“อนุทิน” ประกาศไม่ถอนตัวร่วมรบ.!?! ลั่นฟังเสียงศาลทำประชามติก่อนแก้รธน. ซัดม็อบก้าวล่วงสถาบัน

2044

“อนุทิน” ประกาศไม่ถอนตัวร่วมรบ.!?! ลั่นฟังเสียงศาลทำประชามติก่อนแก้รธน. ซัดม็อบก้าวล่วงสถาบัน!!

จากกรณีที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังพรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว เนื่องจากเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เพียงพรรคเดียวไม่สามารถเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ และเบื้องต้นได้สั่งให้ทีมกฎหมายพรรคศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา คาดว่าจะสามารถยื่นได้ในสมัยประชุมหน้า

ซึ่งทางด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรียกร้องให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา เลิกอุ้ม เลิกสนับสนุน รัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงต่อเด็ก เยาวชนและประชาชน ที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ได้แล้ว และพล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลาออก

ล่าสุด วันนี้ (22 มีนาคม 2564) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ทำประชามติ ว่า พรรคภูมิใจไทยแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนไปแล้วทำตามคำสั่งทำตามศาลรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ส่วนจะแก้ไขรายมาตราที่พรรคอื่นเสนอหรือไม่ ยึดตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่เจตนารมณ์เรื่องการแก้ไขและธรรมนูญยังเหมือนเดิม แต่ทำให้ถูกต้องตามกระบวนการ

เนื่องจากศาลและธรรมนูญระบุว่าจะแก้ไขจะต้องถามประชาชนในการทำประชามติก่อน เราก็จำเป็นต้องทำ ถึงแม้จะไม่อยากทำก็ตาม เพราะคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันต่อทุกองค์กร รวมถึงรัฐสภาด้วย ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีปัญหาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราที่ดูแล้วเหมือนไม่เป็นประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้พูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ ในการเดินหน้าร่วมกันแก้ไขรายมาตราก็ว่ากันไป ในเรื่องของวิธีการหรือเหตุผล มีสมาชิกที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ ทั้งนี้การไปจับกลุ่มพูดคุยของส.ส.ก็เป็นเอกสิทธิ์ของเขาในสภาฯ ส่วนการร่วมรัฐบาลถือเป็นสปิริต เราต้องชั่งน้ำหนักในแต่ละเหตุการณ์ด้วยเหตุผลที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนได้มีการพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนาหรือไม่นั้น อะไรหารือกันเป็นประโยชน์กันได้ก็หารือกันไป อย่าผิดกฎหมาย อย่าผิดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไดโนเสาร์ยืนยันว่าที่พูดถึงเรื่องไดโนเสาร์ไม่ได้พูดถึงส.ว.และไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล และไดโนเสาร์คือสิ่งที่เราไม่ชอบในเรื่องที่มาของนายกฯในบทเฉพาะกาลเท่านั้นแต่ไดโนเสาร์คือ คนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนอย่างพวกตน ถึงแม้มีบทเฉพาะกาลให้ส.ว.เลือกนายกฯก็ตาม แต่พล.อ.ประยุทธ์ ได้มาเป็นนายกฯ เพราะเสียงของส.ส.253 เสียง ไม่ได้มาเพราะเสียงของส.ว.เป็นหลัก

นายอนุทิน ยังปฏิเสธอีกว่าไม่ได้มีแรงกดดันให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล และไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพราะตนทำตามหน้าที่แล้วทำตามกฏหมาย ทำตามในสิ่งที่ควรจะเป็นในสิ่งที่ควรจะเป็น

นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การชุมนุมที่รุนแรงจนทำให้มีผู้บาดเจ็บว่า รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้เกิดขึ้น ตนเคารพทุกการชุมนุม แต่ขอให้ทำตามกฏหมาย อย่าใช้ความรุนแรงกันเลยคนไทยด้วยกัน เมื่อบาดเจ็บขึ้นมาก็พวกเราทั้งนั้น ตำรวจ ทหารก็คือญาติของพวกเราทั้งนั้น ขอให้ชุมนุมอย่างสงบและสันติเห็นต่างได้แต่ไม่ใช่มาต่อสู้กัน ไม่มีใครกล้าต่อสู้กับประชาชน ส่วนผู้ชุมนุมมีการพุ่งเป้าไปที่สถาบันเป็นหลักนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ต้องไปดูที่เจตนา สถาบันไม่เคยทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนทุกวันนี้มีประเทศอยู่ถึงทุกวันนี้ได้อยู่ถึงทุกวันนี้ได้เพราะพระมหากรุณาที่คุณตั้งแต่โบราณมา นี่คือความคิดของตน