“หมอวรงค์” ประกาศลั่น ไทยภักดีเป็นพรรคการเมืองแล้ว ขออาสาเป็นทางออกของประเทศ ต่อสู้พวกทำลายชาติ!!

จากกรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกร ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความยินดีและแจ้งให้สมาชิกได้รับทราบว่าขณะนี้ได้รับใบรับคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองจาก กกต.แล้ว เท่ากับว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะมีพรรคไทยภักดีเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

โดยระบุว่า
“#พรรคไทยภักดี
ข่าวดีครับ…..ผมได้รับใบรับคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองจากกกต.แล้วครับ
เท่ากับว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จะมีพรรคไทยภักดี เป็นหนึ่งในพรรคการเมือง ของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
เราจะไม่ขอเป็นทางเลือก แต่เราจะเป็น #ทางออกของประเทศไทย
#ภักดีประชาศรัทธาสถาบัน”

โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ได้ลงนามรับรองในหนังสือใบรับคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ไปเมื่อวันที่ 11 มี.ค. และนายทะเบียนพรรคการเมืองได้รับเอกสารหลักฐานการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองพร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 11 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง

นพ.วรงค์ได้แจ้งให้คนที่ต้องการสมัครเป็นสมาชิกพรรค สามารถสมัครผ่านแอปพลิเคชันของพรรคได้ โดยจะพร้อมเปิดใช้งานในสัปดาห์หน้า พร้อมจะเชิญชวนคนไทยมาร่วมร่วมอุดมการณ์ในฐานะเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อของพรรค “ต้องย้ำกับพี่น้องนะครับว่าพรรคไทยภักดีไม่ใช่พรรคของนายทุน ไม่ใช่เป็นพรรคที่มีเจ้าของ เราดำเนินการโดยเป็นพรรคของพี่น้องประชาชน ให้พี่น้องเข้ามามีส่วนร่วมกับเรา เราขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่าเราขอปฏิเสธในการรับเงินกับทุนผูกขาด เพราะทุนผูกขาดเป็นปัญหากับสังคมที่ต้องแก้ไข ดังนั้นไทยภักดีไม่มีแนวคิดรับเงินบริจาค หรือเงินช่วยเหลือจากทุนผูกขาดอย่างแน่นอนครับ”

นพ.วรงค์กล่าวว่า แม้จะเปลี่ยนจากกลุ่มไทยภักดีมาเป็นพรรคการเมือง ยังยืนยันยึดมั่นในอุดมการณ์ของไทยภักดี 5 ข้อเช่นเดิม เช่น ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และยืนหยัดในการปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สืบสานความเป็นไทย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี แถลงตั้งพรรคไทยภักดี ตลอด 5 เดือนที่ตั้งกลุ่มไทยภักดีขึ้นต้องต่อสู้เพื่อปกป้องสถาบันฯ อันเป็นที่รักของคนไทย และอยากมีเครือข่ายในการต่อสู้เพื่อสถาบันทั่วประเทศนั้น
ทั้งนี้นพ.วรงค์ ระบุว่าถึงเวลาต้องประกาศจัดตั้งพรรคไทยภักดี เพื่อต่อสู้กับพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และม็อบสามนิ้ว บนพื้นฐานความเชื่อว่าสังคมไทยจะสงบสุขได้ต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์ กับนักการเมืองที่มีคุณธรรม

“พรรคไทยภักดีไม่มีกลุ่มทุน นายทุน และเจ้าของพรรค โดยทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนจะให้โอกาสในการทำหน้าที่ พรรคไทยภักดีจะเป็นของคนทุกกลุ่ม เมื่อก่อตั้งแล้วต้องมีการเลือกตั้ง ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ อาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน พร้อมประกาศเชิญชวนผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน มาร่วมงานกันกับหลายฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง” นพ.วรงค์ กล่าว

นอกจากนี้ กลุ่มไทยภักดี ยังออกแถลงการณ์ถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 50 กำหนดให้ปวงชนชาวไทยมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ในความเป็นจริงนอกจากมีพรรคการเมืองพยายามทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ยังมีความร่วมมือกับการเคลื่อนไหวนอกสภา โดยใช้ชื่อที่หลากหลายมีเป้าหมายเพื่อล้มสถาบันฯ ผ่านคำว่าปฏิรูป โดยมีบุคคลกลุ่มหนึ่งอยู่เบื้องหลัง เพราะเขามองว่าสถาบันพระมหากษัตริย์คืออุปสรรคในการขึ้นสู่อำนาจและการสถาปนาระบอบสาธารณรัฐ คนเหล่านี้ใช้เวลาประมาณ 10 เดือน สามารถยกระดับการโจมตีสถาบันฯ ผ่านคำว่าปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์โดยสามารถยั่วยุปลุกปั้นเยาวชนให้เกลียดชังสถาบันพระมหากษัตริย์

โดยกลุ่มดังกล่าวได้มีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง มุ่งเป้าไปสู่การล้มเลิกมาตรา 112 เพื่อไปสู่การล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ในที่สุด ซึ่งกลุ่มดังกล่าวสามารถแยกแยะออกได้ คือ ม็อบสามนิ้ว คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล

กลุ่มไทยภักดีได้ก่อกำเนิดขึ้นมาแม้จะระยะเวลาไม่นาน แต่หัวจิตหัวใจ ซึ่งความจงรักภักดี รักความเป็นธรรมนั้นมีมาตลอดชีวิต แม้การต่อสู้ในนามกลุ่มจะคล่องตัว แต่ก็มีข้อจำกัดจึงมีความจำเป็นที่จะต้องขยายเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพในการต่อสู้