จากกรณีที่ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 7 มีนัดผู้ต้องหา 18 คนฟังคำสั่งในคดีชุมนุม “19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร“
เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.2563 ที่ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และสนามหลวง ความผิด ม.112 และ ม.116
โดยมีแกนนำ 3 คนถูกข้อหา ม.112 ได้แก่ 1.น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง 2.นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน 3.นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์
ส่วนอีก 15 คน มาตรา 116 และมาตรา 215 ของประมวลกฎหมายอาญา ประกอบด้วย 1.นายอรรถพล บัวพัฒน์ 2.นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง 3.นายชูเกียรติ แสงวงศ์ 4.นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา 5.นายณัทพัช อัคฮาด 6.นายธนชัย เอื้อฤาชา 7.นายธนพ อัมพะวัต 8.นายธานี สะสม 9.ภัทรพงศ์ น้อยผาง 10.นายสิทธิ์ทัศน์ จินดารัตน์11.นายสุวรรณา ตาลเหล็ก 12.นายอดิศักดิ์ สมบัติคำ 13.นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ 14.นายณัฐชนน ไพโรจน์ และ 15.นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ “แอมมี่ the bottom blues” ซึ่งขณะนี้ถูกฝากขังระหว่างสอบสวนในคดีวางเพลิงหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ล่าสุด อัยการมีคำสั่ง ฟ้อง 1.น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง 2.นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน 3.นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์รุ้ง ไมค์ ไผ่ ผิดม.112 ส่วน อีก15 แนวร่วม ผิด ม.116 และ อีก 11 ข้อหา พร้อมนำตัวส่งศาล และค้านประกัน
ทั้งนี้ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ แกนนำกลุ่มราษฎร หนึ่งในผู้ต้องหาคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร กล่าวสั้นๆ กับผู้ชุมนุมว่า ตนเป็นเพียงคนที่เพาะต้นกล้าประชาธิปไตย จากนี้ไปเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ร่วมรดน้ำ ให้ต้นกล้าแข็งแรง มั่นคง
ด้าน นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ชวนผู้ชุมนุมที่เดินทางมาให้กำลังใจ นั่งสงบนิ่งกลางแดด 15 นาที พร้อมกล่าวว่า ขอให้ทุกคนลองหลับตานึกถึงวันแรกที่เราตัดสินใจก้าวเดิน ทำสิ่งที่มันเหนื่อย เดินจากโคราช 247.5 กม. ระหว่างทางเดิน พวกเราเหนื่อย บ้างท้อแท้ มีคนมาร่วมเดินกับเรา แต่ก็มีคนที่ต้องอยู่ในเรือนจำ ทำให้พวกเราต้องออกมา
นายจตุภัทร์ กล่าวว่า จากนี้ไม่ว่าพวกเราจะอยู่ข้างในหรือข้างนอก กระบวนการต่อสู้ได้เกิดขึ้นแล้ว ขอให้พวกเราสงบนิ่ง การต่อสู้ครั้งนี้เป็นของพวกเราทุกคนที่เป็นมนุษย์ มีหลายคนที่ต้องถูกโดดเดี่ยว เรามองดูผู้คนต่างๆ ไม่ใช่แค่ไผ่หรือไมค์ มีอีกหลายคนที่ต้องเดือดร้อน อยากให้ทุกคนสู้ต่อ ไม่ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะสู้กันต่อไป
จากนั้นในเวลาใกล้เคียงกัน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง เดินทางมาถึง ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้หวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าศาลจะให้ความยุติธรรม แม้วันนี้จะส่งฟ้อง สุดท้ายจะอยู่ระหว่างพิจารณาคดี ซึ่งระหว่างพิจารณาคดีหมายความว่าเรายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จะทำเหมือนเราเป็นผู้มีความผิดไม่ได้ แต่ว่าศาลจะให้ความยุติธรรมกับเราได้ หรือให้สิทธิในการประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และเราคาดหวังว่าผู้ที่เข้าไปก่อนหน้านี้ จะได้รับการประกันตัวเช่นกัน
ทั้งนี้ก็เตรียมใจมาอย่างถึงที่สุดเรื่องผลประกัน เราพูดมาตลอดว่าการมาลงสนามนี้ สุดท้ายถึงเราจะต้องเข้าคุกไป หรือว่ากี่คน สุดท้ายแล้วคนที่อยู่ข้างนอก เขาก็ยังต่อสู้กันอยู่ ไม่จำเป็นว่าต้องมีเราเขาถึงจะสู้กันได้ เพราะฉะนั้นเราไม่ห่วงเลย อย่างไรก็ตามได้มีการพูดคุยกับแกนนำรุ่นใหม่ต่อจากนี้ ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาในการดูแล และร่วมต่อสู้ไปกับทุกคน
ถามถึงกรณีแกนนำก่อนหน้านี้ไม่ได้รับการประกันตัว ประเมินสถานการณ์อย่างไร น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า พ่อแม่เราค่อยข้างเข้มแข็ง และเตรียมใจมาพอสมควร ตั้งแต่เข้าคุกไปครั้งแรก สำหรับคนใกล้ตัว หากตนเองต้องเข้าคุกก็ฝากฝังทุกอย่างไว้หมดแล้ว.