จนท.พรรคซูจีเสียชีวิตระหว่างคุมขัง?!? ขณะสภาสหภาพNLD ประกาศกองทัพเป็นพวกก่อการร้าย ร้องUN-USแทรกแซง??

1430

เมียนมาระอุดุเดือด ทั้งการเคลื่อนไหวในต่างประเทศและภายในประเทศ ซึ่งสื่อตะวันตกขานรับ รายงานกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเฉพาะกาลของเมียนมาปัจจุบัน อย่างคึกคักขยายผล เช่นกรณีทูตของเมียนมาซึ่งแต่งตั้งสมัยรัฐบาลพรรคNLD ของอองซาน ซูจีในกลุ่มประเทศตะวันตกปฏฺิเสธคำสั่งให้กลับประเทศ แม้ทางการสั่งปลด ยังยืนยันไม่รับคำสั่งและทำงานต่อภายใต้การอุ้มชูรับรองของสหประชาชาติ เดี๋ยวนี้เขาแทรกแซงกันแบบออกหน้าออกตาเลย ด้วยข้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย และละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนภายในประเทศ นักการเมืองพรรคซูจีได้จัดตั้งสภาสหภาพฯเสนอขอเป็นรัฐบาลแห่งชาติโดยอ้าง กลุ่มชาติพันธุ์เห็นด้วย และขอให้สหรัฐ-อังกฤษ-UN รับรอง และประกาศว่าพลเอกมิน อ่อง หล่ายและคณะก่อการยึดอำนาจเป็น”ก่อการร้าย” แล้วรัฐบาลเฉพาะการที่สนับสนุนโดยกองทัพจะรับมืออย่างไร?

เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2564 สำนักข่าวดิอิระวดี (The Irrawaddy) รายงาน ว่ายูคิน หม่องลัท (U Khin Maung Latt) ประธานพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National League for Democracy-NLD) ประจำเขตพาเบดัน (Pabedan) ในมณฑลย่างกุ้ง เสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกาย ขณะอยู่ระหว่างการคุมขังของตำรวจและทหารเมียนมา ทั้งนี้ตำรวจเมียนมาปฏิบัติการจับกุมสมาชิกพรรค NLD ไปเมื่อวันที่ 6 มี.ค.2564 โดยจับกุมสมาชิกในเขตพาเบดัน อย่างน้อย 4 ราย และเขต กวักตะดา(Kyauktada) 3 ราย

เหตุการณ์นี้จุดกระแสต่อต้านขยายวงมากขึ้นจากการกระพือข่าวสื่อหลักตะวันตกและในโซเชียลมิเดีย และในวันเดียวกันสหภาพแรงงานฯในเมียนมา 9 แห่งได้ประกาศนัดหยุดงานในวันนี้ (8 มี.ค.2564) เพื่อให้เศรษฐกิจหยุดชะงักถือเป็นการชัดดาวน์เศรษฐกิจของพม่าให้เป็นอัมพาต โดยไม่สนใจว่าจะกระทบชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างไร?

ในแถลงการณ์ร่วมของพวกเขาระบุว่า หากยังปล่อยให้มีการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจตามปกติ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพ ที่กำลังทุ่มเทสรรพกำลังไปกับการปราบปรามประชาชน

ชาวเมียนมายังคงออกมาประท้วงอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างแรงกดดันให้กับกองทัพเมียนมา  สื่อท้องถิ่นรายงานโดยอ้างผู้เห็นเหตุการณ์ว่า ได้ยินเสียงปืนรวมถึงมีการใช้ระเบิดแสงในหลายพื้นที่ของนครย่างกุ้งในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ขณะที่ทหารได้เข้าไปสร้างที่พักภายในโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีผู้รับบาดเจ็บหรือไม่

ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD-National League for Democracy) จำนวน 15 คน ที่ถือว่าเป็นตัวแทนของ ส.ส.ได้รับเลือกจากประชาชนเมื่อวันที่ 8 พ.ย.2563 ได้รวมตัวกันก่อตั้ง คณะกรรมการผู้แทนสภาสหภาพ (Committee Representing Pyidaungsu Hluttaw-CRPH) ขึ้นมา ซึ่งทางสภาสหภาพได้ประกาศให้ สภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ภายใต้การนำของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เป็นกลุ่มก่อการร้าย ตามกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายของเมียนมา

คณะกรรมการผู้แทนสภาสหภาพ (CRPH) มีตัวแทนของ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้ง 2 สภาคือ สภาชาติพันธุ์ (Amyotha Hluttaw) และสภาผู้แทนราษฎร (Pyithu Hluttaw) มีสิทธิ์ทำหน้าที่เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ และการดำเนินงานด้านกิจการระหว่างประเทศ ยังได้แต่งตั้ง ดร.ซา ซ่า เป็นตัวแทนคณะกรรมาธิการสามัญสหภาพรัฐสภาว่าด้วยกิจการสหประชาชาติ และแต่งตั้ง นายถิ่น ลิน อ่อง เป็นตัวแทนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 

ดร.ซา ซ่า ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส แจกแจงแผนการของพรรคNLD ที่จัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวขึ้นมาต่อสู้ระบอบเผด็จการทหาร โดยเตรียมขอให้สหรัฐฯ อังกฤษ และยูเอ็น ให้การรับรอง 

ในเรื่องนี้ยังไม่มีท่าทีจากสหประชาชาติตอบรับแต่อย่างไร แม้อังกฤษจะผลักดันการประชุมลับของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และผลักดันให้มีมติกดดันสูงสุดในการส่งกำลังทหารสหประชาชาติเข้าควบคุมเมียนมาแต่ไม่สำเร็จและ ในด้านจีนได้เสนอหลักการ 3 ข้อเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ตึงเครียดในเมียนมาดังนี้

สำนักข่าวพีเพิ่ลเดลี่(People’s Daily) รายงานว่า นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและ รมว.กระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงต่อสื่อมวลชนระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน เมื่อ 7 มี.ค.2564 ระบุถึงข้อเสนอ 3 ข้อของจีนเพื่อให้สถานการณ์ในเมียนมาลดความตึงเครียด ได้แก่ 

1) ขอให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจและแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาในกรอบกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งและการเสียชีวิต 

2) สนับสนุนให้อาเซียนยึดมั่นในหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในและหลักฉันทามติ ขณะที่จีนต้องการติดต่อสื่อสารกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในเมียนมา โดยยึดหลักการเคารพอธิปไตยและความปรารถนาของประชาชนของเมียนมา รวมทั้งแสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด และ 

3) จีนมุ่งมั่นจะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเมียนมาไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปเช่นใด โดยจีนมีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนานกับทุกฝ่ายในเมียนมา รวมทั้งกับพรรค NLDด้วย

การเสนอเป็นกาวใจของจีนจะได้รับการตอบรับจาก ทางการเมียนมาหรือไม่คงต้องติดตามกันต่อไป

เพราะได้เกิดกระแสข่าวเซอร์ไพรซ์จากสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า นักล็อบบี้ยิสต์จากอิสราเอล-แคนาดา บริษัทDickens & Madson Canada  มาแฉว่า ผู้นำทหารของเมียนมาติดต่อให้พวกเขาล็อบบี้สหรัฐ ว่าคณะผู้นำทางทหารมีความตั้งใจรามือจากการเมืองหลังรัฐประหาร และต้องการปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐเพราะไม่ต้องการเป็นหุ่นเชิดให้จีน

อารี เบน-เมนาเช (Ari Ben-Menashe) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทางทหารของอิสราเอล กล่าวว่าอองซานซูจีซึ่งเป็นผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมาตั้งแต่ปี 2016 มีความใกล้ชิดกับจีนมากเกินไปจนเกินกว่าที่พวกนายพลในกองทัพจะยอมรับได้

เบน-เมนาเช เผยว่า เขากำลังอยู่ที่เกาหลีใต้หลังจากเยือนกรุงเนปิดอว์เมืองหลวงของเมียนมาซึ่งเขาได้ลงนามในข้อตกลงกับนายพล เมียะ ตุน อู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัฐบาลทหาร เขากล่าวว่าเขาจะได้รับค่าตอบแทนที่ไม่เปิดเผยจำนวน  หากสามารถทำให้ชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อกองทัพเมียนมา แบน-เมนาเช บอกว่าว่าพวกผู้นำในกองทัพในเมียนมา “พวกเขาไม่ต้องการเป็นหุ่นเชิดของจีน”

เอาละซิ ท่าทีที่เหนือความคาดหมายของกองทัพเมียนมาต่างจากการคาดการณ์เดิมที่เชื่อว่าจีนอยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจ  จะเป็นความจริงหรือ เป็นเกมส์ซับซ้อนในกองทัพเมียนมา หรือแค่ข่าวเสี้ยมให้แตกกับพันธมิตร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คงมีแต่ผู้นำกองทัพ พลเอกมิน อ่อง หล่ายเท่านั้นที่บอกเราได้??