แกะรอยสุรเชษฐ์คืนถิ่นปทุมวัน!?! จากวันเละเป็นโจ๊ก สู่วันหักพาล ปูพรมแดงกลับสตช.

3839

จากกรณีที่ เมื่อ วันที่ 9 มี.ค. 64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีได้ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กลับเข้ารับราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ว่า ไม่ใช่เรื่องการลงนาม ซึ่งเป็นเรื่องของกฎหมายและเป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะเสนอชื่อมายังนายกรัฐมนตรี เมื่อตรวจสอบแล้วยังไม่ได้ข้อยุติ ก็ส่งกลับไปสอบต่อ

อย่างไรก็ตาม หากย้อนประวัติการทำงานของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล พบก่อนหน้านี้ เมื่อ ครั้งปี 2558 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้เป็นผู้บังคับการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าประสานนายกรัฐมนตรี โดยพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ทำหน้าที่นายตำรวจประสานงานใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม รองนายกรัฐมนตรี คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ในตอนนั้น)จากนั้นไม่นาน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ขยับเป็นผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ในปีเดียวกัน( 2558)

จนปี 2559 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ขยับเป็น ผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏฺิบัติการพิเศษ 191 จนมาถึงปี 2560 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ที่มีอาวุโสลำดับที่ 76 ได้รับการเสนอชื่อจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. ขึ้นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและโยกมานั่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว

เปิดหนทางเก้าอี้"บิ๊กโจ๊ก" จะได้ตำแหน่งใหม่ในสตช. | เดลินิวส์

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดินหน้าจับกุมผู้กระทำความผิดคดีต่างๆ มากมาย ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็น ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว จนมีคำถามจากหลายคนว่า เขามีหน้าที่อะไร แต่เมื่อไปดูคำสั่งแต่งตั้งพบว่า เขาได้รับมอบหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เป็นหัวหน้าคณะทำงานหลายชุดด้วยกัน ซึ่งตำแหน่งที่สร้างบทบาทให้เขาเป็นอย่างมากคือ รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน เขาสร้างผลงานกับงานนี้มากมาย จนเป็นกล่าวถึงของคนยากคนจนที่ได้รับความเดือดร้อน และได้รับความช่วยเหลือ

โดยกลางปี 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้ร่วมทีมจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงิน โดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พร้อมนำกำลังจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดและปลอมเอกสารสิทธิ

หลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งการให้แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ และจัดตั้งชุดเฉพาะกิจศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน

การเดินหน้าแก้ปัญหา “หนี้นอกระบบ” อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปราบนายทุนดอกเบี้ยโหดในภาคอีสาน นับว่าเป็นผลงานชิ้นโต ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร ส่งผลให้รองนายกรัฐมนตรีลงนามแต่งตั้ง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เป็นผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยมีหน้าที่ช่วยปฏิบัติงานโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีตามที่รองนายกรัฐมนตรีมอบหมาย โดยเน้นช่วยภาระงานด้านกฎหมาย และมาตรการในการบังคับใช้กฎหมาย เช่น เรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายหน่วยงาน

ในที่สุดก็เป็นจริง'บิ๊กโจ๊ก'คัมแบ๊กสตช. ทุกอย่างไร้ปัญหา | เดลินิวส์

ต่อมา วันที่ 27 ก.ย.2561 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) พิจารณาแต่งตั้ง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รองผบช.ทท.) ขึ้นเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.)

หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2561 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศตํารวจชั้นนายพล มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศตํารวจชั้นนายพล ให้แก่ ข้าราชการตํารวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ราชการมาด้วยความเรียบร้อยเป็นผลดีแก่ทางราชการจํานวน 101 นาย โดยหนึ่งในนั้น คือ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ที่ได้เลื่อนยศเป็น พลตํารวจโท

ต่อมา 6 เม.ย.2562 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย

หลังจากนั้น ในวันที่ 9 เม.ย.2562 ที่ประชุม ครม.มีมติโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) เป็นข้าราชการพลเรือน สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี

ในวันเดียวกันนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศคำสั่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 2/2562 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐเพิ่มเติม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง โดยให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อโอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหารระดับสูง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังมีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พ้นจากทุกตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จนกระทั่ง ล่าสุด วันที่ 9 มีนาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กลับเข้ารับราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ