย แต่ไม่ใช่สาเหตุร้ายแรง และการไลฟ์ในครั้งนี้เพื่อชี้แจงในหลาย ๆ ข้อสงสัยของแฟนคลับ เพราะเรื่องมันออกทะเลมากเกินไป ส่วนความผิดที่แท้จริงจะเป็นอะไร ขอให้เป็นเรื่องของฝ้ายกับ BNK
ทั้งนี้มีข่าวออกมาว่า สาเหตุที่ต้นสังกัดปลด “ฝ้าย” เพราะเจ้าตัวโพสต์เลขบัญชีธนาคาร แล้วปรากฎว่ามีคนโอนเงินเข้ามาให้ จึงมองว่าเป็นเรื่องของการทุจริตหรือไม่นั้น ซึ่งฝ้ายชี้แจงว่า เกิดจากการโพสต์เล่นและเลินเล่อของตัวเองที่สนิทใจกับแฟนคลับ จนทำให้เกิดการเล่นที่มากไป โดยในเรื่องนี้ “แคน” เสริมว่า ถ้าเป็นประเด็นผิดจริง ทำไมบริษัทถึงไม่เรียกมาตักเตือน แต่ในส่วนนี้ฝ้ายได้กลับมาคิดทบทวนดูแล้วพบว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด จึงอยากขอโทษแฟนคลับที่ทำให้ผิดหวัง
ขณะที่ทางแคน สมาชิกก้าวไกล ได้ยกประสบการณ์ เล่าว่า ปกติถ้าทำผิดจะต้องถูกเรียกมาพูดคุย และให้บทลงโทษ เช่น ลองเช็คจากไทม์ไลน์ก็ได้ว่าเรื่องบัญชีจริงๆ เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ฝ้ายไม่ได้โดนพักงาน ดังนั้น “เรื่องที่ฝ้ายโดนออก ไม่มีสาเหตุมาจากเรื่องบัญชี” ส่วนจะมองว่าผิดหรือไม่ผิดอันนี้แล้วแต่ทุกคน ฝ้ายเล่าเรื่องจำนวนเงินที่เข้ามาว่าไม่ได้มากมาย ซึ่งรวมแล้วไม่เกิน 1,000 บาท แคนเสริมว่าตอนนี้เป็นเวลาเย็นวันเสาร์ ดังนั้นถ้าถึงช่วงเวลาทำการของธนาคารตอนไหน จะขอเข้าไปขอหลักฐาน แต่ตัวบัญชีได้ปิดไปแล้วคงต้องไปคุยกับธนาคารอีกครั้ง ส่วนจะมีการขึ้นศาลหลังจากนี้หรือไม่ เราไม่ได้ไปฟ้องเขา เราแค่ยื่นจดหมายขอออก และเขาก็ส่งจดหมายกลับมาตอบ แต่การจะขึ้นศาลก็ขึ้นกับเขาว่าอยากขึ้นหรือไม่ หรือจะตกลงกันแบบไหน แต่ถ้าขึ้นจริง เอกสารที่ส่งไป-มา จะสามารถเปิดเผยได้ เพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย แน่นอนว่าเราอยากจบกันได้ด้วยดี
ส่วนที่มีคนสอบถามเข้ามาว่า ที่บอกว่าทางต้นสังกัดไม่เตือนก่อนคืออะไร ทำผิดกฎอ้างว่าไม่รู้ได้หรอ ในส่วนนี้ “แคน” ตอบว่า ทุก ๆ คนรู้หรอว่ากฎมีอะไรบ้าง เพราะเป็นสัญญาที่เปิดเผยไม่ได้ ทำไมอยู่ ๆ ถึงหาว่ามันเป็นกฎ มีความเห็นยกตัวอย่างเรื่องบัญชีกับบริษัท แคนบอกตรงนี้แคนเข้าใจ ว่าถ้าเราเปิดบริษัท แล้วลูกค้าจะโอนเงินมา แต่เซลเอาเลขบัญชีอื่นให้ ตรงนี้ถือว่ามีความผิด และฝ้ายก็ยอมรับแล้วว่าเกิดจากความเลินเล่อ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไลฟ์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่าการที่ “แคน” ออกมาร่วมชี้แจงโดยระบุว่าเรื่องการโพสต์บัญชีของตนเองนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย ทั้งที่ชาวเน็ตมองว่าแม้เป็นจำนวนที่เล็กน้อยก็อาจจะเข้าข่ายฉ้อโกงบริษัทได้ รวมไปถึงการที่ฝ้ายชี้แจงโดยไม่พูดถึงเรื่องที่เพื่อนตนเองทวีตข้อความรุนแรงถึงเมมเบอร์ BNK48 อย่างการทวีตถึงเฌอปรางอย่างรุนแรงนั้น เป็นการไม่ปกป้องเพื่อน
และผิดหวังในฝ้ายอย่างมาก จนกลายเป็นกระแสต่อต้านสาวฝ้ายอีกด้วย นอกจากนี้บางคนยังมองว่า ฝ้ายลากแคนมาพังด้วยแท้ ๆ แม้จะเป็นเงินเล็กน้อย ก็ถือว่าเข้าข่ายโกง ทั้งที่ตัวเองก็ทำงานทางการเมือง
แล้วเคยบอกว่าต่อต้านคอรัปชั่น แต่กลับมาปกป้องเพื่อนที่ทำผิด ซึ่งน่าแปลกใจว่าทางฝั่งก้าวไกล ทำไมถึงมีแต่แนวคิดแบบนี้ เพราะในกฎของต้นสังกัดก็ระบุครอบคลุมว่า การเป็นสมาชิกวงต้องวางตัวรักษาภาพลักษณ์ และมีความเหมาะสมด้วย
สำหรับ “แคน นายิกา” ภายหลังจากที่ลาออกจาก BNK48เคยเข้าร่วมชุมนุมกับม็อบราษฎร และร่วมงานกับพรรคก้าวไกล อยู่ในทีมประชาสัมพันธ์ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบึงกุ่ม และ คันนายาว ขณะที่ จ.เจตน์-ภูวกร ศรีเนียน บิดาของ แคน ก็เป็น 1 ในทีมผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และเคยลงสมัคร ส.ส.พะเยา ของพรรค ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันเป็นผู้ประสานงานคณะก้าวหน้า จ.พะเยา