แฉแผนไม่ใช่ครั้งแรก!?! ปลดแอก ปั่นหัวม็อบร่อนจม.ข้ามรั้ววัง พบเคยทำเหลวมาแล้ว ถลกไร้แกนนำ ที่แท้มีคนบัญชาการ นั่งคอนโทรล?
จากกรณีที่ กลุ่มเยาวชนปลดแอก ได้ประกาศนัดหมายการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 20 มีนาคม เวลา 18.00 น. ที่สนามหลวง โดยให้ผู้ชุมนุมร่วมพับเครื่องบินกระดาษ ทำเป็นจดหมายพาดพิงสถาบัน ส่งข้ามรั้ววัง โดยบอกว่า การต่อสู้ของผู้ถูกกดขี่ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ร่วมลั่นกลองรบและเคลื่อนพลไปพร้อมกัน และยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น. ไม่มีการเดินขบวน ไม่มีแกนนำ โดยภายในงานประกอบด้วยไฮไลท์คือ “ส่งสาสน์เรียกร้องให้มีการจำกัดอำนาจกษัตริย์และลงมาอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ” ร่วมกันแสดงพลังหยุดระบอบกษัตริย์เหนือรัฐธรรมนูญและทวงคืนประชาธิปไตยที่ประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน
ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 กลุ่มเยาวชนปลดแอก ก็ได้นัดรวมพลให้ออกมาร่วมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนเตรียมเดินขบวน เขียนจดหมายถึงในหลวง ด้าน บช.น. ได้วางกำลังตำรวจเพื่อดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุมจำนวน 59 กองร้อย ประมาณ 8,850 นาย พร้อมย้ำห้ามผู้ชุมนุมเข้าใกล้สถานที่สำคัญเกิน 150 เมตร ทั้งสถานที่ราชการและเขตพระราชฐาน
จากนั้น เวลา 20.55 น. หลังอ่านแถลงการณ์ของราษฎรเสร็จสิ้น ตัวแทนกลุ่มราษฎรประกาศให้มวลชนนำจดหมายที่เขียนไว้มาหย่อนที่ตู้ไปรษณีย์ จากนั้นจึงประกาศยุติการชุมนุม
จากเหตุการณ์การเคลื่อนไหวของม็อบในวันที่ 8 พฤศจิกายน ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาพูดถึงกรณีดังกล่าวว่า
ปลายทางของม็อบ Me Generation
ตกลงว่าไม่ว่ายังไง ม็อบ Me Generation ม็อบนี้ก็จะดึงดันผลักดันข้อเรียกร้อง “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” (ข้อเสนอลดพระราชอำนาจแบบตัดมือตัดเท้าทุกทาง=ล้มสถาบันในความเป็นจริง) ให้จงได้ใช่มั้ย? ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้เพราะที่ได้ทราบจากรายงานจากพรายกระซิบ สิ่งที่ม็อบเยาวชนปลดแอกวางแผนที่จะทำในวันพรุ่งนี้ คือนัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในตอนบ่ายสี่โมง มีรถบรรทุกติดเครื่องกระจายเสียงเป็นเวทีเคลื่อนที่
จากนั้นจะพาผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปที่ลานพระราชวังดุสิตและพระราชวังสวนอัมพรเพื่อทำกิจกรรมให้ผู้ชุมนุมใช้กระดาษเขียนฎีกาถึงสถาบันฯ โดยพับเป็นนกหรือเครื่องบิน แล้วขว้างให้ร่อนเข้าไปในเขตพระราชฐาน เพื่อสื่อถึงสถาบันในเชิงสัญลักษณ์
มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะมีข้อความจาบจ้วงหยาบช้าปรากฏอยู่ในนก/เครื่องบินพับที่จะขว้างให้ร่อนเข้าไปในเขตพระราชฐาน เพราะมวลชนที่มาร่วมชุมนุมได้ถูกปลุกปั่นให้เกลียดชังสถาบันมานานนับปีด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จและเรื่องเล่าต่างๆที่ลวงโลก
อย่างไรก็ดี นี่คือความพยายามล่าสุดที่จะดึงดันปลุกม็อบล้มสถาบันที่ฝ่อไปแล้วในความเป็นจริง ให้กลับมาจุดใหม่อีกครั้งเท่านั้น โดนไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมหรือความเป็นจริงใดๆทั้งสิ้น สำหรับแกนนำหลักที่พยายามผลักดันม็อบ Me Generation นี้อีกในวันพรุ่งนี้คงกู่ไม่กลับแล้วละ ชะตากรรมของพวกเขาคงไม่ต่างๆจากพวกแกนนำรุ่นแรกที่มีคดีจ่อเพียบไม่ต่ำกว่า 80 คดี และก็โดนทางอเมริกาเทไปแล้ว แต่มวลชนที่เป็นเยาวชนที่คิดจะไปร่วมกับม็อบนี้ในวันพรุ่งนี้ต่างหากที่ควรคิดให้ดีนะ … นี่มิใช่สถานการณ์เหมือนเดือนที่แล้วที่พวกคุณกำลังฮึกเหิมสุดๆ แบบ “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” อีกต่อไปแล้วนะ ผ่านเวลามาขนาดนี้ พวกคุณน่าจะเบิกเนตรได้แล้ว เหมือนพรรคพวกของคุณจำนวนมากที่ได้คิดและถอนตัวจากม็อบนี้ไปแล้วก่อนหน้านี้ ถ้ายังคิดไม่ได้ ก็อย่าโทษใครเลย ถ้าชีวิตต้องเจออะไรๆหลังจากนี้
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนปลดแอกในครั้งนี้ จะเกิดความรุนแรงอีกหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ในการชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และหน้าศาลฎีกา สนามหลวง เมื่อเวลา 15.00-21.30 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุม ก็ได้ทำกิจกรรมและมีการปิดเส้นทางจราจรทำให้ไม่สามารถสัญจรได้ โดยดำเนินกิจกรรมต่อเนื่องมาถึงเวลา 18.00 น.
หลังเคารพธงชาติเสร็จกลุ่มผู้ชุมนุมได้ชักชวนกันไปทำกิจกรรมที่ศาลหลักเมือง ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีสถานที่สำคัญอีกหลายสถานที่ เช่น วัดพระแก้ว ศาลหลักเมือง ฯลฯ ตำรวจจึงจำเป็นต้องตั้งแนว เพื่อกำหนดอาณาเขตให้ทราบ เมื่อผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงบริเวณดังกล่าวก็มีกลุ่มบุคคลที่อยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมได้ขว้างปาสิ่งของ ทั้งก้อนหิน ขวดน้ำ วัตถุที่ก่อให้เกิดระเบิดแรงดันต่ำ ฯลฯ ทำให้ตำรวจบาดเจ็บทั้งสิ้น 23 นาย
ต่อมาหลังผู้ชุมนุมบางส่วนประกาศให้ยุติชุมนุม ได้มีกลุ่มบุคคลชุมนุมต่อและก่อความวุ่นวาย ขว้างปาสิ่งของ ทั้งหิน ขวด วัตถุระเบิด ใส่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งเตือนให้แยกย้ายกันกลับบ้าน เพราะมีความจำเป็นต้องเปิดเส้นทางการจราจร และรักษาความสงบเรียบร้อยให้เข้าสู่ภาวะปกติ กลุ่มผู้ก่อเหตุวุ่นวายยังคงชุมนุมต่อจนครบเวลา 30 นาที ตำรวจจึงต้องใช้กำลังในการผลักดันผู้ชุมนุมออกเพื่อรักษาความสงบและเปิดเส้นทางการจราจร ทั้งนี้ตำรวจยืนยันว่าไม่ได้ใช้น้ำฉีด ไม่ได้ใช้แก๊ส และไม่ได้ใช้กระสุนยาง
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องจับตาดูว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนปลดแอกในวันที่ 20 มีนาคมนี้ จะเกิดเหตุรุนแรงหรือไม่ เพราะในพื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตพระราชฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการเตรียมการป้องกันอย่างเต็มรูปแบบ อาจจะมีการใช้ตู้คอนเทนเนอร์มาวางป้องกันไว้
ทั้งนี้ การที่ม็อบประกาศว่า ไม่มีการเคลื่อนขบวน ไม่มีแกนนำนั้น ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยมีการเคลื่อนมวลชนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้เกิดเหตุรุนแรงเช่นเดียวกัน ซึ่งจะอ้างว่า ม็อบไม่มีแกนนำ แต่แท้จริงแล้วมีผู้บงการม็อบอยู่ โดยใช้สื่อโซเชียลเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหวของม็อบมาโดยตลอด