รักษาการ รมว.ศึกษาฯ สั่งสอบรร.ทันที ซัดไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง สังคมชื่นชมต่างสมัยณัฎฐพลปล่อยทำเฉย

7599

คณะก้าวหน้ามุกดาหารรีบโพสต์แจงหลังรมว.ศึกษาฯสั่งสอบโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย มุกดาหาร ปม ให้นายธนาธร โฟนอินนักเรียน

จากกรณีเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก เทศบาล-มุกดาหารก้าวหน้า โพสต์รูปภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า วิดีโอคอลกับนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย มุกดาหาร ในกิจกรรมรณรงค์ปราศรัยเลือกตั้งท้องถิ่น

ต่อมามีรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก เทศบาล-มุกดาหารก้าวหน้า โพสต์แจงกรณีดังกล่าวว่า แถลงการณ์คณะมุกดาหารก้าวหน้า เรื่อง การขออนุญาตใช้สถานที่ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ณ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2564

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่านายธนาธร ได้ทำการติดต่อสื่อสาร (Phone in) เข้ามาเพื่อพูดคุยกับนักเรียนของโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร ในกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตยภายในสถานศึกษา ณ อาคารหอประชุม ซึ่งถูกบิดเบือนและกล่าวหาว่าเป็นการยุยงปลุกปั่นนักเรียนให้มีความคิดในทางที่ไม่เหมาะสม

คณะมุกดาหารก้าวหน้าขอเรียนชี้แจงว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นในระดับเทศบาล ซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม 2564 จึงขอเชิญชวนรณรงค์ให้เด็กและเยาวชนตามสถานศึกษา ตระหนักในความสำคัญของสิทธิและหน้าที่ความเป็นพลเมือง โดยเรียกร้องให้นักเรียนที่มีอายุครบเกณฑ์ที่จะสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ร่วมกันทำหน้าที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วย

นอกจากนี้ยังได้อธิบายบทบาทและการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นว่ามีความสำคัญต่อชีวิตของนักเรียนอย่างไรบ้าง โดยคณะมุกดาหารก้าวหน้าได้เล็งเห็นว่า นายธนาธร เป็นนักการเมืองคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถพูดอธิบายเนื้อหาดังกล่าวได้อย่างน่ารับฟัง และเป็นที่ชื่นชอบของเยาวชนคนรุ่นใหม่ จึงได้มีการเชิญนายธนาธร ฯ เข้ามาร่วมพูดคุยในประเด็นเนื้อหาดังกล่าวกับนักเรียน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และไม่มีข้อความหรือคำพูดใดที่ไม่เหมาะสมดังที่สื่อสังคมออนไลน์ได้กล่าวหาทั้งสิ้น

ในการขออนุญาตจัดกิจกรรมดังกล่าวคณะมุกดาหารก้าวหน้าได้ดำเนินการติดต่อประสานงานและได้รับอนุญาตจากผู้บริหารโรงเรียนแล้ว ซึ่งผู้บริหารสถานศึกษาก็ได้แสดงความกังวลต่อคณะทำงานผู้จัดว่าต้องไม่ทำให้เกิดการทำผิดกฎหมายหรือระเบียบของสถานศึกษา ขอให้คณะทำงานผู้จัดไปศึกษาระเบียบข้อกฎหมายให้ละเอียดรอบคอบว่าโรงเรียนสามารถอนุญาตให้จัดกิจกรรมดังกล่าวได้ แล้วให้ประสานงานครูผู้รับผิดชอบดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป

ประการต่อมา ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2563 กำหนดให้ ในการจัดกิจกรรมปราศรัยหรือโฆษณาหาเสียงจะต้องมีการแจ้งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดก่อนทุกครั้ง คณะผู้จัดจึงได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 4 มีนาคม 2564  แจ้งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหารทราบก่อนดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าวแล้ว โดยในการเชิญนายธนาธร มาช่วยในการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งครั้งนี้ ได้มีการระบุชื่อให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร  และผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหารทุกคนแล้ว รายละเอียดปรากฏตามหนังสือยินยอมให้ใช้ภาพถ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ฉบับลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 และหนังสือแจ้งรายชื่อผู้ช่วยหาเสียงของคณะมุกดาหารก้าวหน้าและบัญชีรายชื่อผู้ช่วยหาเสียงแนบท้ายหนังสือ ฉบับลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564

คณะมุกดาหารก้าวหน้าขอเรียนว่า การดำเนินการใด ๆ ในการหาเสียงหรือประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง มีรายละเอียดข้อยุ่งยากเป็นจำนวนมาก หากดำเนินการโดยไม่ระมัดระวังอาจทำให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ ซึ่งคณะมุกดาหารก้าวหน้าได้มีคณะทำงานด้านกฎหมายคอยดูแลตรวจสอบในเรื่องต่าง ๆ รวมถึงการกระทำอันหมิ่นเหม่ต่อการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง หรือการพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความสำคัญผิดในคะแนนเสียง การที่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่าย โพสต์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ โดยกล่าวหาว่าคณะมุกดาหารก้าวหน้าถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง หรือถูกดำเนินคดีอาญา เป็นการกล่าวหาที่ปราศจากมูลความจริง ไม่มีหลักฐาน  ทำให้คณะมุกดาหารก้าวหน้าเกิดความเสียหาย และยังเป็นการกระทำการอันเป็นเท็จ หลอกลวง ใส่ร้ายด้วยความเท็จหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 65 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 126 วรรคสอง และมาตรา 118 วรรคแรกแห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ซึ่งคณะทำงานด้านกฎหมายของคณะมุกดาหารก้าวหน้าได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลดังกล่าวแล้วและกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาจนกว่าคดีจะถึงที่สุดเป็นลำดับต่อไป

คณะมุกดาหารก้าวหน้า ขอกราบขออภัยมายังผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันรวมทั้งบุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายของโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร หากคณะมุกดาหารก้าวหน้าทำให้ท่านเกิดความเดือดร้อน คณะมุกดาหารก้าวหน้าขอน้อมรับความผิดนั้นทุกประการ

ด้าน นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อมูลปรากฏเป็นข่าวกรณีที่นาย ธนาธร ได้มีการโฟนอินเพื่อไปร่วมพูดคุยกับน้อง ๆ นักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยมุกดาหาร สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมิได้นิ่งนอนใจ

ได้สั่งการทันทีที่ทราบเรื่องไปยังนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกภายใต้สามมาตรการ คือ 1. ห้ามมิให้สถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการทุกแห่ง จัดกิจกรรมทางการเมืองเพื่อใช้ในการหาเสียงสำหรับกลุ่มการเมือง หรือพรรคการเมืองโดยเด็ดขาด 2.ให้สถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการทุกแห่งมีมาตรการเฝ้าระวัง สอดส่อง แบบเข้มงวดไม่ให้ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า หรือบุคคลหนึ่ง บุคคลใด เข้ามาทำกิจกรรมในสถานศึกษาเพื่อหวังผลทางการเมือง

และ3.ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่เขตการศึกษา ในพื้นที่รับผิดชอบดูแลโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณมุกดาหาร เร่งหาข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรายงานผลกลับมายังกระทรวงศึกษาธิการโดยเร็ว ทั้งนี้ ในกรณีที่ทราบว่าบุคลากรของสถานศึกษามีพฤติกรรมในการเอื้ออำนวยประโยชน์ให้บุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเข้ามาใช้สถานศึกษาเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมือง จะต้องมีบทลงโทษตามระเบียบราชการอย่างเคร่งครัด

นางดรุณวรรณ ยังกล่าวต่อว่า คุณหญิงกัลยา ยินดีสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ทางด้านประชาธิปไตยให้กับนักเรียน นักศึกษา ตามหลักการการสร้างพลเมืองประชาธิปไตย และพร้อมเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม แต่ต้องเป็นไปภายใต้แนวทางการให้ความรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ที่มิได้หวังผลทางการเมืองหรือมีประเด็นอื่นใดแอบแฝง

อย่างไรก็ตาม จากเรื่องดังกล่าวมีกระแสชื่นชม คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว และมีการสั่งการให้ตรวจสอบ และจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากกระทำผิดจริง ซึ่งกรณีนี้เองจึงเกิดการตั้งคำถามและเปรียบเทียบไปว่า ก่อนหน้านี้สมัย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เป็น รมว.ศธ. ได้เคยมีเหตุการณ์ที่นายธนาธรเข้าไปพูดคุยกับนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง และอีหลาย ๆ ครั้ง แต่ทว่าในขณะนั้นกลับไม่ได้มีการจัดการขั้นเด็ดขาดในเรื่องเหล่านี้แต่อย่างใด ปล่อยปละละเลยจนสังคมเบื่อหน่ายถึงขั้นเรียกร้องให้นายณัฏฐพลลาออก