จากกรณีที่ เพจฯเฟซบุ๊ก ”UNME of Anarchy” ได้ประกาศจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองในวันเสาร์ที่ 13 มีนาคม เวลา 14:00 น.
โดยระบุว่า จะเริ่มเดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปทำเนียบรัฐบาล เดินไปสร้างหมู่บ้านทะลุฟ้า เขียนรัฐธรรมนูญประชาชน นอกจากนี้ ยังเปิดพื้นที่เปิดรับความหลากหลายของปัญหา ใครมีปัญหาหรือเรื่องอะไรอยากบอกต่อ หรือสร้างกิจกรรมก็สามารถมาเข้าร่วมได้ ส่วนการเตรียมตัวสำหรับค้างคืน แนะนำให้เตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาด้วย เช่น เต็นท์ หมอน ผ้าห่ม เสื้อผ้า และอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัว
ขณะเดียวกันกลุ่มแดงก้าวหน้า และนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำกลุ่มราษฎรนนท์ ได้เชิญชวนสาวกร่วมม็อบทะลุฟ้าในันที่ 13 ด้วยเช่นกัน
ต่อมา เมื่อวานนี้ 10 มี.ค. 64 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ได้เปิดเผยว่า การชุมนุมทุกครั้งมีแกนนำแน่นอน ผู้ชักชวนคือแกนนำแต่จะเปิดเผยตัวหรือแอบอยู่เบื้องหลังเท่านั้นเอง ไม่มีการชุมนุมครั้งไหนไม่มีแกนนำทุกครั้งมีแกนนำ แต่มาโดยเปิดหน้าหรือไม่เปิดหน้าแค่นั้นเอง ส่วนการชักชวนชุมนุมวันนี้ในช่วงเย็นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เจ้าหน้าที่เตรียมกำลังไว้เพียงพอแก่การรักษาการณ์ ให้ตำรวจพื้นที่ บก.น.1 สน.พญาไท รักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันเหตุร้าย บช.น.มีกำลังเสริมกรณีมีการชุมนุมลุกลามมากขึ้น ส่วนนี้ไม่น่าห่วง ฝากเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุม การชุมนุมขณะนี้เป็นการกระทำผิดกฎหมาย หากยังฝืนกระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายครั้งจะถูกดำเนินคดีในหลายคดีหลายข้อหา
ส่วนการชุมนุมในวันเสาร์ที่ 13 มีนาคม กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินจากอนุสารีย์ประชาธิปไตยไปยังทำเนียบรัฐบาล จะมีการเตรียมกำลังตามการข่าวและลักษณะการชุมนุม ถ้าสถานการณ์การข่าวจะมีอันตรายต่อสถานที่ราชการสำคัญเรามีความจำเป็นที่จะต้องรักษาสมบัติของชาติ รักษาสถานที่สำคัญและรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตกรุงเทพฯ ผู้ชุมนุมมาก เราไม่ห่วง แต่กังวลว่าอาจจะใช้ความรุนแรง อย่างที่เห็นผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทุบทำลายสถานที่ราชการ ทำลายทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน มีการใช้พลุเพลิง พลุไฟ ดอกไม้ไฟ มีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายที่จะลุกลามใหญ่โต บางครั้งถ้าเกิดในสถานที่โบราณสถานถ้าเกิดแล้วเราไม่สามารถฟื้นฟูหรือซ่อมแซมกลับมาเหมือนเดิมได้ หลายแห่งมีอายุนับ 100 ปี ถ้าเกิดเหตุขึ้นจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อประเทศ
ก่อนหน้านี้ ม็อบทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเดินทะลุฟ้า ของไผ่ ดาวดิน และไมค์ ภานุพงศ์ กลุ่มแดงก้าวหน้า และกลุ่มราษฎรนนท์ ภายใจ้การนำของ นายชินวัตร นั้น มีผู้ร่วมชุมนุมค่อนข้างน้อย และไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ม็อบอื่นๆเเคยเป็น เป็นเหตุให้คาดเดาได้ไม่ยากว่า ม็อบในวันที่ 13 มีนาคมนี้ อาจจะมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมบางตา ซึ่งขณะเดียวกัน ในช่วงหลังๆนี้ ม็อบมีการเพิ่มระดับความรุนแรงการชุมนุม จนเป็นเหตุให้มีการปะทะเกือบครั้ง และยังมีการบุก ทำลาย สร้างความเสียหายให้กับสถานที่ราชการอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การประกาศปักหลักค้างคืนนั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อครั้งม็อบวันที่ 14 ต.ค. 2563 บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าสลายการชุมนุมและจับกุมแกนนำ ในเช้ามืดวันที่ 15 ต.ค. 63 เวลาประมาณ 4.40 น.
แต่ในกรณีของวันที่ 13 มี.ค.64 ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะไม่สามารถทำการปักหลักได้ เนื่องจากว่าจำนวนผู้ชุมนุมนั้น ไม่มากพอ และอาจจะมีการเปลี่ยนแผนต่างๆ เหมือนที่เคยทำมาแล้วในวันที่ 6 มี.ค.64 ที่ผ่านมาก็เป็นได้
ถึงอย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูกันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีแผนรับมืออย่างไรกับการชุมนุมปักหลักค้างคืนในวันที่ 13 มี.ค. 64 นี้ โดยครั้งนี้อาจจะมีรูปแบบที่แตกต่างจากครั้งก่อนๆหรือไม่ และกลุ่มผู้ชุมนุมจะเลือกใช้ความรุนแรงเพื่อกดดันสถานการณ์และรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งครั้งนี้ หากถูกดำเนินคดีคงจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้แล้ว