เปิดท่อน้ำเลี้ยง แฉนักการเมือง ชำแหละนักวิชาการ หนุนม็อบล้มเจ้า? ตามใบสั่งปชช.ส่วนใหญ่ให้ใช้กฎหมายทุกมาตราเช็คบิล!!

3650

เปิดท่อน้ำเลี้ยง แฉนักการเมือง ชำแหละนักวิชาการ หนุนม็อบล้มเจ้า? ตามใบสั่งปชช.ส่วนใหญ่ให้ใช้กฎหมายทุกมาตราเช็คบิล!!

จากกรณีที่ซูเปอร์โพล ได้เผยผลสำรวจว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.3 ทุกข์ใจ และต้องการให้ใช้กฎหมายทุกมาตรา จัดการพวกม็อบ พวกท่อน้ำเลี้ยงและนักการเมือง นักวิชาการบางคนยุยงปลุกปั่น ม็อบละเมิดกฎหมาย ก้าวล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติ ทำลายชาติบ้านเมืองของตนเองด้วยการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงบานปลาย

หากย้อนไปในการชุมนุม ที่มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่คอยให้การสนับสนุนม็อบสามนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นท่อน้ำเลี้ยง นักการเมืองที่ใช้ตำแหน่งในการประกันตัวกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงนักวิชาการต่างๆที่ออกมาให้การสนับสนุนม็อบ สำหรับท่อน้ำเลี้ยงของม็อบ หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า คือ ทราย เจริญปุระ และ บุ๊ง ปกรณ์ พรชีวางกูร ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อยก-แม่ยก ที่คอยสนับสนุนเงินและคอยหาอุปกรณ์ต่างๆให้กับใช้ในการเคลื่อนไหว และล่าสุดก็มีกระแสอมเงินบริจาค ซึ่งทำให้หลายคนวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองหลายคนที่ออกมาให้การสนับสนุนม็อบ อย่างพรรคก้าวไกล ที่มีการใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกันตัวเหล่าแกนนำและผู้ชุมนุมที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ไม่ว่าจะเป็น นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, นางสาวเบญจา แสงจันทร์ ,นายรังสิมันต์ โรม, พันตำรวจตรีชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ,นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ, สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า กลุ่มส.ส.ของพรรคก้าวไกล หรือพรรคก้าวไกลเองนั้น ให้การสนับสนุนม็อบล้มล้างสถาบัน

โดยล่าสุด วันที่ 20 มีนาคม ได้มีการชุมนุมของกลุ่มรีเด็ม “REDEM” บริเวณท้องสนามหลวง ได้ถูกเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม จนเกิดการปะทะกันขึ้นนั้น ทั้งนี้ มีผู้ชุมนุมบางส่วนถูกจับกุมตัว และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พาตัวไปยัง กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ต่อมา ก็มีทนายความและ ส.ส.เบญจา แสงจันทร์ พรรคก้าวไกล และ ส.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา พรรคก้าวไกล มาขอยืนประกันตัวในชั้นสอบสวนด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังมีพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาเคลื่อนไหวเหมือนเป็นการให้สนับสนุนม็อบ โดยแสดงความคิดเห็นโจมตีรัฐบาล ถึงกรณีของการสลายการชุมนุม โดยทางด้าน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้บอกว่า “น่าอับอายสุดขีด! ในขณะที่ทั้งโลกกำลังประณามทหารพม่าที่ฆ่าผู้ชุมนุมอย่างป่าเถื่อน แต่ทหารไทยกลับมีข่าวส่งอาหารให้ทหารพม่า อีกทั้งไทยยังมีการทำร้ายผู้ชุมนุมเหมือนกัน ทำแบบนี้ไทยไม่ต่างจากพม่า แล้วจะตอบประชาคมโลกอย่างไร #ม็อบ20มีนา #รัฐบาลส้นตีนคนเชียร์ก็ส้นตีน”

ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ทางด้าน พรรคเพื่อไทยได้ออกมาแถลงการณ์ เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลที่จัดการกับผู้ชุมนุม โดยเรียกร้องยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน และหยุดการใช้อำนาจคุกคามประชาชน ในทุกรูปแบบ และปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมทันที

สำหรับกรณีของกลุ่มนักวิชาการต่างๆที่สนับสนุนม็อบล้มเจ้าโดยเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ กลุ่มนักวิชาการ จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ร่วมกันนำหนังสือ ไปมอบให้กับ 4 แกนนำ ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทั้งยังได้ร่วมกันอ่าน โดยมีนักวิชาการที่เข้าร่วม อาทิ ผศ.ดร. ประจักษ์ ก้องกีรติ คณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ,รศ.ดร. ยุกติ มุกดาวิจิตร และ ผศ.ดร. บุญเลิศ วิเศษปรีชา คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ทั้งนี้ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมายื่นประกันตัว 4 แกนนำด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการสนับสนุนม็อบอย่างชัดเจน แถมครั้งนี้ ยังออกหน้ามาประกันตัวแกนนำด้วย

อย่างไรก็ตาม นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ ได้เผยแพร่บทความเรื่อง “ความล้มเหลวทางความคิด ของปัญญาชนสามนิ้ว” มีท่อนหนึ่งได้กล่าวถึงนาย ณัฐพล ใจจริง ซึ่งเป็นเจ้าของวิทยานิพนธ์ที่มีการบิดเบือน ใส่ร้ายสถาบัน และมีการนำงานเขียนของนายณัฐพล ไปปลุกระดมเพื่อนำไปสู่การล้มล้างสถาบัน ที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ โดยนายแก้วสรรได้กล่าวว่า แต่มันก็ชัดในวันนี้แล้วว่า “ธงจัดการเจ้า” และ”ทฤษฎีสวมตอคณะราษฎร” นี้ มันใช้นำการปฏิวัติไม่ได้  น่าสงสารเยาวชนที่ถูก พวกอาจารย์ยัดธงใส่มือ เข้าไปโบกในคุก ต้องคดีกันเป็นแถว

ล่าสุดนี้ ก็มีการฟ้องร้องปัญญาชนสามนิ้วชื่อ ณัฐพล ใจจริง แล้วว่า ประพฤติเลวทางวิชาการ ปั้นแต่งข้อมูลเท็จเป็นวิทยานิพนธ์ใส่ร้าย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เสด็จลุงของในหลวงภูมิพล ว่า เป็นตัวการเริ่มใช้สถาบันสนับสนุนสมคบคิดทางการเมืองกับทหาร เมื่อครั้งเป็นผู้สำเร็จราชการ

อาจารย์สามนิ้วคนนี้ เขาเขียนในวิทยานิพนธ์รัฐศาสตร์จุฬาฯ ปี ๒๕๕๒  อ้างว่าเสด็จในกรมฯ ท่านรีบสนับสนุนรับรองการรัฐประหารขณะนั้นอย่างแข็งขัน  โดยอ้างอิงบางกอกโพสต์ไว้ในวิทยานิพนธ์   แต่ปรากฏว่า เมื่อตรวจสอบแล้วตัวสิ่งพิมพ์ที่อ้างไม่ระบุอย่างนั้นเลย ครั้นอ้างต่อไปอีกว่า มีรายงานสถานทูตสหรัฐรายงานว่า เสด็จในกรมท่านจะเข้าร่วมประชุม ครม.ด้วย จนจอมพล ป.ไม่พอใจ   แต่ตรวจเข้าจริงๆ ก็ไม่มีรายงานเช่นนั้นเลยเช่นกัน ยังงี้ก็เรียกว่าเป็นการปั้นแต่งเท็จกันดื้อๆ จะเขียนให้ใครเลวอย่างไรก็ได้ แล้วอ้างอิงซ้ำลงไป ใครเขาจะไปรู้ว่าอ้างเท็จ ก็เลยเชื่อกันหมด

วิทยานิพนธ์เท็จฉบับนี้ ในที่สุด ทางจุฬาฯ ก็สั่งห้ามเผยแพร่แล้ว แต่พวกนี้ยังเอาความเท็จนี้ไปเผยแพร่กันไม่หยุดในหนังสือฉบับอื่น ทายาทเสด็จในกรมฯ เขาถึงฟ้องละเมิด เรียกค่าเสียหาย ๕๐ ล้าน ก็สมควรแล้ว ไปใส่ความท่านอย่างนั้น มันไม่รู้จักบุญคุณคนเลย