สถานีผลาญงบ รัฐเลี้ยงเสียข้าวสุก? ขุดประวัติ ลากไส้ “ผอ.เครือข่ายไทยพีบีเอส” ต้อนรับ”ก๊วนสามกีบ” ที่แท้เป็นอดีตลูกหม้อประชาไท

3621

หลังจากที่เป็นประเด็นให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความเหมาะสมไปแล้ว สำหรับกรณีที่ “นายสมเกียรติ จันทรสีมา” ผอ.สำนักเครือข่ายสื่อสาธารณะ TPBS ได้ออกมายืนรอหน้าสถานี ให้การต้อนรับ “ไผ่ ดาวดิน” และก๊วนเดินทะลุฟ้า เข้ามานั่งพัก และมีการต้อนรับอย่างอบอุ่น แม้ว่าตัว “ไผ่ ดาวดิน” จะเข้าเรือนจำไปแล้ว ด้วยกรณีที่ทำผิดมาตรา 112 และไม่ได้รับการประกันตัว

 


เหตุการณ์ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 ขบวนเดินทะลุฟ้าที่นำโดย ไผ่ ดาวดิน ได้เดินทางจากเส้นรังสิต มาจนถึงเส้นวิภาวดี และได้นั่งพักบริเวณลานได้หน้าสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โดยมี “นายสมเกียรติ จันทรสีมา” ผอ.สำนักเครือข่ายสื่อสาธารณะ TPBS ให้การต้อนรับ พร้อมให้สัมภาษณ์ด้วยว่า “การเปิดพื้นที่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมแวะพักว่า พื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่กลาง ให้กับทุกกลุ่มนี่ก็เป็นหน้าที่เราต้องช่วยดูแลให้ประชาชนมีประกันเสรีภาพในการแสดงออก แต่อีกด้านก็พยายามจะช่วยดูแลเรื่องของความปลอดภัยด้วย”

ในแง่ของการชุมนุมที่ผ่านมาทางกลุ่มดำเนินการราบรื่นมาโดยตลอด กลุ่มที่เข้ามาเราก็เห็นเป็นประชาชนที่เขามีความเดือดร้อนอยู่ หน้าที่เรา เราต้องเป็นเสียงหนึ่งให้กับคนในสังคมได้รับรู้ว่ามีคนที่เขาเดือดร้อนจากเหตุการณ์ อาจจะเอาเสียงของภาครัฐหรือคนที่เกี่ยวข้องมาตอบให้กับเขาด้วย

จากเหตุการณ์และคำพูดดังกล่าว ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า “ไทยพีบีเอส” เป็นสื่อสาธารณะที่รับเงินจากรัฐบาล ซึ่งปี 2563 ที่ผ่านมา มีการใช้งบไปมากถึง 2,953.86 ล้านบาท ภายใต้ผังการบริหารดังนี้


จากข้อมูลกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. หรือ ไทยพีบีเอส มีรายชื่อดังต่อไปนี้

1. รองศาสตราจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง : ประธานกรรมการนโยบาย

2. นายบุญเลิศ คชายุทธเดช : กรรมการนโยบาย ด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย การพัฒนาชุมชนหรือท้องถิ่น การเรียนรู้และศึกษา การคุ้มครองและพัฒนาเด็ก เยาวชนหรือครอบครัว หรือการส่งเสริมสิทธิของผู้ด้อยโอกาสทางสังคม

3. นางสาวอุษาสินี ริ้วทอง : กรรมการนโยบาย ด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย การพัฒนาชุมชนหรือท้องถิ่น การเรียนรู้และศึกษา การคุ้มครองและพัฒนาเด็ก เยาวชนหรือครอบครัว หรือการส่งเสริมสิทธิของผู้ด้อยโอกาสทางสังคม

4. ผู้ช่วยศาสตราจารย์อนุสรณ์ ธรรมใจ : กรรมการนโยบาย ด้านการบริหารจัดการองค์กร

5. นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา : กรรมการนโยบาย ด้านการบริหารจัดการองค์กร

เเละในส่วนของ คณะกรรมการบริหารสถานี ได้เเก่ นายโยธิน สิทธิบดีกุล ผู้อำนวยการสำนักโทรทัศน์และวิทยุ (ประธานกรรมการ ปฏิบัติหน้าที่นายสถานีโทรทัศน์)

สำหรับ“นายสมเกียรติ จันทรสีมา” ผอ.สำนักเครือข่ายสื่อสาธารณะ TPBS มีประวัติที่น่าจับตามองถึงแนวคิดที่ สนับสนุนการเคลื่อนไหวของม็อบและกลุ่มเดินทะลุฟ้า ดังนี้

ภารกิจงาน ปัจจุบัน
เป็นผู้อํานวยการสํานักเครือข่ายสื่อสาธารณะ
ผู้อํานวยการสํานักเครือข่ายสื่อประชาสังคม
ผู้อํานวยการสํานักเครือข่ายสื่อพลเมือง

ม.ค. 52 – ปัจจุบัน
รับผิดชอบการผลิตข่าวและรายการจากเครือข่ายสื่อสาธารณะ ร่วมพฒนาและ
ยกระดับเครือข่ายสื่อสาธารณะชุมชน เพื่อให้มีศักยภาพในการผลิตข่าวและรายการที่
มีคุณภาพเปนเครือข่ายร่วมสื่อสาธารณะทุกระดับที่ร่วมกันพัฒนาสังคม

ประวัติการทํางาน หัวหน้าโต๊ะข่าวพลเมือง ฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

พ.ค. 51- ธ.ค. 51

-ดูแลกระบวนการฝึกอบรมนักข่าวพลเมือง และการออกอากาศช่วงข่าวพลเมือง ไทยพีบีเอส
-ผู้จัดการโครงการส่งเสริมชีวิตมั่นคง ปลอดอบายมุข มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ

 

ม.ค. 51 – ก.ย. 51
– พัฒนาพื้นที่นําร่องเพื่อเป็นต้นแบบในการจัดการการพนัน และผลักดันให้มีนโยบายแห่งชาติ
ว่าด้วยการพนัน
-บรรณาธิการศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ก.ย. 48 – ม.ค. 51
-ดูแลรับผิดชอบการผลิตข่าวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านพื้นที่ Irsaranews.org
-บรรณาธิการสํานักข่าวออนไลน์ประชาไท

เม.ย. 47 – ส.ค. 48
-ควบคุมดูแลการผลิตข่าวทางเว็บไซต์ prachatai.com
-ผู้ปฏิบัติงานกลุ่มประชาธิปไตยเพื่อประชาชน(ปXป)

ก.พ. 44 – มี.ค. 47
-รับผิดชอบการผลิตจุลสารประชาธิปไตยเพื่อประชาชน(ปxป)
-เจ้าหน้าที่ประสานงานภาคสนาม โครงการนักสืบสายน้ำ ประจําสํานักงานเชียงใหม่

ก.ค. 41 – ก.พ. 44
-รับผิดชอบงานฝึกอบรมฯ และจัดทําคู่มือนักสืบสายน้ำ สําหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาใน
พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ลําพูน

 

ประจํากองบรรณาธิการนิตยสารโลกสีเขียว
ก.พ. 41
-นักเขียนประจากองบรรณาธิการนิตยสารโลกสีเขียว
-ผู้ช่วยบรรณาธิการข่าว โต๊ะข่าวสิ่งแวดล้อม/เศรษฐกิจมหภาค ผู้จัดการรายวัน
-ผู้ช่วยบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจมหภาค หนังสือพิม์ FINANCIAL DAY
-ผู้สื่อข่าวประจํากองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน (โต๊ะข่าวการเมือง/โต๊ะข่าว
เศรษฐกิจ)

การศึกษา คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
พ.ศ. 2531 -2534

 

ประสบการณ์ – อาจารย์ที่ปรึกษาจุลนิพนธ์คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัย
ศิลปากร

– บรรณาธิการสํานักข่าวชาวบ้าน (พ.ศ. 2550 – 2551)
– บรรณาธิการหนังสือ “ปักหมุด เทใจ บันทึกประสบการชีวิตเหยี่ยวข่าวอิศรา”(พ.ศ.2549)
– ผู้สื่อข่าวพิเศษ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ประจําจังหวัดเชียงใหม่ (พ.ศ.2541-2542)
– ประสานงานรายการ “สู่ยุคภูมิปัญญาไท” ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี (พ.ศ. 2539)
– ผู้ช่วยบรรณาธิการ จุลสารไทยคดีศึกษา สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

(พ.ศ.2533-2534)
– ผู้ช่วยอาจารย์คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (พ.ศ. 2532-2534)
– นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (พ.ศ. 2534)

จากประวัติของนายสมเกียรติ จันทรสีมา จะเห็นว่า จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเคยเป็นนายกองค์การนักศึกษาด้วย ซึ่งการเคลื่อนไหวของกลุ่ม 3 นิ้ว มีรุ้ง ปนัสยา , เพนกวิน รวมอยู่ด้วย ทั้ง 2 คนล้วนมาจากรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นอกจากนี้ยังเคยเป็นบรรณาธิการที่ประชาไท ซึ่งแน่นอนว่า ตอนนี้ก็ชัดเจนว่าประชาไท เลือกนำเสนอข่าวการชุมนุมแบบไหน เลือกฝั่งชัดเจน อย่างวันที่มีเหตุการณ์จับแอมมี่ เนื่องจากการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงร.10 ประชาไทก็ได้นำเสนอบทความ เรื่อง “ย้อนดูศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปเคยชี้เผารูปกษัตริย์เป็นเสรีภาพในการแสดงออก” โดยในบทความเป็นการพูดถึง คำตัดสินของศาลสเปนในคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์ฆวน การ์ลอสที่ 1 และพระราชินีโซเฟีย และคำตัดสินศาลสิทธิมนุษยชนยุโร เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2561

ซึ่งศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปตัดสินว่าการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ในการประท้วงที่สเปน สามารถทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่กระกระทำดังกล่าวต้องไม่ใช่การทุษร้ายด้วยวาจา (Hate Speech)

และบทความดังกล่าว ได้ถูกง “นายปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการคณะก้าวหน้า นำไปขยายต่อในประเด็นเดียวกัน โดยพูดถึงคำตัดสินคดีของ ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป ตัดสินเรื่องการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อดึงให้ประชาชน 3 นิ้ว รู้สึกว่า การกระทำดังกล่าวของ “แอมมี่” นั้นไม่ชอบธรรมในมุมมองของกลุ่มที่ต้องการล้มล้างสถาบัน

แน่นอนว่าจากประวัติการทำงานของผู้อํานวยการสํานักเครือข่ายสื่อสาธารณะ และการกระทำที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 นำมาซึ่งคำถามว่า ในงบปีละเกือบ 3,000 ล้าน ทำไมองค์กรสื่อสาธารณะถึงไม่เป็นกลาง และยังนำเสนอเข้าข้างม็อบที่ไม่ได้ต้องการเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างที่กล่าวอ้าง แกนนำแต่ละคนก็มีคดีติดตัว จากการชุมนุมที่ปราศรัยจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด การแสดงออกสนับสนุนจนเกินหน้าเกินตา ไม่ใช่แค่ทำให้คนที่รักสถาบันรับไม่ได้ แต่มันคือความไม่เหมาะไม่ควร เมื่อเป็นองค์กรสาธารณะ ก็ย่อมต้องนึกถึงความรอบคอบในการนำเสนอ เพราะเมื่อเข้าข้างม็อบ 3 นิ้วที่ต้องการล้มเจ้า องค์กรก็จะถูกเหมารวมไปด้วยว่า เป็นสื่อล้มเจ้า ที่รับเงินจากภาษีประชาชน