ชำแหละยับ “โตโต้” เด็กปั้น “ประชาไท” สู่ ส.ส.คนสนิท “ปิยบุตร-ธนาธร” ก่อนผันตัวเป็น “หัวหน้าการ์ด”

3502

ชำแหละยับ “โตโต้” เด็กปั้น “ประชาไท” สู่ ส.ส.คนสนิท “ปิยบุตร-ธนาธร” ผันตัวเป็น “หัวหน้าการ์ด” สร้างความรุนแรง ตามนายสั่ง!?

หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2556 เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นายปิยรัฐ ถือว่าเป็นที่จับตามมองในกลุ่มการเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังจากที่ เป็นตัวแทนกลุ่ม เยาวชนปฏิรูปการรับน้องประชุมเชียร์แห่งชาติ นำหนังสือ ข้อเสนอเพื่อแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสมของการรับน้องใหม่ในปัจจุบัน มายื่นให้กับ ท่าน รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งส่งผลให้การรับน้องที่ใช้ระบบว้าก (SOTUS) ในสถาบันการศึกษา มีการพูดถึงเป็นอย่างมาก

ต่อมาทางด้านของ นายปิยรัฐ ก็ได้เติบโตมากับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มประชาไท โดยได้เป็นตัวแทนกลุ่มนักศึกษา ที่ต่อต้านระบบโซตัส ในงานเสวนา “การปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และความปลอดภัยออนไลน์” ที่โรงแรมวินเซอร์ สวีทส์ กรุงเทพฯ ในวันที่ 27 ก.ย.56 โดยมีนักสิทธิมนุษยชนในไทยเข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ที่จัดขึ้นโดยประชาไท

นอกจากนี้ในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางด้านของ นายปิยรัฐ ได้เข้าศึกษาที่ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ภาคบัณฑิต) ก็ได้ขับเคลื่อน และอยู่ในกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองของทาง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับทางด้านของ “นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์” หรือ “จ่านิว”

ต่อมาในวันที่ 7 ส.ค. 2559 นายปิยรัฐ ซึ่งเป็นนายกสมาคมเพื่อเพื่อน FFA กระทำการฉีกบัตร ลงคะแนนเสียงลงประชามติ ณ เขตบางนา โดยก่อนฉีก ปิยรัฐ ตะโกนด้วยว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” ต่อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทางด้านศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ก.ย.60 ว่ามีโทษจำคุก 4 เดือน ฐานทำให้เสียทรัพย์ และทำลายบัตรออกเสียง

ต่อมาในวันที่ 15 ส.ค.61 ศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษา จำคุก 6 เดือน ในข้อหาหนักขึ้นคือ ทำลายบัตรออกเสียง ก่อความวุ่นวายในที่ออกเสียง

หลังจากนั้นทางด้านของนายปิยรัฐ ได้เกิดการแค้นฝั่งหุ่นบวกกับ พรรคอนาคตใหม่ ได้ก่อตั้งขึ้น ซึ่งทางด้านของอนาคตใหม่ก็ได้มุ่งหวังจะดึงตัวนายปิยรัฐ หลังจากที่สร้างชื่อฉีกบัตรประชามติ ทำให้ทางด้านของ นายปิยรัฐ ได้ลงสมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ ได้รับเสียงสนุนประมาณ 20000 คะแนน ส่วนคนที่เป็นส.ส.เขตผมได้ไป ประมาณ 35000 คะแนน จึงทำให้เป็น ส.ส. สอบตก แต่ก็ยังขับเคลื่อนร่วมกับ “พรรคอนาคตใหม่” มาโดยตลอด ประทั่งโดนยุบพรรค

ซึ่งในวันที่ 21 ก.ค.63 นายปิยบุตร แสงกนกกุล ในฐานนะเลขาธิการคณะก้าวหน้า ก็ได้มาร่วมฟังคำตัดสินของศาลฎีกา และออกมาปกป้องนายปิยรัฐ ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันแล้ว แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี

ต่อมานายปิยรัฐ ได้กลับมามีชื่ออีกครั้ง หลังจากได้รับบทเด่นเป็นหัวหน้าการ์ด ที่คอยตัดสินเด็ดขาดของม็อบปลดแอก และคณะราษฎร ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า เหตุใด กลุ่มการ์ดวีโว่ ถึงได้อยู่ทนอยู่นาน แต่ก็ไม่แปลกใจอะไร เพราะ นายปิยรัฐ ค่อนข้างมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคส้มมาโดยตลอด และถือว่าสนิทสนม และปกป้อง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

และการชุมนุมต่างๆ เราจะเห็นได้ว่ามีการหนุนของพรรคส้ม อย่างเต็มที่ในทุกๆครั้ง จึงไม่แปลกใจที่ นายปิยรัฐ จะได้ยืนหนึ่งในการเป็นการ์ดชุมนุม เพราะการ์ด ถือว่าเป็นตัวหมากสำคัญของ การชุมนุม หัวหน้าการ์ดและคนที่มีอำนาจสั่งการจึงต้องเป็นคนที่นายใหญ่สามารถควบคุมได้

ในช่วงแรก การ์ดก็ยังทำหน้าที่ควบคุมความสงบตามปกติ แต่แล้วเริ่มมีกลิ่นความพ่ายแพ้ลอยออกมาเรื่อยๆ กลุ่มการ์ดจึงต้องยกระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนอย่างต่อเนื่อง กระทั่งที่เราเห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 28 ก.พ.64 หรือ ล่าสุด 6 มี.ค.64 การ์ดเริ่มก่อจลาจลอย่างชัดเจน มีการพบอาวุธจำนวนมาก และมีการบุกปล้นชิงตัวนักโทษอย่างอุกอาจ โดยหน้าที่การก่อจลาจลนี้ มีกลุ่มเดียวที่สามารถทำได้ คือ “การ์ด” และมวลชนที่ในตอนแรกออกมาเป็นจำนวนมาก ต่างรู้เห็นตรงนี้ดี ว่าการ์ดกำลังใช้ประชาชนเป็นเหยื่อเพื่อยกระดับความรุนแรง ส่งผลให้มวลชนเริ่มออกห่างจากม็อบ และไม่เห็นด้วย ทำให้ม็อบจุดไม่ติดอีกต่อไป