จากกรณีเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก เทศบาล-มุกดาหารก้าวหน้า โพสต์รูปภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า วิดีโอคอลกับนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย มุกดาหาร ในกิจกรรมรณรงค์ปราศรัยเลือกตั้งท้องถิ่น ในวันที่ 28 มี.ค. 2564 ที่จะถึงนี้
ต่อมามีรายงานว่า เรื่องนี้ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้น และไม่ได้นิ่งนอนใจ
โดย คุณหญิงกัลยา ได้สั่งการทันทีที่ทราบเรื่องไปยังนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกภายใต้สามมาตรการ คือ
- ห้ามมิให้สถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการทุกแห่ง จัดกิจกรรมทางการเมืองเพื่อใช้ในการหาเสียงสำหรับกลุ่มการเมือง หรือพรรคการเมืองโดยเด็ดขาด
2.ให้สถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการทุกแห่งมีมาตรการเฝ้าระวัง สอดส่อง แบบเข้มงวดไม่ให้ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า หรือบุคคลหนึ่ง บุคคลใด เข้ามาทำกิจกรรมในสถานศึกษาเพื่อหวังผลทางการเมือง
3.ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่เขตการศึกษา ในพื้นที่รับผิดชอบดูแลโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณมุกดาหาร เร่งหาข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรายงานผลกลับมายังกระทรวงศึกษาธิการโดยเร็ว ทั้งนี้ ในกรณีที่ทราบว่าบุคลากรของสถานศึกษามีพฤติกรรมในการเอื้ออำนวยประโยชน์ให้บุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเข้ามาใช้สถานศึกษาเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมือง จะต้องมีบทลงโทษตามระเบียบราชการอย่างเคร่งครัด
คุณหญิงกัลยา ยินดีสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ทางด้านประชาธิปไตยให้กับนักเรียน นักศึกษา ตามหลักการการสร้างพลเมืองประชาธิปไตย และพร้อมเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม แต่ต้องเป็นไปภายใต้แนวทางการให้ความรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ที่มิได้หวังผลทางการเมืองหรือมีประเด็นอื่นใดแอบแฝง
ทั้งนี้ จากการที่ คุณหญิงกัลยา ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว และมีการสั่งการให้ตรวจสอบ และจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากกระทำผิดจริง ซึ่งกรณีนี้เองจึงเกิดการตั้งคำถามและเปรียบเทียบไปว่า ก่อนหน้านี้สมัย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เป็น รมว.ศธ. ได้เคยมีเหตุการณ์ที่นายธนาธรเข้าไปพูดคุยกับนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง และอีหลาย ๆ ครั้ง แต่ทว่าในขณะนั้นกลับไม่ได้มีการจัดการขั้นเด็ดขาดในเรื่องเหล่านี้แต่อย่างใด ปล่อยปละละเลยจนสังคมเบื่อหน่ายถึงขั้นเรียกร้องให้นายณัฏฐพลลาออก
ล่าสุด เมื่อมีประเด็นร้อนแรงอย่างนี้ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ ก็รีบออกมาโพสต์ข้อความแสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ชื่อ “Pannika Wanich @Pannika_FWP” ต่อประเด็นดังกล่าวในทันทีว่า เราอยู่ในระบอบอะไรกัน อยู่ ๆ จึงห้ามหาเสียงในโรงเรียน? แต่ไหนแต่ไร ส.ส. ส.จ. หาเสียงในโรงเรียนเป็นเรื่องปกติ เป็นการให้เด็กเรียนรู้การเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ดีที่สุดคือโรงเรียนควรเปิดโอกาสให้ทุกพรรคทุกกลุ่มหาเสียงอย่างเท่าเทียม เพื่อให้นักเรียนได้เห็นแนวคิดนโยบายหลากหลาย
พร้อมกันนี้ น.ส.พรรณิการ์ ยังได้มีการแนบไฟล์ข่าว จากสำนักข่าวดัง พร้อมระบุว่า “อ่านข่าวต้นฉบับ กระทรวงศึกษามีมาตรการห้ามหาเสียงในโรงเรียน จากกรณีธนาธรไลฟ์พูดคุยเรื่องเลือกตั้งท้องถิ่นกับนร. ที่มุกดาหาร ก่อนวันเลือกตั้งเทศบาล 28 มีนาคมนี้”
อย่างไรก็ตาม จากประเด็นดังกล่าวที่นายธนาธร โฟนอินกับนักเรียน โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย มุกดาหาร นี้ กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องการหาเสียงอย่างคุกรุ่น น.ส.พรรณิการ์ก็รีบออกมาเสริมทัพ โดยแสดงความเห็นในทำนองว่า การหาเสียงในโรงเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องผิด เพราะที่ผ่านมาก็เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้?? แต่ขณะเดียวกัน น.ส.พรรณิการ์ กลับไม่ได้บอกว่า สิ่งที่ทำนั้นแอบลักไก่ หลอกลวง หรือเป็นการรวมหัวกับผู้บริหารหรือไม่?? และที่ผ่านมา นายธนาธร ตั้งแต่เป็นอนาคตใหม่ก็ออกมาปลุกระดม ปั่นหัวนักเรียนแบบนี้มาแล้ว หรือ ช่อทำพฤติกรรมเช่นนี้จนเคยชินและเห็นว่าเป็นสิ่งถูกต้องหรืออย่างไร???
